วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แบบทดสอบ: เงิน 10 บาท

ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ที่เคารพ(และรักยิ่ง)และเพื่อนๆทุกคนเคยอ่านบทความนี้กันรึยัง
แต่สำหรับตัวผมนั้นอ่านแล้วรู้สึกชอบมากๆ (เพราะเห็นจะเป็นอย่างนั้นจิงๆในหลายๆวิชา)
ลองอ่านกันดูนะคับ...

ถ้ามี
เงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร?

โจทย์ง่ายๆแค่นี้
คิดให้ดีก่อนตอบนะคับ

ก. 7 บาท
ข. 2 บาท
ค. 1 บาท
ง. ไม่ต้องทอน

แล้วก็ขอเหตุผลด้วยนะว่าเลือกข้อไหนเพราะอะไร?

เมื่อได้คำตอบแล้ว...
ให้อ่านต่อด้านล่างนะ

l
l
l
l
l
V


ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า
'ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท
จะได้รับเงินทอนเท่าไร'
เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า '7 บาท'
แต่มีเด็ก 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น

คนหนึ่งตอบว่า '2 บาท'

อีกคนหนึ่งตอบว่า 'ไม่ต้องทอน'

ครูถามเด็กคนแรกว่า ทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท
คำตอบที่ได้ ก็คือภาพในใจของเขา
สำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ
เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ
ดังนั้น จึงได้เงินทอน 2 บาท

ถามเด็กคนที่สองว่า ทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือ เด็กคนนี้คิดว่า
ในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ
เมื่อซื้อของราคา 3 บาท
เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ
เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน
ลองนึกดูสิครับว่า ถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบ
ที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง

เด็ก 2 คนนี้ ก็คงจะไม่ได้คะแนน
เพราะคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่

การสร้างโจทย์ที่ 'เสมือนจริง' จินตนาการของ 'ครู'
อาจถูกจำกัดเพียงแค่ 'ตัวเลข'

แต่สำหรับเด็กนั้นมีจินตนาการที่ไร้กรอบ
เพราะฉะนั้นเงิน 10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็น
เหรียญสิบ เหรียญห้า หรือเหรียญบาท

และในปัจจุบันเมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท
เราจึงอาจจะได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ
คือ ได้เงินทอน 1 บาท

'โลกในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน'

สำหรับโลกในห้องเรียน
นั้นทุกคำถามจะมีเพียง 1 คำตอบที่เป็นคำตอบของคนส่วนใหญ่
แต่สำหรับโลกของความเป็นจริงทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบก็เป็นได้

เพราะฉะนั้น 'เราจึงไม่ควรตัดสินความผิดของคนๆนั้นเพียงแค่เพราะคำตอบของเราเป็นคำตอบของคนส่วนใหญ่'

แต่ในบางครั้งก็อย่าคิดมากจนเกินไปเหมือนกับเด็ก 2 คนนี้ ^^

1 ความคิดเห็น:

  1. บางทีการคิดแตกต่างจากคนอื่นๆก็จะได้มุมมองที่ต่างออกไป

    ตอบลบ