วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ระบบช่วยจอดรถ

การนำรถเข้าไปจอดในที่จอดที่แคบๆ นั้น เป็นการยากสำหรับผู้ขับรถมือใหม่ หรือถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ การขับรถมานานแล้วก็ตาม ก็ยังคงต้องใช้เวลาในการเข้าจอดอยู่หลายนาทีเช่นกัน เหตุนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันกลุ่มหนึ่ง จึงได้พัฒนารถยนต์ที่ไม่เพียงแค่สามารถเข้าจอดในที่จอดได้ แต่ยังสามารถทำการสแกนไปบนถนนเพื่อหาช่องว่างในการจอดรถได้ด้วย โดยระบบช่วยจอดนี้มีชื่อว่า "ปาร์คเมท" (Parkmate) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ซีเมนส์ วิดีโอ (Siemens VDO) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์รายใหญ่ของโลก

ภายหลังจากที่ระบบทำการสแกนไปบนถนนเพื่อหาที่ว่าง และคำนวณทางเรขาคณิตเพื่อหาทิศทางการบังคับรถเข้าที่จอดแล้ว "ปาร์คเมท" ยังทำให้ผู้ขับรู้สึกมั่นใจอีกครั้งด้วยเสียงดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกให้ผู้ขับหยุดการควบคุมรถ และปล่อยให้รถบังคับตัวเองเข้าไปจอดยังช่องว่างนั้นๆ จากนั้นรถก็จะเคลื่อนที่ถอยหลังไปข้างๆ รถที่จอดอยู่ก่อนแล้ว และเคลื่อนเข้าที่จอดโดยไม่ชนฟุตปาธเลย Mr.Dirk Zittlau ผู้บริหารของบริษัทซีเมนส์ วิดีโอ กล่าวว่า ปาร์คเมทเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาจากเวอร์ชั่นเดิมโดยบริษัทได้ใช้เวลาทดสอบระบบนี้มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ซึ่งปัญหาที่พบคือ ในสภาวะที่สภาพอากาศหนาวหรือ อุณหภูมิลดต่ำลงมากๆ ระบบเซ็นเซอร์จะทำงานคลาดเคลื่อนเนื่องจากไม่สามารถตรวจวัดสัญญาณจากฟุตปาธได้ ดังนั้น ระบบนี้จึงยังต้องใช้เวลาในการพัฒนา อีก 1-2 ปี จึงจะนำเข้าสู่ตลาดได้

นอกจากนี้บริษัทยังมีระบบอื่นๆ ที่พร้อมเข้าสู่ตลาดแล้วได้แก่ ระบบช่วยเตือนคนตาบอด ซึ่งจะส่งสัญญาณให้คนตาบอดรู้เมื่อมีรถยนต์แล่นมาใกล้ ซึ่งระบบนี้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แล้วและพร้อมเข้าสู่ตลาดในปี พ.ศ.2549 นอกจากระบบดังกล่าว บริษัทยังได้พัฒนาระบบเตือนเมื่อผู้ขับบังคับรถไปนอกเลนที่ตนขับอยู่ และระบบเตือนที่กระจกรถเมื่อผู้ขับใช้ความเร็วเกิดกำหนด ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวไม่เพียงแค่อ่านข้อมูลจากป้ายกำหนดความเร็วข้างทางเท่านั้น ยังสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาประมวลกับระดับความเร็วของรถและแผนที่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งไว้ในรถ เพื่อปรับขีดจำกัดความเร็วในการขับให้สอดคล้องกับระดับความเร็วที่กำหนดตามป้าย ทั้งนี้ แนวคิดของบริษัทซีเมนส์ วิดีโอ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ คือ ต้องการ "พยายามที่จะลดงานที่น่าเบื่อในการขับรถให้กับผู้ขับ"

วิธีเอาตัวรอดจากการข่มขืน>>>ฮามากแต่รอดได้จริง

>>>>อาจจะมีคำไม่สุภาพบ้างแต่ก็เป็นความรู้ติดตัวอยากให้อ่านแล้วไปบอกต่อหน่อยนะจ๊ะ

โอ้วิธีนี้แปลก และเพิ่งเคยอ่านนี่แหละ แต่วิธีไหน ๆ ก้อแล้วแต่ ที่สำคัญคือต้องไม่สติแตกสะก่อน และสุดท้ายขอให้ทุกคนไม่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย พระคุ้มครองนะ

1. ศิลปะป้องกันตัวต่างๆ ร้อยละเก้าสิบ ผู้หญิงหมดสิทธิ์ใช้คับเพราะคนร้ายจะซุ่มรอทีเผลอคับ ที่โดนบ่อยๆคือล็อคแขนไขว้หลัง มืออุดปากแล้วกระชากหรือลากเข้าข้างทาง ถ้าเตรียมตัวมาดีก็อาจจะมีอาวุธจี้เพื่อไม่ให้เหยื่อขัดขืน แน่นอนว่าน้อยคนที่เห็นมีด ปืนแล้วจะกล้าใช้แท็คติคที่เรียนมา

2. เมื่อโดนลากเข้าข้างทาง คุณก็จะโดนต่อยท้องเพื่อให้จุกจนไม่มีแรงดิ้นและตบปากหรือต่อยหน้าเพื่อให้ กลัวเจ็บหรือกึ่งๆหมดสติ จากนั้นถ้าคนร้ายหื่นแบบชาญฉลาดก็จะหาของมาอุดปากคุณไว้ ถ้าโชคร้ายคุณนุ่งกระโปรงมาอาจจะเจอกกน.ตัวเอง ซวยแท้ๆ

3. เมื่อคนร้ายเห็นคุณไม่มีแรงดิ้น ก็จะทำการถลกส่วนล่างคุณออก โดยท่าที่นิยมคือนั่งคร่อมเอว เอาเข่ากดแขนส่วนบนคุณไว้ทำให้ไม่มีแรงมากพอจะผลักแถมยังจุกอยู่อีกตะหาก ฮิๆ

4.. จากนั้นเมื่อฐานยิงโล่งโจ้ง คนร้ายก็จะงัดจรวดออกมาเตรียมปฏิบัติการ จังหวะนี้ถ้าคุณโชคดียังมีสติอยู่ให้พยายามเซฟแรงไว้รอข้อต่อไป

5. เมื่อคนร้ายพยายามสอดใส่ ให้คุณรวบรวพลังที่มี "ขมิบ" ไว้ครับ ตะบองแข็งหรือจะสู้แรงโล่เนื้อ คนร้ายก็จะเริ่มเสียสมาธิเพราะจ้องจะลงรูอย่างเดียว ให้คุณอาศัยจังหวะนี้ซึ่งคนร้ายมักจะเผลอลืมกดแขน คว้าลูกป๋องแป๋งเลยคับ โดนลูกเดียวไม่เป็นไร อย่าตกใจปล่อยมือเพื่อกำใหม่ให้โดนสองลูก
เดี๋ยวจะ หมดโอกาส จากนั้นบีบให้เต็มที่เลยคับ เอาเล็บจิกด้วยยิ่งดี ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครคิดจะฆ่าคุณในตอนนี้หรอกคับ รับรองร้องเสียงหลง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

6. หลังจากนั้น อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดหนีคับ พิจารณาดูคนร้ายให้ดีก่อน รีบประเมินสถานภาพคนร้ายว่า ที่เราทำลงไปหยุดเขาได้ไหม ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ตายตอนโดนข่มขืนแต่จะมาตายตอนนี้ละคับ เพราะจะหนีอย่างเดียว ตัวเองก็วิ่งไม่ไหว คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาตามทุบหัวเอาได้ ดังนั้นหากเห็นว่าคนร้ายหมดสภาพแน่ๆและชุมชนอยู่ไม่ไกลจึงค่อยหนีคับ

7. ทีนี้ถ้าคนร้ายแค่เสียจังหวะคืออาจจะลงไปนอนงอก่องอขิงอยู่แป๊บเดียวและมีที ท่าจะลุกขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำคือ รีบหาอาวุธให้เร็วที่สุดคับ ไม้ ก้อนหิน ปากกา(ใช้เสียบได้) คัตเตอร์ สเปรย์ ปืน ครกที่จะเอาไปจำนำฯลฯ ถ้าไม่มีจริงๆก็ส้นตรีนนี่แหละคับ หวดเข้าไปที่บริเวณต่อไปนี้คับ
- ที่เดิม (นั่นแหละคับ) แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้เพราะคนร้ายมักจะกุมไว้
- หน้าแงหรือกลางแสกหน้า คนตัวโตๆตายเพราะส้นตรีนผู้หญิงๆมีเยอะคับ ยิ่งใส่ส้นสูงด้วย อู๊ย....
- กกหู ขมับ ทุบรัวๆเลยคับ(ไม่แนะนำท้ายทอยหรือคาง โดนยาก)
- ถ้ามีก้อนหินโตๆ ทุบกลางหน้าแข้งเลยครับ รับรองเดี้ยง ร้องสามบ้านแปดบ้าน
- ที่สุดท้าย อาจจะโหดหน่อยแต่ถ้าทำได้ เวิร์คคับ "นิ้วเท้า" โดยเฉพาะนิ้วเล็กๆตั้งแต่นิ้วกลางถึงนิ้วก้อยนี่ละคับ หินทุบผัวะเข้าไป อย่าใจอ่อนคับ เอาให้เละไปเลย ถ้าทำดีคนร้ายอาจจะเจ็บถึงสลบคับ

- จากนั้นรีบจัดเครื่องแต่งกาย คว้าสิ่งของมีค่าพาตัวเองออกไปให้ไวที่สุดคับ กรี๊ดๆกรูรอดแล้ว เย้

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มาดูอายุตอนตายกันมะ

เข้าเว็บนี้เลย ดูเล่นๆนะ อย่าคิดมาก

http://www.deathforecast.com/

ปล.เขาบอกว่าผมจะตายตอนอายุ ๖๖ อะ

กลิ่นปาก วัดได้วยละ ๐_๐!

นี่คือหน้าตาเครื่องวัดกลิ่นปากครับ มันมีชื่อว่า Breath Tester


วิธีใช้ง่ายๆ

  • กดปุ่มที่อยู่ด้านหน้า ปุ่มสีขาวๆนั่นแหละ
  • ทีนี้เครื่องจะให้สัญญาณ ก็ให้เราหายใจเข้า-ออก วอร์ม1ครั้ง ยังไม่ต้องพ่นลมหายใจไปที่เครื่อง
  • ต่อมาตัวการ์ตูนในเครื่อง จะทำท่าอ้าปาก เราก็อ้าปากจ่อไปที่เซนเซอร์เลย ห่างประมาณ 1นิ้วก็ได้นะ ไม่จำเป็นต้องเมาท์ทูเมาท์
ตัวการ์ตูนที่เครื่องจะมีคะแนน 3 ระดับ คือ
ใช้ได้–หน้ายิ้ม
ไม่ค่อยดี–เริ่มๆจะหน้าเหย
เหม็น–ปากตกเลย ตามรูปนี้...


Breath Tester มีเครื่องวัดปริมาณก๊าซแบบอิเลคโทรนิคติดตั้งอยู่ พกติดตัวไปวัดได้ทุกที่ จนกว่าถ่าน AAA จะหมด ราคา 48 ดอล หรือประมาณ 1,630บาท

....................................................................................................................

เครื่องนี้ถ้ามีขายต้องขายดีแน่ๆเลย เพราะเวลาเราเทสต์แล้วมันเหม็นขึ้นมา

กลิ่นติดเครื่อง คนอื่นก็จะไม่กล้าขอยืมใช้ เลยต้องไปซื้อเครื่องใหม่ไง….๕๕๕๕

มาเปลี่ยนคำด่าเป็นกำลังใจกันดีกว่า

1. โดนด่าว่า "iควาย"

หมายถึง เขากำลังยกย่องว่า คุณเป็นคนขยัน อดทน และมีสมาธิสูง
ควายนั้นขยันและอดทนสุดขีด
ไม่ค่อยมีปรากฏว่าควายหลบงานไถนาไปนั่งเล่นแร็กน่าร็อก
หรือควายหนุ่มแอบไปจีบควายสาวข้ามทุ่ง ใช่ไหม
ดังนั้น ต่อไปเวลาใครเรียกคุณว่า
" iควาย" กรุณายิ้มรับ
ตอบในใจ (หรือตอบดังๆ ก็ได้ ถ้ากล้าพอ) ว่า "ขอบคุณครับ (ค่ะ),
คุณก็เช่นกัน"

2. โดนไล่ไปตาย

อันนี้ฟังดูค่อนข้างแรงนะ แต่มาคิดดูดีๆ แล้วเนี่ย
โลกปัจจุบันมันน่าอยู่เสียที่ไหน อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย ทั้งนั้น
เดินอยู่ดีๆ โดนแก๊งปล้นมือถือตีกบาลแล้วลากไปปลดทรัพย์
ไปเป็นตำรวจทหารอยู่ปักษ์ใต้ ก็อาจจะมีคนเอาลูกปืนมาแจกถึงหัวเตียง
อยู่ กทม. จะขึ้นรถเมล์ก็โดนหั่นสาย โดนลดจำนวนรถ
จะขึ้นรถไฟฟ้าก็แน่นเอี๊ยด แถมขึ้นตอนดึกๆ ก็เสียวๆ
กลัวจะเห็นภาพอะไรที่คนเขาไม่เห็นกันอีก
โอ้ย การมีชีวิตอยู่มันหาความปลอดภัยใดๆไม่ได้จริงๆ สงสัยจะถึงยุค
ตายก่อนสบายก่อน" แล้วกระมัง
ใครไล่คุณไปตายเนี่ย
นับว่าเขาห่วงในสวัสดิภาพของคุณนะครับ
แต่อาจจะเป็นห่วงชนิดล้ำหน้าข้ามช็อตมากไปหน่อย
แต่เราก็ควรจะขอบคุณเขาว่า

"ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ เชิญพี่ก่อนเถอะ"

3. โดนกล่าวถึงบุพการี

มีทั้งแบบย่อหรือแบบเต็ม แบบ เต็มก็อาจจะออกมาเต็มๆ "พ่อ++,แม่++"
หรือสั้นๆ
เช่น "++"
อันนี้แสดงว่าเคารพบิดามารดาเราเสมือนบิดา มารดาของเขาเอง
จึงกล่าวถึงเพื่อให้เราระลึก
หรือเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะคิดถึงพ่อถึงแม่ เพราะพ่อไปหมดแล้ว
การที่เขาพูดออกมาอาจจะเพราะยินดีที่พ่อแม่เราสุขสบายอยู่
ดังนั้น ถ้าคุณถูกใครขนานนามหรือกล่าวถึงบุพการี

ก็ขอให้เห็นใจผู้พูดบ้างก็ดี

4โดนด่าว่า "สัตว์"

อันนี้ก็ไม่ต้องไปคิดมากนะ จริงๆ เขาจะเรียกคุณว่า
ผู้ประเสริฐดุจพระโพธิสัตว์"
แต่เป็นเวอร์ชั่นรีบๆ ย่อๆ เลยเหลือแค่ "สัตว์"
ไม่เป็นไรนะเราเชื่อในเจตนาดีของเขา ยิ้มรับกันดีกว่า ยิ้มรับ

อาจมีคำไม่เหมาะนะ แต่ก็เปลี่ยนให้เป็นกำลังใจได้นะ ฮิๆ

เป็นอัมพาตเพราะน้ำอัดลม



ดร.โมเสส เอลิซาฟ อายุรแพทย์ หัวหน้าทีมวิจัยจากมหา- วิทยาลัยไอโออันนินา เผยว่า การดื่มน้ำอัดลมมากๆ (โดยเฉพาะ น้ำสีดำ) กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนอกจากทำลายฟัน ทำให้ กระดูกผุ ส่งผลถึงระบบเมตาโบลิซึม และเป็นสาเหตุของเบาหวานแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะไฮโปคาเลเมียหรือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ทำให้ กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย ไม่มีแรง จนอาจถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตอีกด้วย

จากการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยที่ดื่ม น้ำอัดลมวันละ 2 - 9 ลิตรต่อวันต่อเนื่อง เป็นประจำ พบว่า คนไข้มาพบหมอด้วย อาการเหนื่อยล้า กล้ามเนื้อไม่มีแรง ไม่อยากอาหาร คล้ายจะอาเจียนตลอดเวลา ผลการตรวจเลือดพบ โพแทสเซียมในเลือดต่ำและมีภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันร่วมด้วย แต่หลังจากให้หยุดดื่มน้ำอัดลมและหันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมแล้ว พบว่า อาการป่วยดังกล่าวหายไป

ประมาณการกันว่า ในแต่ละปีคนทั้งโลกดื่มน้ำอัดลมราว 500 ล้านลิตร หรือประมาณ 80 ลิตรต่อ คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะชาว อเมริกันที่ดื่มกันมากถึงคนละ 200 ลิตรต่อปี


รู้อย่างนี้แล้วลดปริมาณการดื่มลงบ้างเพื่อ สุขภาพที่ดีกว่านะจ๊ะเพื่อนๆ

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ที่สุดในโลกที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

ทวีปที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก....ทวีปเอเชีย มีพื้นที่ 43,938,573 ตารางกิโลเมตรหรือร้อยละ 16.2 % ของพื้นดินทั้งโลก
ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก....ทวีปออสเตรเลีย มีพื้นที 7,682,705 ตารางกิโลเมตรหรือร้อยละ 5.7 % ของพื้นดินทั้งโลก
มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก....มหาสมุทรแปรซิฟิก มีเนื้อที่ 165,760,000 ตารางกิโลเมตร
มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก....มหาสมุทรอาร์กติก มีเนื้อที่ 14,438,000 ตารางกิโลเมตร
บริเวณที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร....ร่องลึกมารีนา ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เขตประเทศฟิลิปปินส์ วัดความลึกได้ 10,934 เมตร
ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก....ทะเลจีนใต้ มีเนื้อที่ 2,980,358 ตารางกิโลเมตร
ทะเลที่เล็กที่สุดในโลก....ทะเลเหลือง มีเนื้อที่ 294,533 ตารางกิโลเมตร
ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลก....ทะเลสาบแคสเปียน ทางตอนใต้ของรัสเซีย ในทวีปเอเชีย มีเนื้อที่ 371,000 ตารางกิโลเมตร ทะเลสาบแคสเปียนยังเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก....ทะเลสาบไปคาล เป็นทะเลสาบน้ำจืด อยู่ในเขตไซบีเรียประเทศรัสเซีย จุดที่ลึกที่สุดวัดได้ 1,617 เมตร
ทะเลสาบที่มีน้ำเค็มที่สุดในโลก....ทะเลสาบเดดซี ตั้งอยู่ระหว่างประเทศอิสราเอลกับจอร์แดน
ทะเลสาบที่ตั้งอยู่บริเวณที่สูงกว่าทะเลสาบใดๆในโลก....ทะเลสาบกลาเซียล บนที่ราบสูงทิเบต สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,940 เมตร
เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก....เกาะกรีนแลนด์ ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เป็นเกาะที่อยู่ในความปกครองของประเทศเดนมาร์กมีพื้นที่ 2,175,333 ตารางกิโลเมตร
ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก....ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ บนเทือกเขาหิมาลัยในเขตเนปาลและทิเบต สูงจากระดับน้ำทะเลย 8,848 เมตร
ภูเขาที่ยาวที่สุดในโลก....ภูเขาแอนดิส ในทวีปอเมริกาใต้มีความยาว 7,564 กิโลเมตรหมู่เกาะที่มีจำนวนเกาะมากที่สุดในโลก....หมู่เกาะอินเดียตะวันออก ที่บริเวณมาเลเซีย อินโดนีเชียและบรูไน มีจำนวนเกาะประมาณ 13,600 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือ เกาะนิวกินี
แนวหินประการังที่ยาวที่สุดในโลก....แนวหินประการังเกรตแบริเออร์รีฟ ทางชายฝั่งของรัฐควีนแลนด์ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย มีความยาว 2,027 กิโลเมตร
แม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก....แม่น้ำแอมะซอน ในบราซิลทวีปอเมริกาใต้ ปากแม่น้ำกว้าง 272 กิโลเมตร มีความยาว 6,400 กิโลเมตร และได้รับฉายาให้เป็น King of The River
หุบเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก....แกรน์แคนยอน ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา มีความยาว 2,012 เมตร และลึกประมาณ 1,524 เมตร
หุมเขาที่ลึกที่สุดในโลก....หุบเขาเอลแคนยอนเดอโคลคา ในเปรู มีความลึกประมาณ 3,215 เมตร
น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก....น้ำตกแองเจล ในเวเนซุเอลา สูง 979 เมตร
น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก....น้ำตกไนแองการ่า ระหว่างพรมแดนสหรัฐอเมริกากับแคนนาดา
น้ำพุร้อนที่พุ่งขี้นสูงที่สุดในโลก....น้ำพุร้อนไวแมนกุ ในนิวซีแลนด์ พุ่งได้สูงถึง 450 เมตร
ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก....ถ้ำซาราวัก แซมเบอร์ ในอุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู ในรัฐซาราวักประเทศมาเลเซีย
ถ้ำหินปูนที่ยาวที่สุดในโลก....ถ้ำคูเอวาเดอเนอจา ในเมืองมาลากา สเปน มีความยาวประมาณ 60 เมตร
ภูเขาไปที่ใหญ่ที่สุดในโลก....ภูเขาไฟเมานาลัว บนเกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา
ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในโลก....ภูเขาไฟโอโจสเดลซาลาโด ตั้งอยู่ระหว่างอาร์เจนตินากับชิลี สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 6,877 เมตร
ภูเขาไฟที่อยู่เหนือสุดของโลก....ภูเขาไฟบีเรนเบิร์ก ในเกาะกรีนแลนด์ทางขั้วโลกเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,277 เมตร
ภูเขาไฟที่อยู่ใต้สุดของโลก....ภูเขาไฟอีเรบัส บนเกาะรอสส์ ในทวีปแอนตาร์กติกาที่ขั้วโลกใต้ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,795 เมตร
ภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลก....ภูเขาไฟฟูจิยามา ที่ญี่ปุ่น
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก....ทะเลทรายซาฮารา ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ประมาณ 9,064,965 ตารางกิโลเมตร
ที่ราบสูงที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลก....ที่ราบสูงทิเบต ในเขตประเทศจีน ตอนกลางของทวีปเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 199,422 ตารางกิโลเมตร และสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 4,877 เมตร
อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก....อ่าวเม็กซิโก ทวีปอเมริกาเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 1,510,550 ตารางกิโลเมตร
ช่องแคบที่ยาวที่สุดในโลก....ช่องแคบตาร์ตาร์ อยู่ระหว่างเกาะซักคาลินกับรัสเซีย มีความยาวประมาณ 805 กิโลเมตร
คลองเดินเรือที่ยาวที่สุดในโลก....คลองสุเอช ที่อียิปส์ เป็นคลองที่เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง มีความยาว 161.9 กิโลเมตร

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรื่องราวดีๆของภรรยา 4 คน

ชายคนหนึ่งมีภรรยา อยู่ 4 คน

ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจ ตลอดอยากได้อะไร เขาหาให้ทุกอย่าง
ภรรยาคน ที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้ และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ
ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบ้างเป็นครั้งคราว
ภรรยาคน ที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหาไม่คิดถึงเลยด้วยซ้ำ

ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรงและถูกจับ ต้องถูกประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้องว่า
ขอกลับบ้านเพื่อไปล่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาติ

เมื่อกลับ มาถึงบ้าน เขา รีบตรงไปหาภรรยาคนที่ 1 เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง
และถามภรรยา คนที่ 1 ว่า “ ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 1 จะ ทำอย่างไร? ”
ภรรยาคนที่ 1 ตอบ น้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ ถ้าเธอตาย เราก็จบ กัน”
คำตอบที่ได้รับ เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเจ็บปวดและเสียใจเป็นอย่าง ยิ่งนึกเสียดายว่า เขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย

จากนั้นเขาก็ ไปหาภรรยาคน ที่ 2 ด้วยอาการเศร้าโศก เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
และถามคำถาม เดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า“ ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน 2 จะทำอย่างไร? ”
ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่าง หน้าตาเฉยว่า “ ถ้าเธอตาย ฉันจะมี ใหม่ ”
เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขาอย่างจัง เขารู้สึกเสียใจมากและนึกเสียดายว่าที่ผ่านมาเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน

เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคนที่ 3 เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
และถามภรรยา คนที่ 3 ว่า“ ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 3 จะทำ อย่างไร? ”
ภรรยา คนที่ 3 ตอบว่า “ ถ้าเธอตาย ฉันจะไปส่ง ”
ทำให้เขาคลายความเศร้าโศกขึ้นมาได้บ้าง อย่างน้อยก็ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขา

ก่อนกลับไปรับโทษ เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคนซึ่งไม่เคยไปหาเลย

จึงไปหาภรรยาคนที่ 4 และถามว่า“ ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4 จะทำอย่าง ไร? ”
ภรรยาคน ที่ 4 ตอบว่า “ ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไปด้วย ”
แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้
แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย

แล้วชายคน นี้ก็กลับไปรับโทษประหาร และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามไปด้วย.....

เราทุกคนก็มี ภรรยา 4 คนนี้ รู้มั้ยว่า ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร ?...





ภรรยาคน ที่ 1 = ร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะบำรุงบำเรอด้วยสิ่งของทุกอย่าง อยากได้อะไรก็หาให้ แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา เมื่อเราตาย ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น

ภรรยาคนที่ 2 = ทรัพย์ สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา แต่ไปเป็นของคนอื่น

ภรรยาคนที่ 3 = พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่ น้อง เพราะพอเราตาย เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้ แปลว่า เขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น

ภรรยา คนที่ 4 = บุญกับบาป เพราะเมื่อเราตายไป มันก็จะติดตามเราไปด้วย

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คำคม(อีกแล้ว)

วันนี้ขอฝากคำคมอีกสักที คราวนี้เป็นคำคมจากคนดังหรือจากคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมาแล้ว

"วิธีจัดการกับความฝัน คือการทำมันให้เป็นจริง"
- วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

"ถ้าคุณเดินตามรอยเท้าคนอื่น...แล้วคุณจะมีรอยเท้าไว้ให้คนอื่นเดินตามมั้ย"
- ภัทราวดี มีชูธน

"แรงโน้มถ่วงไม่สามารถทำให้คุณตกหลุมรักได้"
- อัลเบิร์ต ไอสไตน์

"จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้"
- อัลเบิร์ต ไอสไตน์

"อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และอีก 99 เปอร์เซ็นต์คือความอุตสาหะ"
- โทมัส อัลวา เอดิสัน

"สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว"
- ท่านพุทธทาสภิกขุ

"หากคุณเอาแต่ตัดสินคนอื่น คุณก็จะไม่มีเวลารักคนอื่นเช่นกัน"
- แม่ชีเทเรซา

"ถ้าเราเชื่อมั่นว่าทำได้ ต่อให้ต้องย้ายภูเขาถมทะเลในที่สุดก็สำเร็จจนได้ แต่ถ้าใจเราคิดว่าทำไม่ได้แม้จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือ ก็ยังไม่มีวันประสบความสำเร็จ"
- ด.ร.ซุนยัดเซ็น

"แม่น้ำสายหนึ่งมักเกิดจากสายธารเล็กๆ แต่มหาสมุทรก็ยังมีบางเวลาที่แห้งผากผิดปกติ ดังนั้นสิ่งที่เราหวังมากที่สุด ผลสุดท้ายมักล้มเหลว สิ่งที่เราตั้งความหวังไว้ต่ำที่สุด มักจะสำเร็จอย่างคาดคิดไม่ถึง"
- วิลเลียม เชคสเปียร์

"ผู้ที่ไม่รู้จักใช้สติปัญญาให้เหมาะสมกับโอกาส คือคนดื้อรั้น ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส"
- เพลโต้

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )


Whipping Cream Ocean เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งทางเหนือของ เมืองซิดนี่ย์ ( Sydney ) ที่ยัมบา ( Yamba ) ของ นิวเซาธ์เวลส์ ( New South Wales ) และได้แปรเปลี่ยนชายฝั่งเป็น คาปูชิโนใน ( Cappuccino Coast ) ฟองโฟนได้กลืนกินทั้งหาด และอาคารสิ่งก่อสร้างไปกว่าครึ่งหลังที่ก่อสร้างอยู่ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์หน่วยกู้ภัยชายหาดท้องถิ่น ฟองโฟนนี้นกินอาณาบริเวณออกไป กว่า 30 ไมล์จากชายฝั่ง
โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้ไว้ว่าเกิดจาก ความบังเอิญหลายอย่างที่ลงตัว ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง สวยงาม แต่มันเกิดจาก สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเลสกปรก , เกิดจากเกลือ , เกิดจากปฎิกริยาทางเคมี , การเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ไ้ด้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำให้เกิดฟอง และเมื่อคลื่นได้เคลื่อนมากระทบฝั่งจะคลายฟอง ออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาดสะสมตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

เหล่าเด็กต่างสนุกสนาน ต่ิอปรากฏการณ์ประหลาดนี้ และลงไปเล่นกันทั้งดำผลุดดำว่าย

ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นสาวกลุ่มนี้ต่างก็แต่งชุดว่ายน้ำลงมาเล่นฟองโฟนกันอย่างสนุกสนาน แต่ถ้ารู้ถึงสาเหตุของโฟมเหล่านี้แล้ว ก็ไม่รู้จะยังสนุกกันหรือไม่

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำไมต้องเรียนรู้เรื่องซ่อมคอมฯ

เครื่องเสียบู๊ตไม่ขึ้น อุปกรณ์เจ๊ง ฮาร์ดดิสก์พัง ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ดูจะเรื่องปกติ ที่ผู้ใช้คอมฯ ทุกท่านจะต้องเจออย่างแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ถ้าจะให้ทุกคนลุกขึ้นมาแก้ปัญหาหรือซ่อมเองก็เป็นเรื่องยาก เพราะถ้าเป็นอาการเสียทางด้านฮาร์ดแวร์ทุกคนก็มักจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แล้วก็ส่ายหัวเมื่อเจอปัญหาเหล่านี้ เพราะกลัวว่าถ้าซ่อมเองแล้วเครื่องจะพัง สู้ยกเครื่องไปให้ร้านซ่อมดีกว่า เพื่อความมั่นใจ
ทุกครั้งเมื่อยกเครื่องไปที่ร้าน ก็ต้องเสียค่าซ่อมอย่างน้อย ๆ ก็ 500 บาท เป็นราคามาตรฐานที่ค่อนข้างสุง ยิ่งถ้าช่างแค่เปิดฝาเครื่องแล้วขยับสายเล็กน้อย เครื่องก็หายเป็นปกติ ยิ่งรู้สึกไม่อยากจะจ่ายค่าซ่อมเลย แต่ถ้ามีอุปกรณ์พังก็ยังดี แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าราคาอุปกรณ์ที่เปลี่ยนนั้นร้านซ่อมขายให้ในราคาแพงเกินจริงหรือเปล่า และเปลี่ยนอุปกรณ์แล้วเครื่องจะหายจริงใหม หรือว่าถูกหลอกวางยาให้คุณยกมาซ่อมอีก เรียกว่าซ่อมกันไม่รู้จบสักที ที่กล่าวมาทั้งหมดทาง Bcoms อยากจะแนะนำให้ทุกท่านเห็นประโยขน์ ในการเรีนรู้ทางด้านฮาร์แวร์บ้าง เพื่อให้สามารถตรวจซ่อมละแก้ปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องเครื่องไปให้ช่างซ่อม
Bcom.net สร้างขึ้นมีจุดประสงค์เพื่อเป็นคู่มือในการแก้ปัญหา ที่จะช่วยให้ผู้เข้าชมเว็บ Bcoms ทั้งที่ไม่เคยจับคอม ฯ มาก่อนเลย หรือที่เคยใช้งานมาบ้างแล้ว สามารถวิเคระห์และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เอง

การแก้ปัญหาคามร้อนด้วยฮาร์ดแวร์&ซอฟต์แวร์

การแก้ปัญหาคามร้อนด้วยฮาร์ดแวร์
การใช้อุปกรณ์มาช่วยในการระบายความร้อนให้กับพีซีนั้น ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกที่สุดก็คงจะเป็นพัดลมระบาบความร้อนภายในเคสที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมไปได้ตามที่คกุณพอใจ แต่ระวังว่าจะมีเรื่องของเสียงดังมารบกวนด้วยส่วนอุปกรณ์ช่วยระบายความร้อนชนิดอื่นนั้น แนะนำให้มองหาฮีตซิงก์ทองแดงคุณภาพดีๆ ที่มีพัดลมความเร็วรอบสูงและเสียงไม่ดังมาเปลี่ยนกับฮีตซิงก์ตัวเก่าของคุณ เพราะตอนนี้ราคาตกลงมามากแล้ว หรือใครที่มีงบเยอะจะมองหาอุปกรณ์ราคาแพงอย่างชุดฮีตไปป์สำหรับซีพียู และการ์ดจอ ก็คงจะช่วยได้มากทีเดียว นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนไปใช้เคสอลูมิเนียมที่ติดตั้งชุดระบายความร้อนมาให้ในตัว ซึ่งเคสพวกนี้จะมีการออกแบบระบบไหลเวียนอากาศภายใน มาให้ด้วย และด้วยคุณสมบัติของวัสดุทีทำจากอลูมิเนียมนั้น จะช่วยในเรื่องการสงผ่านความร้อนออกไปสู่ภายนอกระบบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มีความร้อนสะสมภายในห้องปรับอากาศด้วยละก็ ปัญหาเรื่องความร้อนคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

การแก้ปัญหาความร้อนด้วยซอฟต์แวร์
สำหรับการดับร้อนพีซีของคุณด้วยซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมยูทิลิตี้นั้น เราจะมุ่งเป้าไปที่การทำงานของซีพียูเป็นหลักครับ เพราะซอฟต์แวร์จำพวกนี้มักจะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อควบคุมความร้อนที่เกิดจากซีพียูเป็นโดยเฉพาะหลักการคร่าวๆ ของมันก็คือ หากซีพียูไม่อยู่ในโหมดที่ต้องทำงานหรือประมวลผลแล้วละก็ มันจะสั่งให้ซีพียูเข้าสู่สภาวะไอเดิล คือสภาวะพักเงียบไม่ทำงาน รอคำสั่งอย่างเดียว เมื่อซีพียูเข้าสู่โหมดพักนี้การบริโภคพลังงานก็จะลดลง แน่นอนว่ามันทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงด้วยเช่นกัน

คำคมดีๆ

การที่คุณบอกความในใจกับใครคนนั้นไป มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย เพราะบางทีคนๆนั้นอาจกำลังรอคำพูดของคุณอยู่
เรือจอดอยู่ที่ท่าจะปลอดภัยที่สุด แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้จอดอยู่ที่ท่า
เธอจะพบความสวยงามของมหาสมุทรได้อย่างไร หากเธอไม่กล้าพอที่ออกไปจากฝั่ง
วันที่ยาวนานที่สุด คือ วันที่หัวใจของคุณไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ฉันเป็นคน “มั่งมี” ไม่ใช่เพราะฉันมี “มากมาย” แต่เป็นเพราะว่าฉันมี “มากพอ”
เทียนที่นำไปจุดเทียนเล่มอื่น จะไม่สูญเสียความสว่างในตัวเอง แต่จะทำให้ห้องสว่างไสวขึ้น
บางครั้ง...เราอาจไม่เข้าใจการกระทำของตนเอง ฉะนั้น...จึงไม่ควรตัดสินการกระทำของคนอื่น
ถ้ามองแต่ความผิดของคนอื่น...เธอจะมีแต่ความเกลียด ถ้ามองความดีของคนอื่น...เธอจะมีแต่ความรัก
เมื่อพบความผิดพลาด ก็นับว่า ความผิดพลาดนั้นได้รับการแก้ไขไปแล้วส่วนหนึ่ง
หากเธอยอมรับประโยชน์จากแสงสว่าง และความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ เธอก็ต้องยอมรับผลของพายุฝนฟ้าคะนองด้วย
จงเป็นคนที่ “คิดที่จะรัก” คือ รักตนเองและรักเพื่อนมนุษย์
จงเป็นคนที่ “รักที่จะคิด” คือ คิดในสิ่งที่ดี ถูกต้อง เหมาะสมและสร้างสรรค์
คุณจะรู้ว่า...คุณรักใครสักคน เมื่อคุณรู้ว่าเขาคือคนที่คุณต้องการให้เขามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายถึงความสุขที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปรากฏการณ์ธรรมชาติเมฆจานบิน..!!

>>>>เห็นเป็นปรากฎการณ์ที่สวยดีเลยอยากให้ดูกัน



Lenticular เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า รูปทรง เลนส์ (Lens - Shaped ) เมฆรูปทรงเลนส์ ( Lenticular cloud ) เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ แสนประหลาด และสวยงาม มันช่างดูคล้าย จานบิน ไม่มีผลิต และหากปรากฏการณ์ เมฆรูปทรงเลนส์ ก็ขึ้นในสมัยก่อน รูปภาพวัตถุบินลึกลับ ต่างที่มีการจารึกไว้ก็อาดเป็น ปรากฏการณ์นี้ก็เป็นไปได้

สาเหตุของการเกิด เมฆจานบิน

--------------------------------------------------------------------------------
เมื่ออากาศชื้นอิ่มตัวพัดผ่านยอดเขาสูง หรือบริเวณภูเขา จะทำให้เกิดการไหลของกระแสอากาศชื้น แบบลูกคลื่นขนาดใหญ่ หลายระลอกขึ้น เมื่ออากาศชื้นถูกพัดไหลขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ตามระลอกคลื่นอุณหภูมิจะค่อยลดลงเรื่อยจนถึงจุดที่ทำให้ อากาศชื้นเริ่มกลั่นตัว ทำให้เกิด ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เมื่อเมฆไหลลงมาต่ำเรื่อยๆอุณหภูมิจะสูงขึ้น เมฆจะค่อยๆระเหยกับไปอยู่ในสภาพของอากาศชื้นอีกครั้ง

รูปทฤษฎี การเกิดปรากฏการณ์ เมฆจานบิน โดยความสูงที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้จะอยู่ที่ระหว่าง 6,000 - 12,000 เมตร
คลัง รูปภาพ เมฆจานบิน

--------------------------------------------------------------------------------

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2009

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington

ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เกิดขึ้นที่ภูเขา Mt.Rainier ในรัฐ Washington


วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แปลงมือถือซิมเดียวให้ใช้ ๒ ซิม


อันนี้เป็นหน้าตาของตัวแปลง เขาเรียกว่า ชุด Kit DuoSim


หน้าตาชุดคิทประกอบด้วยแผ่นวงจรที่มีลักษณะคล้ายกับสล๊อตใส่ซิม 2 อันด้วยกัน

โดยอันนึงจะเป็นแผ่นพลาสติกที่มีลายวงจรอยู่ภายใน ส่วนอีกอันหนึ่งจะมีขอบขึ้น

มา เพื่อใส่ซิมอีกอันหนึ่งเข้าไปได้




ขั้นตอนง่ายมากค่ะ ขั้นแรกถอดฝาด้านหลังของมือถือ แล้วปลดแบตเตอรี่ออก แล้ว

ถอดซิมที่อยู่ในเครื่องออกมา นำแผ่นวงจร DuoSIM ด้านที่เป็นพลาสติกบางๆ วาง

ลงไปในช่องใส่ซิม จากนั้นวางทับลงไปด้วยซิมเดิมที่อยู่ในมือถือ แล้วปิดฝาล็อค

ซิมลงไป นำแบตฯ มาใส่ทับ โดยให้แผ่นวงจรที่เชื่อมอยู่กับช่องใส่ซิมอีกอันนึงอยู่

ด้านบน เพื่อใส่ซิมตัวที่สอง หลังจากใส่ซิมครบทั้งสอง 2 ตัวแล้วก็ปิดฝาหลังของ

มือถือ ขั้นตอนการติดตั้งซิม 2 ตัวบนมือถือเครื่องเดียวก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วค่ะ



หลังจากใส่ซิมทั้ง 2 ตัวเข้าไปแล้ว เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมา มันจะให้อัพเดตซิมที่มี

อยู่ในเครื่อง ซึ่งหลังจากอัพเดตแล้ว เพื่อนๆ จะสามารถเลือกสลับการใช้งานซิม

ได้จากไอคอน Dual Sim Card ที่อยู่ในมือถือค่ะ สนนราคาของชุดคิท DuoSIM

อยู่ที่ 28 เหรียญฯ หรือประมาณ 900 บาทค่ะ ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ ก็อย่าลืมเข้า

ไปตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับการใช้งานชุดคิทนี้ได้ด้วยนะคะ

(* ผู้ทดลองใช้งานชุดนี้กล่าวว่า หลังจากใช้ DuoSIM แบตฯจะหมดเร็วขึ้นด้วยนะคะ)

วิดีโอสาธิตการใช้ครับ



---ถ้าใช้ได้ก็จะเป็นการลดการใช้มือถือ2เครื่อง ลดการใช้ทรัพยากร---

ร่มเอกซเรย์ ๐_๐!!

อ่านชื่อเรื่องแล้ว ก็คงคิดกันว่ามันเป็นอะไรที่ไฮเทคแน่ๆเลย
แต่ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับไอทีเลยครับ
ที่เอาบทความนี้มาโพสต์ก็เพื่ออยากให้เป็นไอเดียการ recycle กับเพื่อนๆเฉย



รูปข้างบนนี้ เป็นร่มที่เราๆใช้กันอยู่ซึ่งทำจากพลาสติก
มาดูร่มเอกซเรย์กันเล้ยย

ทั่วไป พอเราถ่ายเอ็กซเรย์เสร็จ บ่อยๆเลยเราไม่เอาฟิลม์เอ็กซเรย์กลับบ้านอ่ะคะ่ กลายเป็นขยะเก็บเต็มโรงพยาบาลเลย

Anastacia Spada เป็นนักออกแบบค่ะ เธอเลยคิดขึ้นมาไหนลองเอามาทำเป็นร่มดูซิ มันจะน่ารักน่าชังยังไงบ้าง …





เลยได้ร่มดูแล้วก็สีเท่ๆอ่ะ เนื้อพลาสติกของแผ่นฟิล์มเอ็กซเรย์ (ในจินตนาการนะคะ) พอกลายมาเป็นร่มคงเป็นร่มเนื้อผ้าหรูๆอันนึงเลยอ่ะ ว่ามั้ย


มีวิธีทำคร่า่วๆ แถมมาให้ด้วยค่ะ ใครสนใจจะลองทำเล่นๆดู

ไม่ว่ากันค่ะ




สวยดีนะว่ามะ^^

กลุ่มอาการเสียของคอมพิวเตอร์

ลักษณะอาการเสียของเครื่องคอมพิวเตอร์ เราสามารถแบ่งได้เป็น 5 กลุ่มอาการ ดังนั้นในการตรวจหาสาเหตุของอาการเสีย ก็ให้ดูว่าเป็นอาการเสียที่อยู่ในกลุ่มใดดังนี้

1. ตรวจสอบอาการเสียของเครื่องจากเสียง Beep Code
ทุก ๆ ครั้งที่คุณเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรก ก็จะได้ยินเสียง ปี๊ป ดังสั้น ๆ 1 ครั้ง แล้วเครื่องก็จะทำงานต่อตามปกติ แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณได้ยินสียงมากกว่า 1 ครั้ง หรือมีเสียงดังยาว ๆ จากนั้นเครื่องก็หยุดนิ่ง ก็ทำใจไว้ได้เลยว่าเครื่องของคุณมีปัญหาแล้ว เมื่อคุณเจออาการแบบนี้ให้รีบปิดเครื่องทันที เพราะตราบใดที่เครื่องยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้จนกว่าจะแก้ปัญหาเสียก่อน เสียงปี๊ปที่เราได้ยินนี้จะถูกเรียกว่า Beep Code ซึ่งจะมีจำนวนครั้งไม่เท่ากัน และมีเสียงดังสั้นบ้างยาวบ้าง ลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันนี้เองที่บอกเราว่า อุปกรณ์ชิ้นไหนมีปัญหา ดังนั้นถ้าเจอปัญหาลักษณะนี้ก็ต้องลองฟังให้ดีว่า ดังกี่ครั้ง สั้นยาวแบบไหน แล้วนำไปเทียบดูในตารางไบอสตามยี่ห้อของไบออส เพื่อจะรุ้ว่าอะไรคือต้นเหตุ แล้วจะได้หาทงแก้ไขต่อไป

2. ตรวจสอบอาการเสียของเครื่องโดยดูจากข้อความที่แจ้งบนหน้าจอ
การแจ้งปัญหาหรือความผิดปกติที่เครื่องตรวจพบด้วยข้อความบนหน้าจอ ซึ่งเราเรียกว่า Message Error นับป็นการแจ้งปัญหาอีกแบบหนึ่งที่มีประโยชน์ เพราะเราสามรถรู้ปัญหาได้ทันทีว่าอปกรณ์ตัวไหนทำงานผิดปกติ หรือไม่ก็รู้ว่าการทำงานส่วนใดมีปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางในการแก้ปัญหาที่ง่ายขึ่น ตัวอย่างของข้อความที่ปรากฎให้เห็นบนหน้าจอบ่อย ๆ อย่างเช่น
CMOS checksum Error
CMOS BATTERY State Low
HDD Controller Failure
Diskplay switch not proper
ดังนั้นถ้าคุณพบว่าเครื่องได้แจ้งปัญหาให้ทราบก็ให้รับหาทางแก้ไขโดยด่วน แต่ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ก็ให้จดข้อความบนหน้าจอไว้ เพื่อเอาไว้สอบถามผู้ที่สามารถให้คำแนะนำได้หรือเอาไวให้ช่างที่ร้านซ่อมดูก็ได้ เพื่อให้การตรวจซ่อมทำได้เร็วขึ้น

3. ตรวจสอบอาการเสียโดยดูจากความผิดปกติของเครื่องที่สามารถสังเกตุ
วิธีนี้คงต้องใช้ทักษะ ความรู้ และความชำนาญมากกว่า 2 แบบแรก เพราะจะเป็นอาการที่เครื่องไม่ได้มีอะไรแจ้งให้เราทราบเลยว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนมีปัญหาหรือเสียหาย มีแต่ความผิดปกติที่เราสามารถสังเกตุได้ทางกายภาพ อย่างเช่น เปิดสวิตซ์แล้วไฟไม่ติด , เสียบปลั๊กแล้วเครื่องก็เปิดทันที , เปิดใช้เครื่องได้ไม่ถึง 5 นาที ระบบก็ล่ม เป็นต้น จะเห็นว่าอาการดังกล่าวนี้เครื่องไม่ได้แจ้งอะไรให้เราทราบเลยนอกจากอาการผิดปกติที่เรารับรู้ได้ ดังนั้นในการแก้ปัญหาในลักษณะนี้จึงจะต้องอาศัยผู้ที่มีประสบการณ์หรือช่างผู้ชำนาญ จึงจะสามารถวิเคราะห์ตรวบสอบ และทำการซ่อมแซมแก้ปัญหาได้

4. ตรวจสอบอาการเสียที่เราสามารถระบุอุปกรณ์ได้เลย
ปัญหาแบบนี้จะเป็นกับอุปกรณ์ที่เราใช้อยุ่เป็นประจำแต่ถ้าอยุ่ ๆ ไม่สามารถทำงาน หรือทำงานได้ไม่ดี เราก็รู้ได้ทันทีว่าอะไรเสีย อย่างเช่น ไดรว์ซีดีรอมไม่ทำงาน ภาพบนจอสั่นหรือกระพริบ ไดรว์ A ไม่ยอมอ่านแผ่น เป็นต้น จะเห็นว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ โดยตรง การตรวจสอบหรือตรวจเช็คจึงทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือน 3 แบบที่ผ่านมา

5. ตรวจสอบอาการเสียที่เกิดจากการอัพเกรดอุปกรณ์ ไปจนถึงการปรับแต่งเครื่อง
สิ่งที่ทำให้เครื่องเกิดปัญหาอีกอย่างก็คือ การเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนหรือปรับแต่งอุปกรณ์บางตัวก็ทำไห้เกิดปัญหาได้อีกเหมือนกัน เช่น อัพเกรดแรมแล้วเครื่องแฮงค์ Overclock ซีพียูจนไหม้ , ปรับ BOIS แล้วเครื่องรวน เป็นต้น จะเห็นว่าในสภาพเครื่องก่อนกระทำใด ๆ ยังทำงานได้ปกติอยุ่ แต่หลังจากที่มีการอัพเกรดหรือปรับแต่งเครื่องแล้วก็มีปัญหาตามมาทันที แล้วคุณจะทำอย่างไร ????? บีคอมมีคำตอบให้คุณ

ADSL คืออะไร??????

ความรู้เกี่ยวกับ ADSL เบื้องต้น
ADSL มาจากคำว่า Asymmetric Digital Subscriber Line เป็นเทคโนโลยีของ Modem แบบใหม่ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของสายโทรศัพท์ที่ทำจากลวดทองแดง ให้เป็นเส้นสัญญาณนำส่งข้อมูลความเร็วสูง โดย ADSL สามารถจัดส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการด้วยความเร็วมากกว่า 6 Mbps ไปยังผู้รับบริการ หมายความว่า ผู้ใช้บริการสามารถ Download ข้อมูลด้วยความเร็วสูงมากกว่า 6 Mbps ขึ้นไปจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือผู้ให้บริการข้อมูลทั่วไป (ส่วนจะได้ความเร็ว กว่า 6 Mbps หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ รวมทั้งระยะทางการเชื่อมต่ออีกด้วย) ความเร็วขณะนี้ มากเพียงพอสำหรับงานต่างๆ ดังต่อไปนี้
• งาน Access เครือข่าย อินเทอร์เน็ต
• การให้บริการแพร่ภาพ Video เมื่อร้องขอ (Video On Demand)
• ระบบเครือข่าย LAN
• การสื่อสารข้อมูลระหว่างสถานที่ทำงานกับบ้าน (Telecommuting)

ประโยชน์จากการใช้บริการ ADSL
• ท่านสามารถคุยโทรศัพท์พร้อมกันกับการ Access ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้พร้อมกัน ด้วยสายโทรศัพท์เส้นเดียวกัน โดยไม่หยุดชะงัก
• ท่านสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วเป็น 140 เท่าเมื่อเทียบกับการใช้ Modem แบบ Analog ธรรมดา
• การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของท่านจะถูกเปิดอยู่เสมอ (Always-On Access) ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากการส่งถ่ายข้อมูลถูกแยกออกจากการ เรียกเข้ามาของ Voice หรือ FAX ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของท่านจะไม่ถูกกระทบกระเทือนแต่อย่างใด
• ไม่มีปัญหาเนื่องสายไม่ว่าง ไม่ต้อง Log On หรือ Log off ให้ยุ่งยากอีกต่อไป
• ADSL ไม่เหมือนกับการให้บริการของ Cable Modem ตรงที่ ADSL จะทำให้ท่านมีสายสัญญาณพิเศษเฉพาะเพื่อเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต ขณะที่ Cable Modem เป็นการ Share ใช้สายสัญญาณกับผู้ใช้คนอื่นๆ ที่อาจเป็นเพื่อนบ้านของท่าน
• ที่สำคัญ Bandwidth การใช้งานของท่านจะมีขนาดคงที่ (ตามอัตราที่ท่านเลือกใช้บริการอยู่เสมอ) ขณะที่ขนาดของ Bandwidth ของการเข้ารับบริการ Cable Modemหรือการใช้บริการ อินเทอร์เน็ตปกติของท่าน จะถูกบั่นทอนลงตามปริมาณการใช้งาน อินเทอร์เน็ตโดยรวม หรือการใช้สาย Cable Modem ของเพื่อนบ้านท่าน
• สายสัญญาณที่ผู้ให้บริการ ADSL สำหรับท่านนั้น เป็นสายสัญญาณอิสระไม่ต้องไป Share ใช้งานกับใคร ด้วยเหตุนี้ จึงมีความน่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยสูง

ศาสตร์แห่งการยิ้ม

ศาสตร์ของการยิ้ม นอกจากเพื่อสังคมแล้ว การยิ้มคือยาขนานหนึ่งที่จะบรรเทาปัญหาสุขภาพ เพราะฉะนั้นมายิ้มกันเถอะ...
มีจิตแพทย์จำแนกการยิ้มออกเป็น 3 แบบ คือ ยิ้มจริงใจ ยิ้มเสแสร้ง และยิ้มเศร้า
1. ยิ้มจริงใจ คือ ยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกที่ดีงาม ยิ้มจริงใจเป็นการแสดงความรู้สึกทางด้านบวกอย่างแท้จริง
จะปรากฎขึ้น หลังจากได้รับรู้สภาวะของอารมณ์ซึ่งรวมทั้งความยินดีจากสิ่งกระตุ้น ทางตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส อย่างรักใคร่ก็สามารถเรียกรอยยิ้ม อย่างจริงใจออกมาได้ รอยยิ้มอย่างจริงใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อหายจากเจ็บปวดจากแรงกดดันที่อึดอัดได้เหมือนกัน ยิ้มอย่างจริงใจนี้ นอกจากจะใช้กล้ามเนื้อยิ้มตามปกติคือ กล้ามเนื้อขากรรไกรแล้ว ยังใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอีกด้วย ผลของการยิ้มจริงใจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน " เอนเดอร์ฟิน" ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปออกฤทธิ์ทำให้ม่านตาขยายตัว และตามีประกายของความสุขที่เราเรียกว่า "ตายิ้ม" ซึ่งตานี้เองจะแสดงออกถึงความรัก ความเป็นมิตรและความอบอุ่น

2. ยิ้มเสแสร้ง ก็คือรอยยิ้มที่ประดิษฐ์ขึ้น โดยเจตนาจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่า เรารู้สึกว่าอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่
ยิ้มเสแสร้ง คือ การเจตนาที่จะพยายามกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกในด้านดี ยิ้มเสแสร้งจะปรากฏบนใบหน้านานกว่ายิ้มจริงใจ จิตแพทย์หลายคนเห็นว่า การหัวเราะเป็นตัวการที่จะปลดปล่อยความตึงเครียด หรือความตื่นเต้นที่มีมากจนเกินไป การหัวเราะช่วยปรับความสมดุล ให้อยู่ในสภาวะปกติ แม้ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ตลกเลยก็ตาม เหตุผลที่เราชอบหัวเราะอีกอย่างหนึ่งก็เพราะ เวลาหัวเราะเราต้องยิ้มก่อนและใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ย่อมน่าดูกว่าใบหน้าบึ้งตึงดุร้าย การหัวเราะจึงเป็นอีกขั้นหนึ่ง ของการยิ้มนั่นเอง คุณสามารถยิ้มไปโดยไม่ต้องหัวเราะ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยไม่ยิ้ม คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะอย่างจริงใจก็เหมือนกับกำลังพูดว่า "ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรนะ ฉันเป็นมิตรนะ ฉันอยู่ข้างเธอนะ" คนที่สามารถยิ้มและหัวเราะในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายจริงๆ นั้นก็คือ คนที่เป็นอัจฉริยะโดยแท้ เพราะเท่ากับเขากำลังพูดว่า "ฉันไม่กลัวหรอก"

3. ยิ้มเศร้า มนุษย์เราเป็นทุกข์เพราะเราทำตัวเองเป็นทุกข์ และเรายังทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์อีกด้วย คนที่หัวเราะมากๆ จะมีชีวิตยืนนาน คนที่มีความสุขจะมีอายุยืนกว่าคนที่อมทุกข์ การที่จะให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ จำเป็นจะต้องมีการแบ่งปัน คนที่รู้จักหัวเราะ ก็คือ คนที่รู้จักแบ่งปันนั่นเอง "ดร.อาหาร ดร.เงียบ และ ดร.รื่นเริง" เป็นผู้เชี่ยวชาญยารักษาที่ดีที่สุดในโลก การรักษาเยียวยานั้น ต้องมาจากภายในคือเรานั่นเองที่จะมีอำนาจรักษาตัวเองได้ การหัวเราะมักจะเกิดพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ไปในทางที่ดีที่ใครๆ ก็เห็นได้ชัด เช่น นัยน์ตาเป็นประกาย บุคลิกสดใส การร้องไห้จึงนับว่าเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง ช่วยลบล้างความทุกข์ หรืออาจเกิดจากทั้งการหัวเราะและร้องไห้ จะมีส่วนผสมทางเคมีที่แตกต่างจากน้ำตาที่เกิดจากผงเข้าตา น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ภายในจะมีสารช่วยลดความเจ็บปวดอยู่ด้วย ซึ่งจะผลิตออกมาในปริมาณมากเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้เราเอาชนะความเจ็บปวดและความโศกเศร้าได้ คนที่พยายามยิ้มและหัวเราะอยู่เสมอ แม้จะรู้สึกเป็นทุกข์อยู่ภายใน ก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์เป็นไปในทางดีได้ จะมีความสุขขึ้นทั้งสมองและจิตใจ ใครที่ดำเนินชีวิตอย่างหวาดกลัวตลอดเวลา มักจะป่วยบ่อยๆ ความกลัวสามารถทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายจับแข็งจนเลือด และฮอร์โมนกับสิ่งบำรุงร่างกายไปเลี้ยงไม่ถึง ซึ่งการหัวเราะ จะช่วยให้มันละลายแล้วเริ่มทำงานตามปกติต่อไป คนที่เป็นทุกข์เนื่องจากมีความกลัวอยู่ตลอดเวลา ร่างกายจะผลิตสารอะดรีนาลินออกมามากเกินไป และไหลเวียนไปทั่งร่างกายตลอดเวลาทำให้ล้มเจ็บได้ ความกลัวสามารถลดได้ด้วยการเผชิญหน้ากับสาเหตุนั้นๆ และการหัวเราะก็เป็นวิธีเผิชญหน้ากับความกลัวที่ดีที่สุด เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุด ถ้าเราเรียนรู้ที่จะหัวเราะให้มากขึ้น ในไม่ช้าความกลัวก็จะค่อยๆ หมดไป

วิธีดูว่ายิ้มอย่างไหนจึงจะเหมาะสำหรับคุณก็คือ ลองยืนหน้ากระจกเงา แล้วแสดงสีหน้าแบบต่างๆ ทั้งยิ้มและบึ้ง สังเกตว่า สีหน้าแบบไหนที่ทำให้คุณดูอ่อนวัยลง มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ขึ้น แต่ละคนจะมีรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแตกต่างกันออกไป รอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้านานเกินไป จะดูเหมือนกับหุ่นยนต์ หรือยิ้มเสแสร้ง คุณควรจะมีรอยยิ้มที่จริงใจจะดีกว่า เพราะถ้ายิ้มเสแสร้งของคุณเด่นชัดเกินไป ผู้คนก็จะไม่เชื่อถือ บางครั้งคนอื่นจะตัดสินเราที่เสียงมากกว่ารูปร่างหน้าตา ดังนั้นเราควรจะพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเวลาตอบโทรศัพท์ คนที่อยู่ปลายสายอีกข้างหนึ่ง ไม่เห็นรอยยิ้มกับประกายตา อันแวววาวของคุณหรอก แต่คุณต้องใส่มันลงไปในน้ำเสียง มาพูดโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มกันดีกว่า วิธีมีรอยยิ้มอันสดใส ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก เพียงแต่หัดยิ้มให้บ่อยๆ เท่านั้นแหละ ยิ่งคุณยิ้มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น แต่รางวัลพิเศษแท้จริงก็คือ คุณจะค่อยมีความสุขมากขึ้นควบคู่ไปด้วย รู้คุณค่าของการยิ้มและวิธีใช้มันให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง

ComboFix || ยาถ่ายไวรัสของวินโดว์ !! ฉบับม้วนเดียวจบ พร้อมประกาศชัยชนะ !


พอดีไปอ่านเจอบทความที่เค้าโพสเกี่ยวกับโปรแกรมกำจัดไวรัสตัวใหม่ที่ได้ผลดีเลยอยากให้ลองอ่านแล้วลองโหลดไปใช้กันดู

เรามาถ่าย พยาธิ(ไวรัส สปายแว โทรจัน) ที่อยู่ในลำไส้(HD)คอมพิวเตอร์ของคุณครับ
โปแกรมนี้จะรันบน DOS ถือว่ามีความชัวรมากครับ
คอมโบฟิก ถ่ายพยาธิ ออกไปเยอะหล่ยตัวครับ อาทิ เช่น
startdrv.exe หมอนี้ก็ไม่เหลิอซากหากไช้ ComboFIx
Svchost.exe หมอนี่ก็เช่นกันโดนเตะออกไป
Explorer.EXE ที่เปนตัวปลอมเมือเข้าวินโด ที่เดสทอป ไม่มี ไอคอน ทูลบาลเลย มันก็จะเด้งออกไปงับ
nvsvc32.exe ไอ้นี่ตัวยงครับ ใครชไช้ กราดจอ NVIDA ต้องโหลดไป ตบ มันเลยครับมันก่อกวนใดรเวอของคุนอยู่
spoolsv.exe ไอหมอนี่ซัด CPU Process ของเราไปเกิน100 เอามันไว้ไม่ได้จัดการมันเลยคับ
Program FilesHPDigital Imagingbinhpqtra08.exe ไอ้หมอนี่แอบอ้างว่าเป็นไดรเวอร์มาจาก บริษัทย์ ฮิวเล็ต แต่มันไม่ไช่ครับ มันปลอมตัวมาครับไอหมอนี่ สปาย ครับ มันแอบมาอยู่ใน โปรเซส ของเรา ทำไห้คุณภาพคอมของเราลดไปเยอะเลยครับ หน้าเอาบักกอกไห่หัว มันมั้ยครับ
wscntfy.ex ไอหมอนี่ตัวฉกาดครับ ไม่ควรไห้มันอยู่ ถ้ามีตัวนี้นะครับ สังเกตุดูครับเวลาเราเปิด โปรแกรม Internet ลองไปดูในโปรเซสครับ ที่แรกมี IEXPLORER.EXE แค่อันเดว อีกสักพักมันจะมาอีกตัวครับ โอโหมันทำไห้คอมช้าอีกด้วยนะครับ ไอนี่ เอามันออกไป
Opera.exe ไอ้หมอนี่กวนตีนครับ สวนหน้ากากเข้ามาอยู่ในคอมของเราครับ ไอนี่ทำไห้วินโดว ของเรา ขาดหน่วยความจำหลักครับ ส้นตีนชัดๆ
HijackThis.exe ไอ้หมอนี่ครับมันลด ระบบความปลอดปลอดภัยกะคอมของเรา ไปเยอะเลยครับ สมควน ตายๆๆๆๆ
และ อื่นๆๆอีกเพียบครับ

วิธีใช้ครับ
เปิดโปรแกรมเลยครับ แล้วComboFix จะแสกนไห้เองอัตโนมัติครับ
แต่แนะนำไห้ไปทำที่ SafeMode ครับ ก่อนที่จะแสกน ไห้ท่าน ปิด System Restore ทุกไดรฟ์เลยครับ
แล้วก็กดสแกนเลยครับ จากนั้น ยาComboFix จะออกริทถ่ายไอ้พวก ไวรัส สปายแว โทจัน ทั้งหลายอกไปครับ
จากนั้น คอมคุณจะรีสตราทเอง
แล้วไห้เข้าวินโด normal เลยครับ จากนั้น ComboFix จะขึ้นมาอีก ทำ Log Report
กรุณาอย่าเปิดโปรแกรมไดก็ตามครับในขณะที่ ComboFix ทำงานอยู่
รอไปๆๆๆๆ ComboFix ก็จะถ่าย พยาธิออกไป และ ComboFix จะรายงานด้วยว่าถ่ายพยาธิตัวใดออกไปบ้างครับ

หมายเหตุ: เหตุที่ไห้เลือกรันในSafeMode เพราะใน SafeMode จะหยุด Process ที่ไม่เกี่ยวกะวินโดออกไปหมดเลยครับทำไห้ พวกพยาธิ ทั้งหลาย ทำงานไม่ได้ในขณะนั้นครับ
เอาหละครับโหลดไปไช้เลยครับผมไช้ดูแล้ว คอมโล่งเลยครับใวขึ้นกว่าเดิมเยอะ
ComboFix แน่นอนครับ พยาธิตายห่าหมด
หน้าตาโปรแกรมขณะกำลังทำงาน

ไม่ให้เป็นการเสียเวลา
สำหรับคนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ(ฟรี)
http://download.bleepingcomputer.com/sUBs/ComboFix.exe

เสริมนิดนะครับ: จากประสบการณ์ที่ผมจัดการไวรัสให้เหล่าเพื่อนๆ หลายเคสมากๆ พบว่า 95%
เป็นไวรัสประเภทที่ติดต่อจากทางแฮนดี้ไดรว์หรือแฟลชไดรว์ครับ ไวรัสพวกนี้จะก่อนกวนเครื่องเรา
โดยการรัน(ทำงาน)ตลอดเวลาทำให้แรมเราอืด อีกทั้งยังปิดการทำงานบางอย่างของวินโดวไปเช่น
Folder option , Task manager , msconfig …… ไม่ให้ใช้การได้
ผมรับรองว่า ComboFix ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน !!
ฟันธง! คอนเฟิร์ม!

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร(3)

การกำจัดไวรัส
เมื่อแน่ใจว่าเครื่องติดไวรัสแล้ว ให้ทำการแก้ไขด้วยความใคร่ครวญและระมัดระวังอย่างมาก เพราะบางครั้งตัวคนแก้เองจะเป็นตัวทำลายมากกว่าตัวไวรัสจริง ๆ เสียอีก การฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ใหม่อีกครั้งก็ไม่ใช่ วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ยิ่งแย่ไปกว่านั้นถ้าทำไปโดยยังไม่ได้มีการสำรองข้อมูลขึ้นมาก่อน การแก้ไขนั้นถ้าผู้ใช้มีความรู้เกี่ยวกับไวรัสที่ กำลังติดอยู่ว่าเป็นประเภทใดก็จะช่วยได้อย่างมาก
บูตเครื่องใหม่ทันทีที่ทราบว่าเครื่องติดไวรัส
เมื่อทราบว่าเครื่องติดไวรัส ให้ทำการบูตเครื่องใหม่ทันที โดยเรียกดอสขึ้นมาทำงานจากฟลอปปีดิสก์ที่ได้เตรียมไว้ เพราะถ้าไปเรียกดอสจากฮาร์ดดิสก์ เป็นไปได้ว่า ตัวไวรัสอาจกลับเข้าไปในหน่วยความจำได้อีก เมื่อเสร็จขั้นตอนการเรียกดอสแล้ว ห้ามเรียกโปรแกรมใด ๆ ก็ตามในดิสก์ที่ติดไวรัส เพราะไม่ทราบว่าโปรแกรมใดบ้างที่มีไวรัสติดอยู่
เรียกโปรแกรมจัดการไวรัสขั้นตรวจหาและทำลาย
ให้เรียกโปรแกรมตรวจจับไวรัส เพื่อตรวจสอบดูว่ามีโปรแกรมใดบ้างติดไวรัส ถ้าโปรแกรมตรวจ หาไวรัสที่ใช้อยู่สามารถกำจัดไวรัสตัวที่พบได้ ก็ให้ลองทำดู แต่ก่อนหน้านี้ให้ทำการคัดลอกเพื่อสำรองโปรแกรมที่ติดไวรัสไปเสียก่อน โดยโปรแกรมจัดการไวรัสบางโปรแกรมสามารถสั่งให้ทำสำรองโปรแกรมที่ติดไวรัสไปเป็นอีกชื่อหนึ่งก่อนที่จะกำจัดไวรัส เช่น MSAV ของดอสเอง เป็นต้น
การทำสำรองก็เพื่อว่า เมื่อไวรัสถูกกำจัดออกจากโปรแกรมแล้ว โปรแกรมนั้นอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หรือไม่สามารถทำงานได้เลยได้เลย วิธีการตรวจขั้นต้นคือ ให้ลอง เปรียบเทียบขนาดของโปรแกรมหลังจากที่ถูกกำจัดไวรัสไปแล้วกับขนาดเดิม ถ้ามีขนาดน้อยกว่า แสดงว่าไม่สำเร็จ หากเป็นเช่นนั้นให้เอาโปรแกรมที่ติดไวรัสที่สำรองไว้ แล้วหาโปรแกรมจัดการ ไวรัสตัวอื่นมาใช้แทน แต่ถ้ามีขนาดมากกว่าหรือเท่ากับของเดิม เป็นไปได้ว่าการกำจัดไวรัสอาจสำเร็จ โดยอาจลองเรียกโปรแกรมตรวจหาไวรัสเพื่อทดสอบโปรแกรมอีกครั้ง
หากผลการตรวจสอบออกมาว่าปลอดเชื้อ ก็ให้ลองเรียกโปรแกรมที่ถูกกำจัดไวรัสไปนั้นขึ้นมาทดสอบการทำงานดูอย่างละเอียดว่าเป็นปกติดีอยู่หรือไม่อีกครั้ง ในช่วงดังกล่าวควรเก็บโปรแกรมนี้ที่สำรองไปขณะที่ติดไวรัสอยู่ไว้ เผื่อว่าภายหลังพบว่าโปรแกรมทำงานไม่เป็นไปตามปกติ ก็สามารถลองเรียกโปรแกรมจัดการไวรัสตัวอื่นขึ้นมากำจัดต่อไปได้ในภายหลัง แต่ถ้าแน่ใจว่าโปรแกรมทำงานเป็นปกติดี ก็ทำการลบโปรแกรมสำรองที่ยังติดไวรัสติดอยู่ทิ้งไปทันที เป็นการป้องกันไม่ให้มีการเรียกขึ้นมาใช้งานภายหลังเพราะความบังเอิญได้

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความรู้จากการดูงานที่กรมอุตุนิยมวิทยา

ถึง ลูกศิษย์ที่รักทุกท่าน

สืบเนื่องจากการดูงานนะคะ

ความเร็วของโปรเซสเซอร์ วัดได้หลายรูปแบบคือ ความเร็วรอบในการทำงาน,ประมาณงานที่ทำได้(throughput) หน่วยที่ใช้ในการวัดความเร็วของคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้คือHz, MIPS(Millions Instruction Per Second), FLOPS( Floating Point Operations Per Second)

ระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (Large System)

รองรับการทำงานของผู้ใช้หลายคน ได้ในเวลาเดียวกัน ประกอบด้วย CPU 1 ชุดเชื่อมโยงกับเทอร์มินัลหลายเทอร์มินัล (อุปกรณ์ในการรับข้อมูลและแสดงผล) CPU ที่ใช้คือ คอมพิวเตอร์เมนเฟรมและมินิคอมพิวเตอร์

ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี (Personal Computer)

เป็นระบบที่ไม่ทำการต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ โดยมีหลักการว่าผู้ใช้สามารถที่จะใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างอิสระทุกเวลาที่ต้องการ งานที่ทำมีลักษณะที่เป็นงานอิสระ และมีลักษณะงานเฉพาะตัว

ระบบเครือข่าย (Network System)

รองรับการทำงานที่มีการติดต่อประสานงานกัน มีการใช้ข้อมูล สารสนเทศและทรัพยากรต่างๆ ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในการจัดระบบเครือข่ายจะต้องมีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหลายๆ ชุด ด้วยเครือข่ายการสื่อสาร การเชื่อมโยงกันของเครือข่ายมีได้หลายวิธีเช่นเครือข่ายท้องถิ่น (LAN: Local Area Network), WAN (Wide Area Network) เป็นต้น

อย่างที่อาจารย์เคยบอกไว้ มีรายละเีอียดใน PowerPoint ที่ครูเคยสอนคะ

อาจารย์จงดี

ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร(2)

วันนี้มารู้จักกันว่าไวรัสมีกี่ประเภท
ประเภทของไวรัส
Boot Sector Viruses หรือ Boot Infector Viruses คือไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ ของดิสก์ การใช้งานของบูตเซกเตอร์คือ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานขึ้นมาตอนแรก เครื่อง จะเข้าไปอ่านบูตเซกเตอร์ โดยในบูตเซกเตอร์จะมีโปรแกรมเล็ก ๆ ไว้ใช้ในการเรียกระบบ ปฎิบัติการขึ้นมาทำงานอีกทีหนึ่ง บูตเซกเตอร์ไวรัสจะเข้าไปแทนที่โปรแกรมดังกล่าว และไวรัส ประเภทนี้ถ้าไปติดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ โดยทั่วไป จะเข้าไปอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Parition Table ของฮาร์ดดิสก์นั้น ถ้าบูตเซกเตอร์ของดิสก์ใดมีไวรัสประเภทนี้ติดอยู่ ทุก ๆ ครั้งที่บูตเครื่องขึ้นมาโดย พยายามเรียก ดอสจากดิสก์นี้ ตัวโปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อนและจะเข้าไปฝังตัวอยู่ใน หน่วยความจำเพื่อเตรียมพร้อมที่ จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรมมา แล้วตัวไวรัสจึงค่อยไป เรียกดอสให้ขึ้นมาทำงานต่อไป ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Program Viruses หรือ File Intector Viruses เป็นไวรัสอีกประเภทหนึ่งที่จะติดอยู่กับโปรแกรม ซึ่งปกติก็คือ ไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น COM หรือ EXE และบางไวรัสสามารถเข้า ไปติดอยู่ในโปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น sys และโปรแกรมประเภท Overlay Programsได้ด้วย โปรแกรมโอเวอร์เลย์ปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลที่ขึ้นต้นด้วย OV วิธีการที่ไวรัสใช้เพื่อที่จะ เข้าไปติดโปรแกรมมีอยู่สองวิธี คือ การแทรกตัวเองเข้าไปอยู่ในโปรแกรมผลก็คือหลังจากที่ โปรแกรมนั้นติดไวรัสไปแล้ว ขนาดของโปรแกรมจะใหญ่ขึ้น หรืออาจมีการสำเนาตัวเองเข้าไปทับส่วนของโปรแกรมที่มีอยู่เดิมดังนั้นขนาดของโปรแกรมจะไม่เปลี่ยนและยากที่ จะซ่อมให้กลับเป็นดังเดิม การทำงานของไวรัส โดยทั่วไป คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำทันทีแล้วจึงค่อยให้ โปรแกรมนั้นทำงานตามปกติต่อไป เมื่อไวรัสเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำแล้ว หลัง จากนี้ไปถ้ามีการเรียกโปรแกรมอื่น ๆ ขึ้นมาทำงานต่อ ตัวไวรัสก็จะสำเนาตัวเองเข้าไป ในโปรแกรมเหล่านี้ทันที เป็นการแพร่ระบาดต่อไป วิธีการแพร่ระบาดของโปรแกรม ไวรัสอีกแบบหนึ่งคือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่มีไวรัสติดอยู่ ตัวไวรัสจะเข้าไปหาโปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ในดิสก์เพื่อทำสำเนาตัวเองลงไปทันทีแล้วจึงค่อยให้โปรแกรมที่ถูกเรียก นั้นทำงานตามปกติต่อไป

Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็น โปรแกรมธรรมดาทั่ว ๆ ไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการเรียกขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อ ถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมมาทันที ม้าโทรจันบางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้ง ชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำอธิบายการใช้งานที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันอาจจะเช่นเดียวกับคนเขียนไวรัส คือ เข้าไปทำ อันตรายต่อข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วงเอาความลับของระบบ คอมพิวเตอร์ ม้าโทรจันนี้อาจจะถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ ผู้ใช้เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มีม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรแกรม ที่มีความอันตรายสูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและสร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจใช้แค่แบตซ์ไฟล์ก็สามารถโปรแกรมประเภทม้าโทรจันได้

Polymorphic Viruses เป็นชื่อที่ใช้ในการเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเอง ได้เมื่อมีสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจได้หถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจับ โดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

Stealth Viruses เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับได้ เช่น ไฟล์อินเฟกเตอร์ ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรมใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทีลต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริง ของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากตัว ไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิม ทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฝึกหายใจ.....ให้หายง่วง

ในหนังสือ "พลังบำบัด ร่างกายคุณรักษาตนเองได้ " ของนายแพทย์แอนดรู ไวล์ เขามีวิธีบริหารลมหายใจซึ่งจะช่วยกระตุ้นร่างกาย ปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้นได้ด้วย น่าสนใจไหม ลองทำตามดังนี้

นั่งในท่าสบายๆ หลังตรง หลับตา เอาปลายลิ้นแตะที่ฟันบนด้านในแล้วเลียขึ้นไปทางเพดาน พอพ้นฟัน พักปลายลิ้นที่ตำแหน่งนั้น เรียกว่าตำแหน่ง "โยคะ" พักลิ้นไว้จุดนี้ตลอดการฝึก

หายใจเข้าออกถี่ๆ ทางจมูก หุบปากตามสบาย การหายใจเข้าและออกควรเป็นระยะเท่ากันและถี่กระชั้น จนคุณรู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอเหนือกระดูกไหปลาร้าและที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม หน้าอกต้องกระเพื่อมเร็วและเป็นจังหวะคล้ายๆ กำลังสูบลมด้วยที่สูบลม ภาษาสันสกฤตจะเรียกหารบริหารบทนี้ว่า "การหายใจแบบสูบลม" ซึ่งควรมีเสียงทั้งหายใจเข้าและหายใจออก หายใจให้ได้สัก 3 รอบต่อ 1 วินาที ถ้าพอทำไหว

ครั้งแรกที่คุณลองหายใจแบบนี้ ให้ทำสัก 15 วินาทีก็พอ ตามด้วยการหายใจปกติ แต่ละครั้งที่คุณจะบริหารก็ให้เพิ่มเวลาขึ้นเป็นครั้งละ 5 วินาที จนกระทั่งทำได้ถึง 1 นาทีเต็ม

วิธีนี้เป็นการออกกำลังกายให้แก่การหายใจจริงๆ คุณจึงควรรู้สึกล้าตามกล้ามเนื้อจุดต่างๆ ที่ใช้งาน ไม่ต้องวิตก การบริหารบ่อยๆ จำทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และเมื่อคุณกลับสู่การหายใจปกติ จะรู้สึกว่ามีพลังงานเคลื่อนไหวถ่ายเทไปตลอดทั้งร่างอย่างเบาบาง แต่หนักแน่น

วิธีบริหารลมหายใจนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ลองใช้วิธีนี้แก้ง่วงแทนกาแฟ คุณหมอแอนดรูก็ใช้วิธีนี้เสมอยามขับรถ เขาพบว่ายิ่งทำมากเท่าใด ยิ่งสร้างพลังให้แก่คุณเองมากขึ้นเท่านั้น

คำสอนของแม่

พรุ่งนี้เป็นวันแม่แล้ว อยากนำบทความดีๆเกี่ยวกับคำสอนของแม่ให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกัน

แม่คงสอนให้ลูกฉลาดไม่ได้ ลูกต้องเรียนรู้และฉลาดด้วยไหวพริบ และกึ๋นของลูกเอง แม่อยากให้ลูกคิดและมองโลกในแง่ดี อย่าคิดว่าใต้ฟ้านี้มีแต่เรื่องทำไม่ได้ เป็นไม่ได้ หัดคิดให้เป็นบวกไว้แหละดี

แม่อยากให้ลูกหัดฝัน เมื่อไรลูกฝันเป็น ไม่ว่าจะเป็นใฝ่ฝัน หรือความฝัน ลูกจะรู้ว่าโลกนี้มันน่าอยู่เพียงไหน แม่อยากให้ลูกพูดแต่เรื่องดี พูดแต่เรื่องสวยงาม จงเป็นคนสุดท้ายที่ให้ร้ายคนอื่น และจงเป็นคนแรก ที่ให้กำลังใจ และชื่นชม

แม่อยากให้ลูกทำเรื่องแปลกๆ ลูกไม่จำเป็นต้องเดินตามชีวิตประจำวันของใคร อย่าเก็บความคิดแปลก เพียงเพราะเห็นว่ามันไม่เหมือนใคร

แม่อยากสอนให้ลูกกล้าแดด กล้าฝน เพราะภายใต้ไออุ่นของดวงอาทิตย์ ลูกจะได้รับวิตามินดี และภายใต้ฟ้าที่มีฝน มันจะทำให้ลูกร้องไห้โดยไม่มีใครเห็นน้ำตา

แม่อยากสอนให้ลูกออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยคนเราก็ต้องเคลื่อนไหวทะมัดทะแมง ลูกได้ออกแรงเสียบ้าง ลูกจะแข็งแกร่งไม่อ่อนแอ แม่อยากให้ลูกยิ้ม และอยู่กับโลกด้วยความรัก ยิ้มอาจจะไม่ชนะทุกสิ่ง ยิ้มมากๆ อาจจะดูเหมือนคนบ้า แต่มันก็ดีกว่าหน้าบึ้งหน้างอเป็นไหนๆ

แม่อยากสอนให้ลูกรู้จักอดทน ลูกต้องเรียนรู้ว่าลูกไม่มีทางได้ทุกๆ อย่างที่ลูกหวังไว้ อดทนและอย่าได้เสียกำลังใจ อย่าท้อและขอให้เริ่มใหม่อย่างมีพลัง แม่อยากสอนให้ลูกเขย่งขาขึ้นให้สูง ไม่มีอะไรที่สูงไปกว่าสองมือเราจะเอื้อมคว้า เพียงแค่ว่าเรายืนยันที่จะไม่ยืนอยู่กับที่

แม่อยากสอนให้เจ้ามีความสุข แต่อย่าลืมทุกข์ด้วยล่ะลูก คนที่ไม่เคยมีความทุกข์ เขาสุขจริงๆ ไม่เป็นหรอกเจ้าเอย ไอคิวมันติดมาแต่บนฟ้าลูกจ๋า ไม่ฉลาดก็มีความสุขได้ไม่ต้องห่วง อย่าน้อยใจถ้าตามใครเขาไม่ทัน อย่าเสียขวัญถ้าเราช้ากว่าใครๆ อีคิวมันต้องหาเองบนโลกนี้ลูกเอ๋ย ไม่ฉลาดก็น่ารักและมีความสุขได้


"อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ลูกมีกำลังใจเป็นถุงจากแม่ ไม่ต้องกลัว"

อย่าลืมบอกรักแม่บ่อยๆนะจ๊ะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร

อย่าสับสน! ระหว่างคำว่าคอมพิวเตอร์ไวรัสกับไวรัสที่เป็นเชื้อโรค คอมพิวเตอร์ไวรัสนั้นเป็นแค่ชื่อเรียกสำหรับโปรแกรมประเภทหนึ่งที่มี พฤติกรรมคล้าย ๆ กับไวรัสที่เป็นเชื้อโรคที่สามารถแพร่เชื้อได้ และมักทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ แต่ต่างกันตรงที่ว่าคอมพิวเตอร์ไวรัสเป็นแค่เพียงโปรแกรมเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เราลองมาดูรายละเอียดกันหน่อยดีไหม เกี่ยวกับตัวไวรัสคอมพิวเตอร์นี้ ลองติดตามดู
ไวรัส คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน
การที่คอมพิวเตอร์ใดติดไวรัส หมายถึงว่าไวรัสได้เข้าไปผังตัวอยู่ในหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไวรัสก็เป็นแค่โปรแกรม ๆ หนึ่งการที่ไวรัสจะเข้าไปอยู่ ในหน่วยความจำได้นั้นจะต้องมีการถูกเรียกให้ทำงานได้นั้นยังขึ้นอยู่กับประเภทของไวรัส แต่ละตัวปกติผู้ใช้มักจะไม่รู้ตัวว่าได้ทำการปลุกคอมพิวเตอร์ไวรัสขึ้นมาทำงานแล้ว
จุดประสงค์ของการทำงานของไวรัสแต่ละตัวขึ้นอยู่กับตัวผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น เช่น อาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ แสดงข้อความวิ่งไปมาบน หน้าจอ เป็นต้น

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ข้อคิดเพื่อให้เกิดการเรียนรู้

ฟัง แล้ว รู้

จด แล้วจำ

ทำแล้วเข้าใจ

คิดเอง คิดได้ คิดเป็น

ทำเอง ทำได้ ทำเป็น

ไม่ใช่ทุกเรื่องที่เราจะฟังแล้วรู้ ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จดแล้วจำ ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ทำแล้วเข้าใจ ไม่ใช่ทุกเรื่องที่คิดเอง คิดได้คิดเป็น และไม่ใช่ทุกเรื่องที่ทำเอง ทำได้ ทำเป็น

แต่เป็นบางเรื่องที่ตั้งใจ สนใจ รักและชอบ และเป็นเรื่องที่สำคัญแก่ชีวิตและจำเป็นต่างหากที่ทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เรียนรู้ได้จริง นอกจากนั้นแล้วการฝึกให้มีสติให้พร้อมที่จะเรียนรู้ พร้อมที่จะฟัง จด คิดและทำให้เกิดประโยชน์ ตามที่มักพูดกันว่าสติมาปัญญาเกิดนั่นเอง

ฮา ฮา: สวรรค์เบี่ยง แบบพิสดาร

เป็น power point นะ
เอาไปดู ขำขำ แก้เบื่อละกัน

คลิ๊กเลย

แม่

สวัสดีครับเพื่อนๆและอาจารย์ ในที่สุดการสอบก็สิ้นสุดแล้ว (วะ ๕๕๕)
และก็เข้ามาสู่ เดือนสิงหาคม เดือนแห่งความรัก(ที่มีต่อแม่)
เลยถือโอกาสโพสต์บทความนี้ซะเลย
อ่านแล้วอาจมีบางคนบอกว่าก็รู้ๆกันอยู่แล้วโพสต์ทำไม
แต่....บางครั้งสิ่งเหล่านี้ที่เรารู้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่เราละเลยที่จะคิดถึงมันนะ

ข้อดีของคุณแม่....

>@ถ้าไม่มีแม่ แฟนเราก็จะไม่มีคนรักดีๆ อย่างนี้หรอ
เผลอๆเธออาจต้องอยู่เป็นโสดก็
ได้นะ

>@แม่ไม่เคยหลอกให้เราหลงรัก

>@ เพราะเราเต็มใจรักแม่โดยไม่ต้องหลง

>@ แม่อาจเคยตีเราให้เจ็บตัว แต่ไม่เคยทำให้เราเจ็บหัวใจ

>@ แม่ส่งเสียเรา แต่เราต้องส่งเสียแฟน

>@ แม่ไม่เคยบอกเลิก

>@ แม่เป็นแบงค์ส่วนตัวที่เวลากู้ไม่เคยคิดดอกเบี้ยและไม่ค่อยทวงคืน

>@ แม่เห็นเราเดินแก้ผ้าตั้งแต่เล็ก โดยไม่เคยติเรื่องรูปร่าง

>@ แม่เป็นคนที่เห็นเราดีกว่าแฟนของแม่เสมอ

>@ ขอหอมแม่ไม่ยากเท่าขอหอมแฟน

>@ แม่ยอมตัดสะดือตัวเองเพื่อให้เราเกิดมา

>@ แม่สอนให้เราพูดได้ เพื่อจะไปบอกรักแฟนตอนเราโต

>@ (แย่จัง…) แฟนไม่ได้มีนม (สดจากเต้า) ให้กินฟรีเหมือนแม่นี่หว่า

>@ แม่ยอมเป็นยัยอ้วนลงพุงตั้ง 9 เดือน เพื่อให้เราอาศัยอยู่ข้างใน

>@ ก็ในประเทศนี้ไม่มี “วันแฟนแห่งชาติ”เหมือนวันแม่ใช่มั๊ย

>-------------------------------------------------------------------------------------------
>และในวันแม่ปีนี้ คุณอยากบอกกับแม่ว่า....อะไรดีละ

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Hello from Costa Rica

Dear All Lovely Students,

I am in Monteverde, Costa Rica and will be here for a couple days. Here is the cloud forest which you can find the information about this kind of forest via google. How about the homework, any questions for helping all of you to learn more about the principle of environmental informatics?

Please prepare yourself and you friends about the trip on Aug 11th. We will leave the faculty at 7:00A.M. and will be back around 4:30P.M.

I will be in Thailand on Aug 10th. Please feel free to e-mail me or give me a call if you have any questions.

I hope everyone are doing great naka.

LOVES,

Jongdee To-im, Ph.D.

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แก้ปัญหา Windows XP บูตช้า

หากคุณกำลังประสบปัญหา Windows XP บูตช้ามาก เทคนิคระดับมืออาชีพต่อไปนี้ แม้จะดูซับซ้อนไปบ้างแต่รับรองว่าได้ผลอย่างแน่นอน
1. เปิดโปรแกรม Notepad (Start -> Programs -> Accessories -> Notepad)
2. พิมพ์ข้อความ “del c:\windows\prefetch\ntosboot-*.* /q” (ไม่ต้องพิมพ์ เครื่องหมายคำพูด) แล้ว Save เป็นชื่อไฟล์ ntosboot.bat ไว้ในไดเรกทอรี C:\
3. คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง gpedit.msc แล้ว Enter
4. คลิกเลือกออปชัน Computer Configuration -> Windows Settings -> Scripts (Startup/Shutdown) จากนั้นดับเบิลคลิกที่คำว่า Shutdown ที่ปรากฏ อยู่ในหน้าต่างด้านขวามือ
5. ที่หน้าต่างที่ปรากฏขึ้น คลิกปุ่ม Add –> Browse ตามด้วยการระบุที่อยู่ของไฟล์ ntosboot.bat ซึ่งก็คือ C:\ แล้วคลิกปุ่ม Open
6. คลิกปุ่ม OK -> Apply -> OK เพื่อปิดหน้าต่าง
7. คลิกปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง devmgmt.msc แล้ว Enter
8. ดับเบิลคลิกที่รายการ IDE ATA/ATAPI controllers
9. คลิกขวาที่รายการย่อย “Primary IDE Channel” เลือกคำสั่ง Properties
10. คลิกแท็บ Advanced Settings เปลี่ยนออปชันในหัวข้อ Device Type จาก autodetect ให้เป็น none แล้วคลิก OK
11. คลิกขวาที่รายการย่อย “Secondary IDE channel” เลือกคำสั่ง Propertiesแล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 10
12. รีสตาร์ทเครื่องใหม่อีกครั้ง ซึ่งการบูตเครื่องครั้งใหม่จะเร็วขึ้นกว่าเดิม

ตัวอย่างข้อดีของระบบดิจิตอลที่เหนือกว่าระบบอนาล็อก และในเมื่อระบบดิจิตอลมีข้อดีกว่ามากมาย ทำไมจึงยังคงใช้ระบบอนาล็อก

ผู้ออกแบบวงจรดิจิตอลและช่างเทคนิค จะต้องเข้าใจในการทำงานองระบบอนาล็อกและระบบดิจิตอล แบบอิเล็กทรอนิคส์ที่นิยมมากในอดีตมักจะเกี่ยวข้องกับจำนวนต่าง ๆ ที่พบกันในโลกของความเป็นจริงเช่น เช่น เวลา ความเร็ว น้ำหนัก ความดัน ความเข้มของแสง และการจัดตำแหน่ง ตัวอย่างของระบบอนาล็อกสำหรับการจัดระดับของเหลว ซึ่งเป็นไปตามกฏของโอห์ม คือ I = B/R โดยมีแอมป์มิเตอร์เป็นตัวบอกค่าของทาง OutPut ซึ่งจะใช้วัดขนาดระดับของเหลวใน tank

ข้อดีที่ได้จากการใช้วงจรดิจิตอลแทนอนาล็อก
1.ราคาไอซีไม่แพง สามารข้อจำกัดของวงจรดิจิตอล
1.ระบบที่พบในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เป็นระบบอนาล็อก
2.กระบวนการทางอนาล็อกจะง่ายและเร็วกว่าถใช้งานได้หลายแบบ
2.เก็บรายละเอียดได้ในเวลาสั้น
3.ข้อมูลสามารถนำไปใช้ในการคำนวณได้ถูกต้อง
4.วงจรสามารถออกแบบได้ง่าย ๆ โดยไอซีตระกูลเดียวกัน
5.สามารถโปรแกรมวงจรและแสดงออกในรูปแบบที่ต้องการได้

ข้อจำกัดของวงจรดิจิตอล
1.ระบบที่พบในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เป็นระบบอนาล็อก
2.กระบวนการทางอนาล็อกจะง่ายและเร็วกว่า