วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

10 โปรแกรมฟรีๆ น่ามีเก็บไว้ใน ThumbDrive

เดี๋ยวนี้ ThumbDrive กลายเป็นอุปกรณ์ IT พกพาที่ได้รับความนิยมสูง ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าราคา Tumb Drive หรือบางคนเรียกว่า Flash Drive นั้นราคามันถูกลงมาแบบเรื่อยๆ ลงมา ลงมา แล้วก็ลงมาจนแตะราคาแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะตกลงขนาดนี้ อย่าง 512 MB เหลือที่ 199 บาท 1GB เหลือที่ 315 บาท และ 2 GB ก็อยู่ที่ 550
สำหรับจุดประสงค์ในการซื้อ THumb Drive ของคนส่วนมากที่ซื้อมาใช้ร้อยละ 90 ตอบเหมือนกันเลยว่าซื้อมาเก็บข้อมูล หรือเอาไว้ย้ายไฟล์ไปมาระหว่าง แต่ไม่ค่อยจะมีคนทราบว่าเจ้า Thumb Drive นี้มันสามารถลงโปรแกรมทำงานได้เหมือน Hard Drive ลูกหนึ่งเลย โดยโปรแกรมประเภทที่ลงใน Thumb Drive เค้ามักจะเรียกว่า Portable Software เป็นโปรแกรมที่สามารถบรรจุลงใน Thumb Drive หรือ Flash Drive ต่างๆ แล้วสามารถนำไป run ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้ โดยจะไม่มีการติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ เมื่อดึง Thumb Drive ออกจากเครื่องก็จะไม่ทิ้งข้อมูลใดๆเอาไว้ เหมาะสำหรับเอาไปใช้ตาม Net Cafe หรือสถานที่ที่ใดก็ได้เครื่องใดก็ได้ที่ไม่ใช่เครื่องของเรา แต่ยังมีโปรแกรมที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำอยู่
วันนี้เลยแนะนำโปรแกรม 10 อันดับที่ได้รับความนิยมแบบ Freeware ที่น่าจะติดตั้งลงใน Thumb Drive ใช้ฟรีไม่อต้งเสียเงิน ไม่ต้องขอเลขวิเศษใดๆทั้งสิ้น
1.Sumatra PDF Portable
โปรแกรมสำหรับอ่านไฟล์ PDF แบบขนาดเล็กสามารถใช้งานได้จาก Thumb Drive ไม่ต้องไปลงในเครื่อง PC อื่น โดยไม่ทำให้เครื่องเค้าเพี๊ยน หรือรก แบบนี้สบายใจกว่า
2.FileZilla FTP (Portable Version)
เป็นโปรแกรมประเภท FTP แบบพกพาสามารถนำไปเสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ไหนก็ได้ แล้วสามารถเรียก run โปรแกรมแบบ FTP ได้ทันทีจากเครื่องนั้นโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม ลงใน PC ทำให้การใช้งานปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องมีการทิ้งพวก Log หรือไฟล์ความลับต่างๆไว้ในเครื่องนั้นรวมทั้ง password ที่ใช้ติดต่อกับ Server ด้วย
3.Mozilla Firefox, Portable Edition
โปรแกรม Browser ยอดนิยมที่ทำงานเร็วกว่า IE เยอะเลย Firefox ในแบบ Version Portable นี้การตัดคำภาษาไทยอาจจะยังไม่สวยเท่าไร แต่มันก็ใช้ง่ายสามารถ Save พวก Book Mark และ ตั้งค่าการใช้งาน Browser รวมทั้ง History ต่างๆเอาไว้ใน ThumbDrive ได้เลย ไม่ต้องลงใน PC เลิกใช้ก็ดึงออกไม่ทิ้งความลับใดๆเอาไว้
4. TrueCrypt Software Portable Drive Encryption
เป็นโปรแกรมที่ขอแนะนำว่าให้มีติดไว้ใน Thumb Drive เลยครับ โปรแกรมนี้จะสร้าง Virtual Drive หรือ ไดร์ฟแบบเสมือนขึ้นมา เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ และไฟล์ต่างๆ ซึ่งเราสามารถเข้ารหัสข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ได้ เวลาเกิดวันดีคืนดีทำ ThumbDrive หล่นหายจะได้ไม่มีใครเอาข้อมูลเราไปใช้ได้
5.Avira AntiVir PersonalEdition Classic
โปรแกรม Anti Virus แบบพกพาเวลาเอา Thumb Drive ไปเสียบเพื่อทำงานต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวอื่น อาจจะใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสตัวเล็กๆแบบนี้ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจอีกชั้นหนึ่งก่อนได้ ในกรณ๊ที่เครื่องที่เราไปใช้งานเค้าไม่ได้ติดตั้งโปรแกรม AntiVirus เอาไว้ หรือติดแล้วไม่เคยอัพเดทเลย
6.CyberShredder v1.10
เป็นโปรแกรมที่เพิ่มความมั่นใจเวลาเกิดที่เราไปใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น แล้วลบไฟล์ที่ไม่ต้องการออกไปแล้ว โปรแกรมนี้จะช่วยการตรวจสอบว่าไฟล์นั้นถูกลบออกไปจริงไม่สามารถเรียกกู้ข้อมูลได้อีก เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
7.OpenOffice.org Portable
โปรแกรมคล้ายๆกับ MicroSoft Office แต่ตัวนี้เป็นฟรีแวร์ครับมีทั้ง word processor, spreadsheet, presentations สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม Mirosoft Office ของ ไมโครซอฟท์ได้ โปรแกรมนี้ขนาด 65 MB โหลดนานหน่อยแต่ฟรี
8.KeePass
โปรแกรมจัดการข้อมูล password ส่วนตัวของผู้ใช้โดยจะมีการจัดการรวมไว้เป็นอันเดียวพร้อมระบบการจัดแบ่งต่างๆ ซึ่งทำให้สะดวกต่อการใช้และปลอดภัยอีกด้วย เวลาไปใช้งาน PC เครื่องอื่นอาจจะลืม password จากเครื่องที่เราใช้งานปกติโปรแกรมนี้ช่วยได้ครับและปลอดภัยไม่ทิ้งข้อมูลหลงเหลือใดๆ เพราะโปรแกรมตัวนี้ทำงานบน Thumb Drive
9.Remora USB Disk Guard
เป็นโปรแกรมที่เข้ารหัสข้อมูลก่อนใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยหาก Thumb Drive เกิดสูญหาย หรือบุคคลอื่นเข้ามาใช้งานใน File ของเรา
10.Mac-on-Stick
อันนี้แปลกดี Run ระบบปฎิบัติการ MAC OS 7 บน Thumb Drive ถึงแม้จะเก่าไปหน่อยแต่ก็ยังคลาสสิคตามสไตล์ MAC


ที่มา http://tna.mcot.net/bookworld.php?book_id=378
http://static.flickr.com/

ทิปน่ารู้ คอมพิวเตอร์ 23 โปรแกรมลับใน XP

คุณรู้ไหมครับ ว่า Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักมันมาจากการที่
จำเป็นต้องใช้มันนั้น เราจะไม่มีทางได้ใช้มันเลย เพราะบางโปรแกรม มันไม่อยู่ใน StartMenu ให้เรากด
บางโปรแกรมถึงติดตั้งมาโดยที่เอาออกไม่ได้ บางโปรแกรมเป็นโปรแกรมที่มาจากวินโดว์รุ่นก่อน
(ทั้งๆที่ XP ก็มีโปรแกรมนั้นแล้ว) มาดูกันว่า 23 โปรแกรมนั้นมีอะไรบ้าง

วิธีการใช้ก็เข้าที่ Start -> Run -> พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้

charmap.exe = Character Map (มีประโยชน์มากสำหรับใช้พิมพ์อักขระพิเศษ)
cleanmgr.exe = Disk Cleanup (เอาไว้ทำความสะอาดหรือ Clear พื้นที่)
clipbrd.exe = Clipboard Viewer (ดูข้อมูล ในคลิปบอร์ด)
drwtsn32.exe = Dr Watson (โปรแกรมที่ใช้ตัวสอบว่าวินโดว์มีปัญหาเพราะอะไร)
dxdiag.exe = DirectX diagnosis
(โปรแกรมตรวจสอบอุปกรณ์ว่า สนับสนุน DirectX หรือไม่ และแสดงรายชื่อไฟล์ที่เกี่ยวข้อง)
eudcedit.exe = Private character editor (โปรแกรมที่อนุญาตให้เราแก้ไขฟอนต์ หรือทำฟอนต์เองได้)
iexpress.exe = IExpress Wizard
(โปรแกรมที่สร้างไฟล์ Setup ของวินโดว์ เอาไว้สำหรับคนที่เขียนโปรแกรมบนวินโดว์)
mobsync.exe = Microsoft Synchronization Manager
(โปรแกรมที่คอยเก็บหน้าเว็บ หรือไฟล์บนเครือข่าย เอาไว้ดูตอน offline ได้)
mplay32.exe = Windows Media Player 5.1 (โอ้ Windows Media Player รุ่นคุณปู่)
odbcad32.exe = ODBC Data Source Administrator (โปรแกรมไว้จัดการกับดาต้าเบต)
packager.exe = Object Packager (โปรแกรมที่ใส่พวก Objects ต่างๆ ลงในไฟล์)
perfmon.exe = System Monitor (โปรแกรมนี้ มีประโยชน์มาก ไว้ตัวสอบประสิทธิภาพของวินโดว์)
progman.exe = Program Manager (เชลล์ไฟล์ของวินโดว์ 3.11)
rasphone.exe = Remote Access phone book
(โปรแกรมที่เอาไว้ ติดต่อหรือเข้าถึงข้อมูลของสมุดที่อยู่ ในเครื่องอื่น)
regedt32.exe = Registry Editor [เหมือนกับ regedit.exe> (ไว้ใช้สำหรับแก้ไข Registry ของวินโดว์)
shrpubw.exe = Network shared folder wizard (สร้างแชร์โฟดเดอร์บนเครือข่าย)
sigverif.exe = File siganture verification tool (โปรแกรมตรวจสอบ signature ของไฟล์)
sndvol32.exe = Volume Contro (โปรแกรมไว้ปรับระดับเสียงไง อันเดียวกับรูปลำโพงตรง tray icon)
sysedit.exe = System Configuration Editor (โปรแกรมแก้ไข system.ini กะ win.ini)
syskey.exe = Syskey (Secures XP Account database –
เป็นโปรแกรมที่ใช้ เข้ารหัส รหัสผ่านของวินโดว์ กรุณาใช้อย่างระมัดระวัง)
telnet.exe = Microsoft Telnet Client (โปรแกรม telnet)
verifier.exe = Driver Verifier Manager
(โปรแกรมตรวจสอบ driver ต่างของวินโดว์ ใช้สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องไดร์เวอร์)
winchat.exe = Windows for Workgroups Chat (โปรแกรม chat รุ่นคุณปู่

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไอเดียสุดเจ๋ง!! ปลูกผักบนมือถือ

ปลูกผักบนมือถือ ไอเดีย สุดจี๊ดจากแดนปลาดิบ ญี่ปุ่น เป็นการปลูกต้นไม้ ผักสวนครัว ไว้ในแคปซูลที่ใช้ห้อยกับ โทรศัพท์มือถือ ข้างในแคปซูลจะใส่ดินไว้ และเราต้องคอยรดน้ำ พาไปเดินเล่นโดนแสงแดดบ้าง ดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ พอผักในแคปซูลห้อยมือถือ โตขึ้นหน่อย ก็สามารถย้ายมาปลูกในแปลงให้โตแล้วเอามา กินได้อีกด้วย ปลูกผักบนมือถือ ความคิดสุดเจ๋งทีเดียว












ปล.น่าเอามาทำใช้มั่ง ^^

คีย์บอร์ดสำรอง

วิธีการใช้คีย์บอร์ดสำรอง

ไปที่ Start >> All Programs >> Accessories >> Accessibility >> On-Screen Keyboard



แค่นี้โปรแกรม On-Screen Keyboard ก็ขึ้นมาให้แล้ว



ปล.เพิ่งรู้อ่ะว่ามันมีด้วย -*-

แฉ!!!!!! ข่าว "ไข่ปลอม" ที่แท้ลวงโลก


เมื่อ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข่าว “ไข่ปลอม” ในประเทศจีนที่เพิ่งมีสื่อมวลชนไทยนำมาเสนอนั้น พบว่า เป็นเพียงข่าวกุที่ขยายความตามเว็บบล็อกและอีเมล์ลูกโซ่ที่ส่งต่อกันมานาน แล้วเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ บล็อกข่าวคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคชื่อดังของสหรัฐ เคยหลงกลนำไปรายงานต่อ จนจุดกระแสฮือฮาไปทั่วโลก แต่ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.2550 นายเบน สโปกเคน บรรณาธิการเว็บแถลงว่า ข่าวดังกล่าวอาจเป็นเพียงเรื่องโกหกลวงโลก

ด้านบล็อกเกอร์ที่เปิดโปงเบื้องหลังไข่ปลอมนี้ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในข่าวไข่ปลอมหลายจุด

เริ่มจากราคาขายไข่ไก่จริงๆ ในประเทศจีน ซึ่งไม่ได้แพงมโหฬารจนถึงขั้นต้องลงทุนทำไข่ปลอมขาย เช่น ไข่ปลอมขายในห้างคาร์ฟูร์ นครเซี่ยงไฮ้ กล่องละ 15 ฟอง ราคา 9 หยวนเศษ ตกฟองละ 2 บาทกว่าๆ


นอก จากนี้ เมื่อตรวจสอบต้นตอที่มาของข่าว ซึ่งอยู่ในเว็บไซต์วารสารพิษวิทยา The Internet Journal of Toxicology ยังพบความผิดปกติหลายข้อ

เช่น กรณีผู้เขียนใช้ชื่อว่า นายอเล็กซานเดอร์ เซียะ เหยียนหลี่ สังกัดเครือข่ายวิจัยเรื่องพิลึก (Queers Network Research) ในฮ่องกง เมื่อตรวจสอบ ไม่พบหน่วยงานดังกล่าวในฮ่องกงและหมายเลขโทรศัพท์ในเว็บก็ไม่มีอยู่จริง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ประโยชน์ของมือถือ ที่คุณยังไม่รู้

ใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือ ตั้งใจอ่านดีๆ อ่านจบแล้วจะรู้ว่ามือถือไม่ได้มีไว้สำหรับ โทรเข้า-โทรออกเท่านั้น

1.) หมายเลขสากลฉุกเฉิน 112 ใช้ได้ทั่วโลก ถ้าเกิดเราหลงไปอยู่ในเขตที่ไม่มีสัญญาณเลย แต่มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้กด 112 แล้วมันจะหาเบอร์ให้เองอัตโนมัติ แม้แต่เราล็อคปุ่มก็ยังกดเบอร์นี้ได้

2.) ใช้ในกรณีที่ลืมกุญแจไว้ในรถ… สำหรับรถที่ใช้ Remote Key ถ้ารถล็อคไปแล้ว แต่เรามีกุญแจสำรองอยู่ที่บ้าน ให้โทรไปหาคนที่อยู่ที่บ้านด้วยมือถือ (เราต้องโทรไปหาเบอร์มือถือของเขาด้วยนะ) เมื่อเขารับแล้วให้เราบอกเขา ให้กดปุ่ม unlock บนกุญแจสำรอง ในขณะที่เราถือมือถือ ให้ห่างจากประตูรถประมาณ 1 ฟุต (คนที่อยู่บ้านที่เราวานให้กด ต้องเอากุญแจไปจ่อใกล้กับมือถือของเขาในขณะที่กดปุ่ม) ประตูรถก็จะเปิดออก เหมือนเรากดปุ่มรีโมทด้วยตัวเอง ระยะทางไม่มีปัญหา แม้รถกับบ้านจะอยู่ห่างกันเป็นร้อยๆ กม. ก็ตาม

3.) กรณีแบ็ตใกล้จะหมด *3370# สำหรับมือถือ Nokia ถ้าเกิดถ่านเหลือน้อยเต็มที จนใกล้ดับแต่เราจำเป็นต้องโทรออกให้กด * 3370# มันจะรีดพลังสำรองที่ซ่อนออกมาแล้วแสดงให้เห็นว่า เพิ่มพลังถ่านให้ขึ้นมาอีก 50% และมันจะชดเชยส่วนสำรองนี้ในการชาร์จแบตครั้งต่อไป

4.) ถ้าโทรศัพท์หายต้องการทำให้ใช้ไม่ได้ตลอดไป ในกรณีนี้เราต้องใช้ หมายเลข serial number ประจำเครื่อง ซึ่งมี 15- 17 หน่วย การที่จะทราบหมายเลขนี้ กด * #06# แล้วหมายเลขประจำเครื่อง ก็จะขึ้นมาให้เห็นทันทีเหมือนเล่นกล จดไวแล้วเก็บไว้ให้ดี …. ที่นี้ถ้ามือถือหายหรือตกหล่น ให้โทรไปที่ศูนย์ แล้วแจ้งหมายเลขให้เขาไป เขาก็จะบล็อคเครื่องของเราให้ แล้วทีนี้มือถือที่หายไปจะใช้ไม่ได้อีกเลย ถึงแม้ว่าคนขโมยไปจะเปลี่ยน sim card มันก็จะยัง ใช้ไม่ได้อยู่ดี

ลองทำกันดูนะคับ..

ปล. ข้อ 2 กับ ข้อ 3 นี่น่าสนใจหน่อย ถ้ามีโอกาสว่าจะลองทำดูบ้างเหมือนกัน ^^

ความฉลาดและบทบาทของนาโนโรบ็อต

ความเร่งตามวงจรการปรับปรุงของความฉลาดที่ไม่มีชีวิต (nonbiological intelligence) นัน นาโนเทคโนโลยีจะทำให้สามารถจัดการความจริงทางกายภาพในระดับโมเลกุลได้ นาโนเทคโนโลยีทำให้สามารถออกแบบหุ่นยนต์จิ๋ว (nanobot) เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบในระดับโมเลกุลวัดขนาดเป็นไมครอน (micronsหรือหนึ่งในล้านเมตร) เช่นให้เป็นเซลล์กลเม็ดเลือดแดง นาโนบ็อตจะมีบทบาทสำคัญภายในร่างกายมนุษย์ รวมทั้งการลดอายุให้ดูหนุ่มสาวขึ้น (ในขอบข่ายที่งานนี้การใช้ไบโอเท็คเทคโนโลยี (biotechnology) เช่นวิศวพันธุกรรมยังทำได้ไม่สำเร็จ)

การใช้นาโนบ็อตให้มีอัตรกิริยากับเส้นประสาทในทางชีวะ จะขยายขอบเขตประสบการณ์ของมนุษย์ออกไป โดยการสร้างความจริงเสมือน (virtual reality) จากภายในระบบประสาทได้โดยตรง นาโนบ็อตจำนวนนับพันล้านตัวที่อยู่ในหลอดเลือดของสมองจะขยายความสามารถของสมองออกไปอย่างสูงมาก

ทันที่ที่ความฉลาดที่ไม่มีชีวิตได้ก้าวเข้าไปในสมองมนุษย์ (สิ่งนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วโดยการฉีดเข้าไปทางประสาทด้วยคอมพิวเตอร์) เครื่องจักรอันชาญฉลาดในสมองของเราจะเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างน้อยเพิ่มกำลังเป็นสองเท่าในแต่ละปี เมื่อเปรียบเทียบกับความฉลาดของชีวิตเห็นได้ชัดถึงความสามารถที่ค่อนข้างคงตัว ดังนั้นความฉลาดจากสิ่งไม่มีชีวิตจะเป็นส่วนของความฉลาดปัญญาของเรา สุดท้ายแล้วจะโดดเด่นขึ้นมา

นาโนโรบ็อตจะส่งเสริมให้สิ่งแวดล้อมโดยการทำงานย้อยกลับของการเกิดมลภาวะจากยุกเริ่มแรกของอุตสาหกรรม นาโนบ็อตที่เป็นอนุภาคหมอก (foglets) ที่สามารถเข้าไปจัดการรูปภาพ คลื่นเสียงที่นำไปสู่คุณภาพการแปลงสภาพเร็ว (morphing)จากความจริงเสมือนไปสู่โลกความเป็นจริง (real world)

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การทำเหมืองข้อมูล

การทำเหมืองข้อมูล (data mining) หรือรู้จักกันดีในนามการค้นพบความรู้ในฐานข้อมูล (knowledge discovery in database) เป็นกิจกรรมที่สะกัดเอาสารสนเทศ โดยมีเป้าหมายเป็นความรู้ใหม่ และความจริงบางอย่างจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่

การทำเหมืองข้อมูลใช้เครื่องมือที่หลากหลายกว้างขวาง เช่นสถิติ การเรียนรู้เรื่องการทำงานอัตโนมัติ การจำลองแบบ เทคโนโลยีฐานข้อมูล ความฉลาดปัญญาประดิษฐ์ ที่มองเห็นเข้าใจได้

นับตั้งแต่มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้จัดการข้อมูล ในทางธุรกิจได้ให้นิยามไว้ว่ากระบวนการทีสะกัดสารสนเทศที่มีอยู่จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ไม่ทราบว่าสามารถเข้าใจได้และนำไปใช้ได้ แล้วนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจแบบฉบับ การทำเหมืองข้อมูลจึงเป็นแนวคิดในทางธุรกิจเป็นวิธีการหาสารสนเทศที่มีประโยชน์ เช่นสามารถหาได้ว่าลูกค้ามาซื้อสิ้นค้าใดพร้อมๆ กันมากที่สุด ซื้อสิ้นค้าใดควบคู่กับซื้อสินค้าใดเสมอ ปริบททางการค้าเป็นจุดเริ่มต้นที่จัดทำกันและขยายผลไปทางวิทยาศาสตร์ เช่นจากฐานข้อมูลสิ่งพิมพ์ของนักวิทยาศาสตร์

ในทางปฏิบัติการทำเหมืองข้อมูลใช้วิธีการที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูล และการกำหนดวัตถุประสงค์ หลักการที่ใช้ซึ่งยังมีงานอีกมากในการหากระบวนการที่เป็นมาตรฐานในสถานะการและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ยิ่งกว่านั้นก็คือเนื้อหาข้อมูลที่ได้รับการรวบรวมมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการวิเคราะห์ใดๆ

กระบวนการในการทำเหมืองข้อมูลโดยทั่วไป
1. การจัดข้อมูล (captured data) มีการบูรณาการจัดระบบในแนวกว้าง ในรูปของคลังเก็บหรือ data warehouse
2. การทำเหมืองจาก warehouse
3. การจัดระบบและนำเสนอของเหมืองสารสนเทศ ที่จะให้เข้าใจได้

จากนิยามของการทำเหมืองในการแยกสารสนเทศที่ไม่ทราบแต่มีอยู่ตามกระบวนการเก็บข้อมูลที่ผ่านมา กระบวนการในการทำเหมืองจะมี 2 แนวทางคือ verification driven ที่ทำการตรวจสอบ ตามข้อตกลง สมมุติฐานโดยผู้ใช้ อีกแนวทางหนึ่งคือ discovery driven ที่จะทำให้ค้นพบสารสนเทศได้อย่างอัตโนมัติ โดยมีเครื่องมือที่เหมาะสม

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดู ฮา ฮา: ที่มาของโลโก้ กูเกิ้ลโคลม

สำหรับบางคนอาจจะไม่รู้จักกับ Google Chrome
Google Chrome เป็นโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ (เหมือน IE,Firefox) ที่พัฒนาโดยกูเกิล
เท่าที่ลองใช้มา ถือว่าเป็นโปรแกรมที่เข้าได้เร็วกว่า firefox การโหลดหน้าเว็บก็เร็วกว่า IE
แต่เวลาโหลดไฟล์ส่วนใหญ่ยังสู้ firefox ไม่ได้
ข้อดีของ Google Chrome คือ ช่วงที่ใช้เน็ต มอ เข้าเว็บ Gushare ไม่ได้
ถ้าใช้Google Chrome จะเข้าได้ และโหลดคล่องมากกก

เอาละ ทีนี้โลโก้ของ Google Chromeมันเป็นแบบนี้


ส่วนที่มาของมันก็มาจาก...


ปล. Microsoft กะ Google เขาไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนะ

เรื่องของการให้และการทำดี

อันนี้เป็นบทความแรกนะนี่ที่เขียนเอง
อาจเรียกว่าบทความไม่ได้หรอกนะ
เรียกว่าเป็นประสบการณ์ สิ่งที่เราพบเจอ
และเอามาแบ่งให้เพื่อนๆฟังดีกว่า

วันนี้เราได้นั่งกินข้าวเที่ยงกับพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเรา
แล้วก็คุยกันเรื่องเกี่ยวกับการทำความดี
พี่ชายของเราคนนี้ จบตรี บริหาร มช
แล้วไปทำงาน ๑-๒ ปี ตอนนี้กำลังเรียนโทนิเทศจุฬา
พี่เล่าให้ฟังว่า มีช่วงหนึ่งที่พีเขาไม่นับถือศาสนาอะไรเลย
เพราะว่า
รู้สึกว่าทำดีก็ไม่ได้ดี ทำดียังไงก็โดนคนเอาเปรียบ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้คนอยู่รอด

พี่เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ทำงานพี่เขาเห็นว่าคนที่ทำดีทำงานจริงจัง ไม่ประจบประแจง
ก็ไม่ได้เลื่อนขั้น ตรงกันข้าม...พวกที่ประจบประแจงกลับได้เลื่อนขั้น แถมคนพวกนี้พอเห็นเรา
ทำงานดีก็มาใช้งานเราเยอะๆด้วย
แต่...จุดที่ทำให้พี่เรากลับมานับถือศาสนาพุทธได้ก็คือ เรื่องสมาธิ พี่เล่าให้ฟังว่าช่วงนั้นแย่มาก
ชีวิตมีปัญหา มีความทุกข์ หลายอย่าง แต่พอหันมาฝึกสมาธิก็ทำให้รู้สึกดีมีความสุข
(ทุกวันนี้ก่อนนอน พี่สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน )

สำหรับเราคิดว่า คำว่า ทำดีไม่ได้ดีนะ ไม่มีหรอก เพียงแต่ เรามองไม่เห็นสิ่งดีๆที่ตอบกลับมา
เท่านั้นเอง

สมมติว่า เราลุกสละที่นั่งบนรถเมล์ให้คนแก่ เพียงเท่านี้เราก็ได้สิ่งดีๆมาแล้ว นั่นก็คือความสุขใจ
ที่ได้ทำดี
ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่สละที่ให้ แถมรำคาญ ประมาณว่า แก่แล้วไม่เจียมยังจะขึ้นรถเมล์อีก
สิ่งที่ไม่ดีก็เกิดขึ้นแล้ว คือ เราก็จะทุุกข์ใจ

ลองสังเกตดูดีๆแล้วจะเห็นครับ ^^

การประหยัดพลังงาน

ในปัจจุบันชีวิตของเรานั้นจำเป็นจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทุกๆวัน สาเหตุที่ทำให้ความต้องการในการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นนอกจากว่าด้วยเหตุผล คือ จำนวนของประชากรเพิ่มขึ้นแล้ว รูปแบบและวิธีการใช้พลังงาน ทั้งในแง่ของส่วนบุคลและสาขาเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็ยังมีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งในปัจจุบันพลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต แต่มีคนจำนวนไม่มากที่รู้จักใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีจำนวนจำกัดให้ได้ประโยชน์สูงสุด และขณะที่รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญในการอนุรักษืพลังงาน และส่งเสริมให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าในระบบแสงสว่าง
1. เลือกวื้อหลอดไฟที่มีค่า " ลูเมนตืต่อวัตต์ " ที่สูงกว่า คือ หลอดที่ให้ประสิทธิภาพแสงสูงกว่าจะช่วยใหประหยัดค่าไฟ
2. เลือกวื้อบัลลาสต์แกนเหล็กชนิดความสูญเสียต่ำหรือบัลลาสตือิเล็กทรอนิกส์แทนบัลลาสต์แกนเหล็กจะช่วยประหยัดค่าไฟ
3. เลือกใช้โคมไฟฟ้าที่มีแผ่นสะท้อนแสงจะมีประสิทธิภาพสูง
4. พื้นที่ที่เปิดใช้ไฟนาน ๆ ให้เปลี่ยนจากการใช้หลอดไส้มาเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดประหยัดพลังงาน เช่น ห้องนั่งเล่นหรืห้องนอน เป็นต้น
5. ติดป้ายแสดงตำแหน่งการเปิด-ปิดไฟให้ชัดเจนเพื่อรณรงค์ให้เปิดไฟเฉพาะพื้นที่ใช้งาน
6. ตั้งกฎให้สมาชิกในบ้านปิดไฟทุกครั้งเมื่อใช้งาน
7. ทำความสะอาดหลอดไฟบ้างอย่างน้อยประมาณ 6 เดือนต่อครั้งโดยใช้ผ้าแห้งทำการเช็ดบริเวรผิวของหลอดไฟจะทำให้ช่วยพื่มแสงสว่างได้โดยไม่ต้องติดหลอดไฟเพิ่ม
8. รู้จักใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติในตอนกลางวันเพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดไฟ โดยจัดห้องให้รับแสงธรรมชาตมากขึ้น
9. ใช้สีอ่อนทาผนัง ฝ้า เพดา และใช้วัสดุสีอ่อนปูพื้น เพราะสีอ่อนมีค่าสะท้อนแสงสูงกว่าสีทึบ
ยังมีวิธีประหยัดพลังงานอีกหลายวิธี แล้วเดี๋ยวจะมาบอก...

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ธาตุใหม่ในตารางธาตุลำดับที่ 112



เป้าตะกั่วซึ่งใช้ผลิตธาตุที่ 112 เป็นครั้งแรก (ศูนย์จีเอสไอ/ไซน์เดลี)


โดยจะเรียกธาตุนี้ว่า “copernicium” และจะมีสัญลักษณ์ตัวย่อเป็น Cp ซึ่งชื่อนี้ตั้งเป็นเกียรติแก่นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ Nicolaus Copernicus

สำหรับธาตุใหม่นี้หนักกว่าไฮโดรเจนประมาณ 277 เท่า ซึ่งนับเป็นธาตุที่หนักที่สุดในตารางธาตุ (อย่างเป็นทางการ) โดยมีนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด 21 คน จากเยอรมนี ฟินแลนด์ รัสเซีย สโลวาเกีย ที่มีส่วนร่วมในการค้นพบธาตที่ 112 นี้ โดยนักวิทยาศาสตร์นานาชาติของ ศ.ฮอฟแมนน์ได้สร้างอะตอมตัวแรกของธาตุที่ 112 ขึ้นเมื่อปี 2539 ด้วยเครื่องเร่งอนุภาคภายในศูนย์จีเอสไอ ในปี 2545 พวกเขาสามารถผลิตอะตอมของธาตุตัวใหม่นี้ขึ้นได้อีกครั้ง ต่อมาการทดลองของเครื่องเร่งอนุภาค "ริเคน" (RIKEN) ในญี่ปุ่นได้ผลิตธาตุที่ 112 ออกมาจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นการยืนการค้นพบของจีเอสไอ

เพื่อผลิตอะตอมของธาตุที่ 112 นักวิทยาศาสตร์ต้องเร่งอะตอมของสังกะสีไอออน โดยอาศัยเครื่องเร่งอนุภาคความยาว 120 เมตรที่ศูนย์จีเอสไอ และยิงไอออนของสังกะสีไปยังเป้าตะกั่ว นิวเคลียสของสังกะสีและตะกั่วจะหลอมรวมกันด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน เพื่อสร้างนิวเคลียสของธาตุใหม่

เหตุที่เรียกว่าธาตุที่ 112 เนื่องจากธาตุตัวนี้มีเลขอะตอมเท่ากับ 112 ซึ่งเป็นผลบวกเลขอะตอมของสังกะสีและตะกั่ว โดยสังกะสีมีเลขอะตอม 30 ส่วนตะกั่วมีเลขอะตอม 82 และเลขอะตอมนี้ยังแสดงถึงจำนวนของโปรตอนในนิวเคลียส ส่วนนิวตรอนที่อยู่ในนิวเคลียสเช่นกันไม่ได้มีผลต่อการจำแนกธาตุ และธาตุนี้ยังมีอิเล็กตรอน 112 ตัวโคจรรอบๆ นิวเคลียส ซึ่งเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติทางเคมีของธาตุชนิดใหม่

****ธาตุตัวที่1-111 ยังจำไม่หมดเลย!!!

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เมื่อเริ่มพัฒนาคอมพิวเตอร์สมัยใหม่



ในปี 1830 เกือบ 200 ปีมาแล้วก่อนที่คอมพิวเตอร์สมัยใหม่รุ่นแรกปรากฏออกมา โดย Charles Babbage นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ เขาได้ออกแบบเครื่องจักรวิเคราะห์ (analytical engine) ที่ทำงานการคำนวณหลัก 4 อย่างของมนุษย์ โดยดำเนินการคำนวณทางเลขคณิต มีหน่วยความจำ เลือกลำดับการคำนวณ และมีความสามารถที่จะป้อนตัวเลขนำเข้าและผลตัวเลขนำออก และโดยอาศัยกำลังเครื่องจักรไอนำออกแบบให้เก็บความจำเทียบเท่า ตัวเลข 50 หลัก 1000จำนวน ซึ่งการทำงานดังกล่าวทำงานได้โดยการนำเข้าด้วยบัตรเจาะรู้ และผลลัพธ์สุดท้ายพิมพ์ออกมาโดยอัตโนมัติโดยกำหนดเป็นชนิด เมื่อเครื่องจักรต้องการค่าตัวเลขสำหรับการคำนวณต่อไป การทำงานเรียกตัวเลขดังกล่าวโดยการสั่นระฆัง การพัฒนาเครื่องจักรดังกล่าวนี้หยุดชงักลงอันเนื่องจากขาดเงินที่จะดำเนินการต่อ

การพัฒนาเครื่องจักรตามที่Babbageออกแบบนั้นยังไม่สำเร็จ แต่ ต่อมาภายหลังได้มีสร้างเครื่องจักรวิเคราะห์ตามที่Babbage ออกแบบไว้ทุกประการ การป้อนข้อมูลใช้กับบัตรเจาะรู


วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สาเหตุที่อินเตอร์เน็ตช้า

การ ใช้งานอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง จนกล่าวได้ว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเหมือนห้องสมุดโลก เป็นมันสมองของโลกที่ทุกคนสามารถเข้าถึง ค้นหาเรื่องที่ตัวเองสนใจต้องการได้ เนื้อหาที่นำเสนอผ่านทางอินเตอร์เน็ตมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับ การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์มีความเร็วสูงขึ้น โดยเฉพาะทางด้านมัลติมีเดีย อันมีภาพกราฟิกส์ และภาพเคลื่อนไหว รูปแบบต่างๆ กัน ซึ่งต้องอาศัยทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูงตามขึ้นไปด้วย เมื่อมีการใช้งานอินเตอร์เนตพร้อมกันจำนวนมากก็มีส่วนให้ความเร็วในการใช้ งานลดลงได้

การพิจารณาว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้อินเตอร์เน็ตช้า หรือพูดกันสั้นๆ ว่าเน็ตช้านั้นจะมาจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ซึ่งจากการสังเกตพบว่าตัวการสำคัญได้แก่การใช้งานในการดาวโหลดบิต (bit torrent)ที่ใช้อัลกอริธึมที่สามารถดาวโหลดบิตข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ก็ใช้แบนด์วิทอินเตอร์เนตมาก การฟังเพลงออนไลน์ คาราโอเกะออนไลน์ ดูภาพยนต์ออนไลน์ หรือเป็นพวกวิดีโอสตรีมมิ่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมส์ออนไลน์ก็ใช้แบนด์วิทมากมีส่วนทำให้ อินเตอร์เนตช้าได้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อมีการใช้งานอินเตอร์เนตพร้อมกัน และำไม่ได้ใช้งานเพื่อการศึกษา แต่เพื่อนันทนาการเป็นส่วนมากแล้วเน็ตช้าแน่นอน ขณะนี้มีหลายสถาบันกันศึกษาทั้งในประเทศแตะต่างประเทศเริ่มที่จะกันเว็บไซต์ ที่มีการโหลดบิต เล่นเกมส์ฟังเพลงออกไปในบางช่วงเวลา

เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการใช้งานในลักษณะที่กล่าวแล้วทำให้อินเตอร์ เน็ตช้าจริง ที่สามารถทดลองได้ง่ายๆ สำหรับผู้ที่ใช้งานอินเตอร์เนตความเร็วสูง ADSL ที่มีเร้า์์เตอร์มีพอร์ทแลนและไวร์เลสในตัว โดยการทดลองให้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งใช้งานตามปกติธรรมดาไม่มี เครื่องอื่นพ่วงอยู่้ด้วยจะใช้งานได้เร็วมาก แต่เมื่อพ่วงการใช้งานคอมพิวเตอร์อื่นด้วย เช่นเล่นเกมส์ออนไลน์ หรืออีกเครื่องหนึ่งโหลดบิต พร้อมๆกัน แล้วจะเห็นว่าเครื่องที่ใช้งานตามปกติจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ดาวโหลดข้อมูลธรรมดาก็ช้าลงไปหมด เมื่อเลิกการเล่นเกมส์ออนไลน์หรือเลิกโหลดบิตก็จะเห็นว่าเครื่องเร็วขึ้น เป็นปกติทันที

สำหรับเจ้าของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากภายนอก หรือผู้เป็นเจ้าของเร้าเตอร์ไวร์เลส สามารถที่จะตรวจสอบดูว่ามีไอพีใดที่เข้ามาใช้งาน สามารถที่จะปิดการใช้งานของไอพีที่ไม่ต้องการได้ ในกรณีที่ต้องการความมั่นใจถึงความเร็วที่เจ้าของต้องการใช้งาน ก็สามารถปิดไอพีประจำเครื่องที่เล่นเน็ต โหลดบิต หรือการฟังเพลงออนไลน์ได้ ถ้าหากผู้ใช้งานเหล่านั้นไม่ใช่บุคคลที่พึงประสงค์

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การตรวจหาไวรัส

การตรวจหาไวรัส

1. การสแกนโดยใช้โปรแกรมตรวจหาไวรัส (ตัวสแกนเนอร์) เช่น McAfee , Norton AntiVirus , Trend Micro ฯลฯ โดยมีการตรวจสอบรายชื่อไวรัสจากฐานข้อมูล ไวรัส มีข้อดีคือ เราสามารถตรวจสอบข้อมูลที่มาใหม่ได้ทันทีว่าติดไวรัสหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสถูกเรียกขึ้นมาทำงานตั้งแต่เริ่มแรก แต่มีจุดอ่อนคือ
a. ฐานข้อมูลที่เก็บรายชื่อไวรัส จะต้องทันสมัยอยู่เสมอ และครอบคลุมไวรัสทุกตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เนื่องจากโปรแกรมตรวจหาไวรัสจะไม่สามารถ ตรวจจับไวรัสที่ไม่มีในฐานข้อมูลได้
b. ยากที่จะตรวจจับไวรัสประเภทโพลีมอร์ฟิก เนื่องจากไวรัสประเภทนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้จึงทำให้ฐานข้อมูลไวรัสที่ใช้สามารถตรวจสอบได้ก่อนที่ไวรัสจะ เปลี่ยนแปลงตัวเองเท่านั้น
c. เนื่องจากไวรัสมีตัวใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ ๆ ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องหาสแกนเนอร์ ตัวที่ใหม่ที่สุดมาใช้
d. มีไวรัสบางตัวเข้าไปติดในโปรแกรมทันทีที่โปรแกรมนั้นถูกอ่าน และถ้าสมมติว่าสแกนเนอร์ที่ใช้ไม่สามารถตรวจจับได้ และถ้าเครื่องมีไวรัสนี้ติดอยู่ เมื่อมีการเรียกสแกนเนอร์ขึ้นมาทำงาน สแกนเนอร์จะเข้าไปอ่านโปรแกรมทีละโปรแกรม เพื่อตรวจสอบ ผลก็คือจะทำให้ไวรัสตัวนี้เข้าไปติดอยู่ในโปรแกรมทุกตัวที่ถูกสแกนเนอร์นั้นอ่านได้
e. สแกนเนอร์รายงานผิดพลาดได้ คือ ฐานข้อมูลไวรัสที่ใช้บังเอิญไปตรงกับที่มีอยู่ในโปรแกรมธรรมดาที่ไม่ได้ติดไวรัส ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ฐานข้อมูล ไวรัส ที่ใช้มีขนาดสั้นไปก็จะทำให้โปรแกรมดังกล่าวใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

คำแนะนำและการป้องกันไวรัส

1. สำรองไฟล์ข้อมูลที่สำคัญ
2. สำหรับเครื่องที่มีฮาร์ดดิสก์ อย่าเรียกดอสจากแผ่นดิสก์
3. ป้องกันการเขียนให้แผ่นดิสก์
4. อย่าเรียกโปรแกรมที่ติดมากับดิสก์อื่น
5. เสาะหาโปรแกรมตรวจหาไวรัสและมากกว่าหนึ่งโปรแกรมจากคนละบริษัท
6. เรียกใช้โปรแกรมตรวจหาไวรัสเป็นช่วง ๆ
7. สำรองข้อมูลที่สำคัญของฮาร์ดดิสก์ลงเก็บใน Resource อื่น เช่น แผ่นดิสก์ , CD ฯลฯ
8. เตรียมแผ่นดิสก์หรือแผ่น CD ที่ไว้สำหรับให้เรียกดอสขึ้นมาทำงานได้
9. เมื่อเครื่องติดไวรัส ให้พยายามหาที่มาของไวรัสนั้น

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน..แล้วนะ

บางคนแอบรักเขาซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้นปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่นแต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวันทุกวัน ทุกวันบางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่งอนการกุศลประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้าและอีกหลายคนนิยมกิจกรรม "ฆ่าเวลา" ชีวิตมันว่างจัดขนาดต้องฆ่าเวลากันเลยบอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาลเอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมีอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน..แล้วนะลองคิดแบบนี้บ้าง ใช่แล้ว....เราจะเกิดความเสียดายเพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตายแต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่าเอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้วทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีกตามความฝันของเราไปสุดโต่ง...ต้องรีบแล้วเดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไงรักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมีส่วนจะรักหรือไม่รักกูไม่สนว้อย...เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ) ตายแล้วใช้เวลา (ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรานุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะอย่างน้อย ๆเราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล.......คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงานในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้นแม่เลยต้องมาแจกการ์ดเองเมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วันซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีดและทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอกว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน ....แล้วนะอ้าว....รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีกรีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำเดี๋ยวตายซะก่อน....เสียดายแย่

ดนตรีช่วยฉลาด

นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน นำโดย นีนา ครอส นักประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ค้นพบหลักฐานที่หนักแน่นชิ้นแรกที่ยืนยันว่า ดนตรีช่วยให้สมองมีพัฒนาการล้ำหน้าและช่วยให้มีหูเฉียบคมสำหรับรับฟังเสียงทุกชนิด รวมถึงเสียงพูด
ผลการศึกษาได้มาจากการวัดคลื่นสมองของอาสาสมัครผู้ใหญ่ 20 คน ครึ่งหนึ่งเคยฝึกเล่นดนตรีก่อนอายุ 12 ปี นานอย่างน้อย 6 ปี ที่เหลือฝึกเล่นดนตรีน้อยกว่า 3 ปี ทุกคนพูดอังกฤษเป็นภาษาแม่และไม่รู้จักภาษาจีน โดยให้ทั้งหมดดูหนัง ระหว่างนั้นปล่อยเสียงคำภาษาจีนกลางซึ่งจะเปลี่ยนความหมายไปตามระดับความสูงต่ำของเสียง 3 ระดับ พบว่า ขณะกำลังตั้งใจดูหนัง กลุ่มนักดนตรีได้ยินคำภาษาจีนที่มี 3 ระดับ ได้ดีกว่าคนที่ไม่ใช่นักดนตรี
นีนา กล่าวว่า "ประสบการณ์ทางดนตรีส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหรือแยกแยะเสียงที่ต้องการรับฟังในห้องเรียนที่จ้อกแจ้ก ถือเป็นเรื่องผิดพลาด ถ้าโรงเรียนไหนงบน้อยแล้วเลือกยกเลิกการสอนดนตรี"

อันตรายจากการดื่มไวน์ ไม่ว่าคอเบียร์คอไวน์ล้วนแต่มีอันตราย ดื่มมากเสี่ยง มะเร็งกระเพาะ

นักวิทยาศาสตร์ของกองทุนวิจัยโรคมะเร็งโลก บอกเตือนว่า คอเบียร์ที่ดื่มวันละ ประมาณครึ่งลิตร จะทำให้ตนเองเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งกระเพาะสูงขึ้นถึง 1 ใน 5 พอๆกับการดื่มเหล้าไวน์วันละแก้วโต หรือดื่มเหล้าวอดก้า หรือยิน
ดร.ราเควล ธอมป์สัน แม่กองโครงการของกองทุน กล่าวว่า ส่วนพวกคอเหล้าที่ดื่มเหล้าวันละ เป็นเหล้าไวน์ 2 แก้ว หรือเหล้าธรรมดา 2 เป๊ก ก็ทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงขึ้นถึงร้อยละ 18 และเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับสูงขึ้นได้ถึง 1 ใน 5
“หากว่าเรารู้ได้ว่าปีหนึ่งๆ มันทำให้ มีคนป่วยเป็นมะเร็งเหล่านี้มากเท่าไร ก็จะนึกรู้ได้เองว่า การดื่มให้น้อยลง จะทำให้เกิดความแตกต่างลงไปได้มาก แต่ก็นั่นแหละแม้จะมีหลักฐานให้เห็นอย่างแข็งแรง คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าเหล้าทำให้ตนเข้าไปเสี่ยงใกล้กับมะเร็งได้มากเท่าใด มันจำเป็นที่เราจะต้องบอกเขาได้รู้ให้ซาบซึ้งมากขึ้น” นอกจากมะเร็งทั้งสองชนิดแล้ว กองทุน ยังแจ้งว่า มีหลักฐานที่เชื่อแน่ได้ว่า เหล้ายังทำให้เสี่ยงกับมะเร็งเต้านม มะเร็งปาก กล่องเสียง คอหอย และกระเพาะอาหารสูงขึ้นอีกด้วย.

กินอาหารให้ตรงกับกรุ๊ปเลือด

กรุ๊ป O
เจ้าของแนวคิดได้อธิบายที่มาของคนกรุ๊ปเลือด O ว่า เป็นกรุ๊ปเลือดที่เก่าแก่ที่สุดโดยมาจากมนุษย์กลุ่มแรกของโลก ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์และกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร จัดว่าเป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างแข็งแรง อาหารเด่น ๆ ของคนกลุ่มนี้คือ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เนื่องจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของคนกรุ๊ป O มีความเป็นกรดสูง จึงสามารถย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ง่าย สามารถกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้โดยไม่มีปัญหาเมื่อเทียบกับกรุ๊ปอื่น ๆ ดังนั้นอาหารที่ควรเลี่ยงคือ อาหารที่จะเข้าไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็น เช่น เครื่องดื่มประเภทเบียร์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง จากหนังสือของ Dr. Peter J. D'Adamo กล่าวว่า คนกรุ๊ปเลือดนี้มีลักษณะของความเป็นผู้นำสูง มุ่งมั่น จริงจัง เข้มแข็ง อดทนอดกลั้น และชอบวางแผน เป็นกรุ๊ปเลือดที่เหมาะกับการออกกำลังกายหนัก ๆ ได้เกือบทุกประเภท เพราะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างแข็งแรง เลือดไหลเวียนดี อัตราการเต้นของหัวใจสูง จึงควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 ครั้ง
กรุ๊ป A
เป็นกลุ่มที่พัฒนามาจากคนกรุ๊ปเลือด O คือเมื่อหมดยุคล่าสัตว์ก็เริ่มต้นตั้งถิ่นฐาน และรู้จักการเพาะปลูกพืช กินผักผลไม้เป็นอาหารหลักแทนเนื้อสัตว์ ลักษณะเด่นของคนกลุ่มนี้จะตรงกันข้ามกับคนกรุ๊ปเลือด O คือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ หากกินอาหารประเภทเนื้อโดยเฉพาะเนื้อแดงเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ย่อยยาก จึงไม่เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไส้กรอก แฮม กุนเชียง ฯลฯ เท่าใดนัก นม เนย ไข่ก็จัดเป็นอาหารที่กินได้เป็นครั้งคราว เพราะมีโปรตีนที่ย่อยยากเช่นกัน ซึ่งอาจเลี่ยงมาเป็นน้ำนมถั่วเหลืองแทน อาหารที่เหมาะกับคนกลุ่มนี้ที่สุดคือผักและผลไม้ ซึ่งควรจะกินให้มากกว่าอาหารประเภทอื่น เมล็ดธัญพืชเป็นแหล่งโปรตีนที่สามารถชดเชยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดีโดยเฉพาะถั่วเหลือง ถั่วลิสง เครื่องดื่มประเภทกาแฟมีสรรพคุณเพิ่มกรดในกระเพาะ ส่วนชาเขียวช่วยในการย่อยอาหารได้ คนกลุ่มนี้มักเป็นมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ชอบความสมบูรณ์แบบ บางครั้งชอบเรียกร้อง และครุ่นคิดกับเรื่องตัวเอง แต่ก็มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สูงและให้ความร่วมมือกับผู้อื่นดี เป็นกลุ่มที่เหมาะกับกินอาหารแบบมังสวิรัติที่สุด แต่มักเจ็บป่วยง่าย ดังนั้นจึงควรป้องกันเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ และดูแลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มาก ซึ่งการออกกำลังกายจะช่วยได้ แต่คนกรุ๊ปเลือดนี้ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายแบบหนัก ๆ เพราะธรรมชาติมักเป็นคนเหนื่อยง่าย จึงควรเลือกเล่นกีฬาเบา ๆ เช่น โยคะ รำมวยจีน กอล์ฟ เต้นรำ ยืดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
กรุ๊ป B
หลังจากที่มนุษย์ได้ตั้งถิ่นฐานและเพาะปลูกแล้ว ก็เริ่มเลี้ยงสัตว์เอง กินเนื้อและนมของสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ร่างกายได้มีวิวัฒนาการมากขึ้น จนเกิดเป็นกลุ่มเลือดกรุ๊ป B คนกลุ่มนี้จึงค่อนข้างจะกินอาหารได้หลากหลาย ทั้งผัก ผลไม้ นม เนย ไข่(ได้ไม่มากนัก) และเนื้อสัตว์ ซึ่งจะมีก็แต่เนื้อไก่เท่านั้นที่เลกตินไม่เข้ากับกรุ๊ปเลือดกรุ๊ปเลือดนี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้นกันบกพร่องและไวรัส อาหารที่ควรได้รับเป็นพิเศษ ได้แก่ ผักใบเขียว ข้าวซ้อมมือ เนื่องจากมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันโรคผื่นคัน อาหารที่มีแคลเซียมสูง เครื่องดื่มสมุนไพรอย่างชาเขียวจัดว่าส่งผลดีต่อเลือดกรุ๊ปนี้อย่างมาก การออกกำลังกายจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น หากเน้นเรื่องทำสมาธิและผ่อนคลายจิตใจควบคู่ไปด้วยจะดีมากคนกรุ๊ปเลือด B มักมีนิสัยรักอิสระไม่ขึ้นอยู่กับใคร มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นนักวางแผน เชื่อมั่นและเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ยืดหยุ่น ประนีประนอม ไม่แข็งกร้าว ซึ่งก็จะเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ดี
กรุ๊ป AB
เป็นกลุ่มที่มีวิวัฒนาการซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดหลังสุด ค้นพบเมื่อประมาณ 1,000 - 1,500 ปีมานี้เอง มีลักษณะคล้ายกรุ๊ป A และกรุ๊ป B รวมกัน ดังนั้นอาหารที่ดีต่อคนกรุ๊ปเลือด A และ B ก็จะดีต่อกรุ๊ป AB ด้วย แต่ก็มีอาหารหลายอย่างที่ควรเลี่ยง เช่น เนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก อาหารประเภทไส้กรอก แฮม กุนเชียง เพราะกระเพาะอาหารของคนกรุ๊ปเลือดนี้ไม่สามารถผลิตน้ำย่อยโปรตีนได้ดีเท่ากรุ๊ป O โปรตีนที่เหมาะสมควรมาจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา นมและผลิตภัณฑ์จากนม อาหารทะเล สาหร่าย เต้าหู้ ไข่ แต่ต้องไม่กินในปริมาณมากนัก ถั่วที่มีคุณต่อกรุ๊ปเลือดนี้คือ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง สามารถกินทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ กรุ๊ปนี้มีระบบภูมิคุ้มกันค่อนข้างอ่อนแอ จึงควรกินผักและผลไม้สดมาก ๆ ชาเขียว ไวน์แดง เป็นเครื่องดื่มที่ให้ผลดีต่อคนกลุ่มนี้ คนกรุ๊ปเลือด AB มักเป็นกลุ่มที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย แต่ก็น่าไว้วางใจ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ดี เป็นกรุ๊ปที่ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายแบบใช้แรงมากเช่นเดียวกับกรุ๊ปเลือด A แต่ก็ควรสลับกับการออกกำลังกายที่ใช้แรงบ้าง เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายนอกจากนี้ การทดลองของ Dr. Peter J. D'Adamo ยังพบว่า เลกตินของเนื้อหมู มะพร้าว แป้งขัดขาว ไม่เข้ากับกรุ๊ปเลือดใด ๆ เลย

แต่ที่สำคัญ หากจะรับไปปฏิบัติคงต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดเสียก่อน เพื่อให้ทางที่เลือกนี้เป็นทางที่ถูกและปลอดภัยสำหรับตัวคุณเอง

มารู้จักแอนิเมชั่น(Animation)

ความหมายแอนิเมชัน (Animation)
แอนิเมชัน (Animation) หมายถึง กระบวนการที่เฟรมแต่ละเฟรมของภาพยนตร์ ถูกผลิตขึ้นต่างหากจาก กันทีละเฟรม แล้วนำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน โดยการฉายต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจากวิธีการ ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก ถ่ายภาพรูปวาด หรือ หรือรูปถ่ายแต่ละขณะของหุ่นจำลองที่ค่อย ๆ ขยับเมื่อนำภาพดังกล่าวมาฉาย ด้วยความเร็ว ตั้งแต่ 16 เฟรมต่อวินาที ขึ้นไป เราจะเห็นเหมือนว่าภาพดังกล่าวเคลื่อนไหวได้ต่อเนื่องกัน ทั้งนี้เนื่องจาก การเห็นภาพติดตาในทาง คอมพิวเตอร์ การจัดเก็บภาพแบบอนิเมชันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอินเทอร์เน็ต ได้แก่ เก็บในรูปแบบ GIF MNG SVG และ แฟลช
คำว่า แอนิเมชั่น (animation) รวมทั้งคำว่า animate และ animator มากจากรากศัพท์ละติน "animare" ซึ่งมีความมหมายว่าทำให้มีชีวิต ภาพยนตร์แอนิเมชั่นจึงหมายถึงการสร้างสรรค์ลายเส้นและรูปทรงที่ไม่มีชีวิต ให้เคลื่อนไหวเกิดมีชีวิตขึ้นมาได้ หลักการและคุณสมบติของแอนิเมชั่นมีดังนี้
1. สามารถใช้จินตนาการได้อย่างไม่มีขอบเขต
2. สามารถอธิบายเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยากให้ง่ายขึ้น
3. ใช้อธิบายหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้
4. ใช้อธิบายหรือเน้นส่วนสำคัญให้ชัดเจนและกระจ่างขึ้นได้

แอนิเมชั่นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดคือ
1. Drawn Animation คือแอนิเมชั่นที่เกิดจากการวาดภาพหลายๆพันภาพ แต่การฉายภาพเหล่านั้นผ่านกล้องอาจใช้เวลาไม่กี่นาทีข้อดีของการทำแอนิเมชั่นชนิดนี้คือ มีความเป็นศิลปะ สวยงาม น่าดูชม แต่ข้อเสีย คือ ต้องใช้เวลาในการผลิตมาก ต้องใช้แอนิเมเตอร์จำนวนมากและต้นทุนก็สูงตามไปด้วย
2. Stop Motion หรือเรียกว่า Model Animation เป็นการถ่ายภาพแต่ละขณะของหุ่นจำลองที่ค่อยๆขยับ อาจจะเป็นของเล่นหรืออาจจะสร้างตัวละครจาก Plasticine วัสดุที่คล้ายกับดินน้ำมันโดยโมเดลที่สร้างขึ้นมาสามารถใช้ได้อีกหลายครั้งและยังสามารถผลิตได้หลายตัว ทำให้สามารถถ่ายทำได้หลายฉากในเวลาเดียวกัน แต่การทำ Stop Motmotion นั้นต้องอาศัยเวลาและความทุ่มเทมาก เช่น การผลิตภาพยนตร์เรื่อง James and the Giant Peach สามารถผลิตได้ 10 วินาที ต่อวันเท่านั้น วิธีนี้เป็นงานที่ต้องอาศัยความอดทนมาก
3. Computer Animation ปัจจุบันมีซอฟท์แวร์ที่สามารถช่วยให้การทำแอนิเมชั่นง่ายขึ้น เช่น โปรแกรม Maya, Macromediaและ 3D Studio Max เป็นต้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ประหยัดเวลาการผลิตและประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก เช่น ภาพยนตร์เรื่องToy Story ใช้แอนิเมเตอร์เพียง 110 คนเท่านั้น

การสร้างเขื่อนในประเทศจีนและผลกระทบต่อประเทศไทย

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
15 ก.ย. 2549

เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เขียนบทความเรื่อง “พลังงานนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านและความมั่นคงของประเทศ” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการสัมมนาของมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2549 โดยเน้นปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลไทยควรนำมาพิจารณาประกอบการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนและการรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศพม่า

เรื่องที่ไม่ได้พูดถึงในงานสัมมนาในวันนั้นก็คือผลกระทบที่อาจมีต่อประเทศไทยจากการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำจำนวนมากบนแม่น้ำโขงในประเทศจีน ซึ่งหากในที่สุดประเทศไทยรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศจีนจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างทั้งสองประเทศแล้วก็หมายความว่าจะต้องมีการสร้างเขื่อนอีก 1-2 แห่งบนแม่น้ำโขงเพื่อป้อนไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทย ผลกระทบของการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงในประเทศจีนนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้มีการนำมาพิจารณากันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในระดับนโยบาย เท่าที่จำได้อาจมีการพูดคุยกันบ้างเมื่อหลายปีมาแล้วในช่วงก่อนที่จีนจะสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงซึ่งพอสรุปคร่าวๆคือการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงไม่น่ามีผลกระทบมากนักต่อประเทศไทยเพราะจีนก็จะปล่อยให้น้ำที่ผ่านกังหันผลิตไฟฟ้าให้ไหลลงตามลำน้ำโขงต่อไป อีกทั้งเขื่อนจะช่วยควบคุมการไหลของน้ำทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2549 สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้จัดการประชุมโต๊ะกลม “การติดตามสถานการณ์ในลุ่มแม่น้ำโขงและผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย” เพื่อติดตามความก้าวหน้าของสถานการณ์ และระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของการจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขงที่อาจมีต่อประเทศไทย โดยมีประเด็นย่อย 3 ประเด็น ได้แก่ การสร้างเขื่อน การระเบิดแก่งแม่น้ำโขง และการผันน้ำ ผมคิดว่าคงไม่ผิดที่จะสรุปว่าผู้เข้าร่วมประชุมค่อนข้างมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบของการสร้างเขื่อนบนลำน้ำโขงในประเทศจีน รวมทั้งการระเบิดแก่งแม่น้ำโขงเพื่อให้การคมนาคมขนส่งมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งผลกระทบนี้มีต่อประเทศไทยมากกว่าประเทศอื่นๆที่อยู่ทางด้านใต้เขื่อน และเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยควรเร่งเจรจาทำความเข้าใจกับรัฐบาลจีนโดยเร็ว


รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์ เขื่อนจิงหงนี้ก็คือเขื่อนที่ตั้งอยู่ที่เมื่องจิงหง หรือเชียงรุ่ง ในแคว้นสิบสองปันนา ซึ่งเดิมรัฐบาลจีนจะสร้างขึ้นเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยเพราะมีระยะทางห่างจากชายแดนไทยเพียง 280 กิโลเมตร แต่เนื่องจากนโยบายของไทยขาดความชัดเจน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจเดินหน้าในการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองในประเทศจีน และหากต่อไปประเทศไทยยังมีความต้องการจะซื้อไฟฟ้าจากจีนจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ตามข้อตกลง รัฐบาลจีนก็จะพัฒนาเขื่อนอื่นเพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้ไทยต่อไป


ในการประชุมโต๊ะกลมนี้ ผมได้รับหนังสือเรื่อง “คำให้การของคนท้ายน้ำ” จัดทำโดยเครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นหนังสือที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับผลกระทบข้ามพรมแดนจากการพัฒนาแม่น้ำโขงตอนบน ผมจึงขอนำข้อมูลจากหนังสือดังกล่าวมาเล่าให้ฟัง


แม้ว่าในฤดูฝน น้ำจากแม่น้ำโขงตอนบนจะมีอิทธิพลต่อน้ำในแม่น้ำโขงตอนล่างน้อยเพราะน้ำจากแม่น้ำโขงตอนล่างมาจากแม่น้ำสาขา แต่ในฤดูแล้งน้ำจากแม่น้ำโขงตอนบนกลับมีอิทธิพลต่อน้ำในแม่น้ำโขงตอนล่างมาก ปริมาณกระแสน้ำทั้งปีในแม่น้ำโขงช่วงก่อนจะไหลลงทะเลที่ประเทศเวียตนามเป็นน้ำที่มาจากเขตประเทศจีนประมาณ 15-20% ในขณะที่ปริมาณน้ำที่มาจากในเขตประเทศจีนมีสัดส่วนกว่า 60% ของกระแสน้ำของแม่น้ำโขงส่วนที่ไหลผ่านประเทศไทยและลาวในช่วงหน้าแล้ง


รายงาน “การศึกษาปริมาณการไหลของน้ำในแม่น้ำโขง” โดยส่วนวิจัยและพัฒนาอุทกวิทยา สำนักวิจัยพัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ เมื่อเดือนเมษายน 2547 ระบุว่าหลังจากที่ประเทศจีนได้เริ่มการก่อสร้างเขื่อนม่านวานในปี 2535 และต้าเฉาชานในระยะต่อมา ปริมาณการไหลของน้ำต่ำสุดหลังปี 2535 ณ สถานีเชียงแสนลดลง 25% ขณะที่โอกาสการเกิดปริมาณน้ำนองสูงสุดในรอบปีต่างๆมีค่าลดลงด้วย การศึกษาดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่าการสร้างเขื่อนม่านวานกั้นแม่น้ำโขงในจีนทำให้ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำไหลต่ำสุด (minimum discharge) ของแม่น้ำโขงที่เชียงแสนลดลงจากค่าปรกติ โดยในช่วง 30 ปีก่อนการกักเก็บน้ำของเขื่อนม่านวาน ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำไหลต่ำสุดเท่ากับ 752 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หลังการสร้างเขื่อนปริมาณน้ำไหลต่ำสุดได้ลดลงเหลือ 569 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


หนังสือ “คำให้การของคนท้ายน้ำ” ยังระบุต่อไปว่า การระเบิดแก่งแม่น้ำโขงที่ดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2544 ได้ทำให้เกิดความผันผวนของระดับน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดขึ้นรุนแรงที่สุดในเดือนมกราคมถึงเมษายน 2547 เมื่อจีนทำการปรับปรุงร่องน้ำในแม่น้ำโขงโดยการสร้างคันกั้นน้ำที่แก่งไคร้บริเวณพรมแดนพม่า-ลาว ใต้ท่าเรือกวนเหลยของจีนลงมาตามลำน้ำ 68 กิโลเมตร การทำคันกั้นน้ำนี้ทำให้มีการลดระดับน้ำและอนุญาตให้เดินเรือได้เพียง 5 ชั่วโมงในรอบ 4 วันเท่านั้น


ความไม่แน่นอนของกระแสน้ำในแม่น้ำโขงได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการสร้างเขื่อนเสี่ยววานและเขื่อนจิงหง ซึ่งเขื่อนเสี่ยววานเมื่อมีการสร้างเสร็จจะมีความสูงถึง 292 เมตร (เทียบกับความสูงในระดับ 110-140 เมตรสำหรับเขื่อนอีกสามแห่งที่สร้างแล้วหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง) นอกจากนั้นการทำข้อตกลงระหว่างจีน พม่า ลาว และไทยในการควบคุมน้ำเพื่อให้สามารถเดินเรือขนาดใหญ่ในฤดูแล้งได้ จะทำให้วัฎจักรการขึ้นลงของน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนไป


ระดับน้ำที่ขึ้นๆลงๆตามอิทธิพลของการใช้งานเขื่อนและการระเบิดแก่งแม่น้ำโขง โดยเฉพาะในช่วงกลางฤดูแล้งราวเดือนมกราคมถึงเมษายน ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของแม่น้ำโขงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันมีผลกระทบโดยตรงต่อพันธ์ปลา พรรณพืช และวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขงด้วยเช่นกัน



ผลกระทบของการสร้างเขื่อนในประเทศจีนเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนแล้ว และนี่เป็นเพียงผลจากการสร้างเขื่อนเตี้ยๆเพียงสองแห่ง ยังจะมีเขื่อนที่ทยอยตามมาอีกเกือบ 20 แห่ง โดยเฉพาะความต้องการไฟฟ้าและน้ำในประเทศจีนคาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อไป การรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศจีนอาจมีส่วนในการเพิ่มปัญหาและผลกระทบต่อประเทศไทย ผมคิดว่าประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และดำเนินการเจรจากับรัฐบาลจีนอย่างเป็นระบบเสียทีโดยอาศัยทุกช่องทางที่มีอยู่ อย่าไปหวังพึ่งประเทศอื่นๆในลุ่มแม่น้ำโขงมากนักในการผนึกกำลังเพื่อเจรจากับจีน เพราะประเทศเหล่านั้นได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศไทย

กำเนิดปิโตเลียม

กำเนิดปิโตรเลียม
นักโบราณคดีเชื่อว่าประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล พวกชนเผ่าบาบิโลเนียน (Babylonian) เริ่มใช้น้ำมัน (ปิโตรเลียม) เป็นเชื้อเพลิงแทนไม้และเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนเป็นชาติแรกที่ทำเหมืองถ่านหินและขุดเจาะบ่อก๊าซธรรมชาติลึกเป็นร้อยเมตรได้ก่อนใคร
น้ำมันประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆ หลายชนิดมากมายจนมีคำพูดว่าไม่มีน้ำมันจากบ่อไหนเลยในโลกที่มีการผสมผสานส่วนประกอบได้คล้ายกัน แต่จะเห็นว่าส่วนประกอบกว้าง ๆ คล้ายกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับก๊าซธรรมชาติที่ประกอบด้วยก๊าซที่สำคัญคือ มีเทน (Methane) เป็นหลักที่เหลือซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าได้แก่ อีเทน (Ethane) โปรเพน (Propane) และบิวเทน (Buthane) ปิโตรเลียมจัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติที่ได้จากการสลายตัวของสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์รวมกัน

สถานีบริการน้ำมันต่าง ๆ ที่พบเห็นในปัจจุบันนี้ มีกำเนิดมาไม่ต่ำกว่า 90 ปี แล้ว โดยมีกำเนิดหลังจากที่ได้มีผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกขึ้นมา เมื่อประมาณปี 2443 โดยมีผู้ตั้งร้านค้าขายน้ำมันเพื่อเปิดบริการสำหรับเจ้าของรถ โดยกรรมวิธีแบบง่าย ๆ คือ เวลาเจ้าของรถจะมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงก็เทน้ำมันจากถังที่เก็บ ซึ่งมีขนาดเล็กไปสู่ถังน้ำมันของรถ และมีการพัฒนากรรมวิธีจำหน่ายน้ำมันตามเทคโนโลยีดังที่เราพบเห็นในปัจจุบัน ในบทนี่ผู้เขียนจะกล่าวถึงความเป็นมาของบริษัทผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะรายใหญ่ ๆ ได้แก่ บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด และบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด และลักษณะของการแข่งขัน ความต้องการ และการจัดหาของตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง และช่องทางการจัดจำหน่ายของน้ำมันเชื้อเพลิง
ความเป็นมาของบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ก่อนปี พ.ศ. 2435 น้ำมันที่จำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นน้ำมันก๊าดที่มาจากรัสเซียเพียงแห่งเดียวจนกระทั่งปี 2435 ก็เริ่มมีการสั่งน้ำมันก๊าดจากเกาะสุมาตรามาจำหน่ายควบคู่ไปกับน้ำมันก๊าดจากรัสเซีย น้ำมันก๊าดจากรัสเซียนี้มีชื้อว่า “น้ำมันก๊าดตรามงกุฎ”

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พิกเซลคืออะไร


พิกเซล (pixel) (โดยที่ pix เป็นคำที่ใ่ช้กับองค์ประกอบของภาพ) คือองค์ประกอบที่เล็กย่อยที่สุดบนจอแสดงภาพวิดีโอ จอภาพหนึ่งๆ จะมีจำนวนนับพันๆ พิกเซล แต่ละพิกเซลมีจุดหนึ่งจุดหรือมากกว่าหรือเป็นกลุ่มของจุด ในจอภาพสีเดียว(monochrome) พิเซลหนึ่งคือจุดหนึ่ง ภาพสองสีและพื้นหลังแสดงออกมาก็โดยการปิดเปิดสวิตช์พิกเซลที่เกี่ยวข้องเป็นเปิดหรือปิด สำหรับจอภาพสีมี 3 จุดสีรวมอยู่ในแต่ละพิกเซล คือจุดสีแดง สีเขียว และสีฟ้า จอภาพที่ธรรมดาที่สุดมีเพียงจุดเดียวของแต่ละสี แต่สำหรับจอภาพรุ่นใหม่มีพิกเซลที่เป็นกลุ่มของแต่ละสี ในจอภาพสี สีดำเกิดจาก การปิดสวิตช์ของทุกสี สีขาวเกิดจากการเปิดสวิตช์ทุกสี และในช่วงสีเทาจากการผสมของทั้งสามสีที่มีความเข้มแสงเท่ากัน

จอแสดงผลที่ประหยัดที่สุดเป็นจอสีเดียวหรือโมโนโครม โดยใช้ 1 บิตต่อพิกเซล มีขีดจำกัดที่มีเพียงการเปิดและปิด จอภาพที่มีความละเอียดสูงสามารถที่จะมีจำนวนพิกเซลนับล้านพิกเซล (โดยแต่ละจุดสีใช้ความจำ 4 ไบต์) ที่จำเป็นต้องสำรองหน่วยความจำหลายล้านเมกกะไบต์เพียงเพื่อใช้แสดงรูปภาพหนึ่ง

เรื่องของฝูงห่าน

คุณเคยสังเกตเห็นไหมว่า ในฤดูใบไม้ร่วงฝูงห่านมักบินมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ในลักษณะที่เป็นตัวอักษรวี (V)
จากการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าเหตุใดฝูงห่านจึงต้องบินเช่นนั้น
--------------------------------------------------
ในขณะที่ห่านตัวหนึ่งกระพือปีก ห่านที่บินตามมาจะได้รับแรงยกเพิ่มขึ้น
ดังนั้น การที่ฝูงห่านบินเป็นตัวอักษรวี (V) นั้น จะทำให้ประสิทธิภาพการบินเพิ่มขึ้น 76% กว่าการบินเดี่ยวเพียงตัวเดียว
………………
คนที่เป็นส่วน 1 ของทีมซึ่งไปในทิศทางเดียวกัน สามารถไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่าและง่ายกว่า
เพราะว่าคนเหล่านั้นมุ่งหน้าไปโดยอาศัยความไว้วางใจในเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ
--------------------------------------------------
หากห่านตัวใดตัว 1 เกิดบินหลุดจากฝูง มันจะรู้สึกได้ทันทีถึงแรงต้านทานที่เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น มันจะรีบบินกลับเข้าฝูงอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้ประโยชน์ในการบินเป็นฝูง
………………..
ถ้าเรามีไหวพริบเหมือนห่าน เราจะมีการแบ่งปันข้อมูลกับบุคคลอื่นที่มุ่งหน้าไปยังที่ที่เดียวกับเรา
--------------------------------------------------
เมื่อห่านที่บินอยู่ข้างหน้ารู้สึกเหนื่อย มันจะบินไปอยู่ข้างหลัง และให้ห่านตัวอื่นบินข้างหน้าแทน
………………..
เราต้องมีการแบ่งปันภาวะผู้นำ และผลัดเปลี่ยนกันในการทำงานหนัก
--------------------------------------------------
ฝูงห่านที่บินอยู่ข้างหลังจะส่งเสียงร้องเพื่อให้กำลังใจห่านที่บินอยู่ข้างหน้าให้รักษาระดับความเร็วต่อไป
………………
คำพูดชมเชยและกำลังใจ จะทำให้คนที่อยู่ในแนวหน้ายังคงมุ่งหน้าต่อไปได้
ท่ามกลางความกดดันและความอ่อนล้าที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน
--------------------------------------------------
ท้ายที่สุด หากว่าห่านตัวใดตัว 1 ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถบินร่วมฝูงได้
ห่านอีก 2 ตัวจะบินตามลงมาเพื่อช่วยเหลือและปกป้องห่านตัวที่บาดเจ็บจนกระทั่งห่านตัวนั้นหายดีหรือว่าตายไปแล้ว
ห่านทั้ง 2 ตัวนั้นจะเข้ากลุ่มกับฝูงห่าน เพื่อจะตามหาฝูงห่านเดิมให้ได้ทัน
………………
หากเรามีสัญชาตญาณเหมือนห่าน เราจะยืนอยู่เคียงข้างคนอื่นๆ ในช่วงเวลาที่ยุ่งยาก
--------------------------------------------------
อยากให้พวกเรา Esi เป็นเหมือนห่านฝูงนี้จังเนอะ

ข้อคิดจากกบน้อย
















วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเีขียน Mind Mapping

Mind Map คือ อะไร

Mind Map หรือ แผนที่ความคิด เป็นวิธีการบันทึกความคิดเพื่อให้เห็นภาพของความคิดที่หลากหลายมุมมอง ที่กว้าง และที่ชัดเจน โดยยังไม่จัดระบบระเบียบความคิดใดๆทั้งสิ้น เป็นการเขียนตามความคิด ที่เกิดขึ้นขณะนั้น การเขียนมีลักษณะเหมือนต้นไม้แตกกิ่งก้าน สาขาออกไปเรื่อยๆ ทำให้สมองได้คิดได้ทำงานตามธรรมชาติอย่างและมีการจินตนาการกว้างไกล

แผนที่ความคิด ยังเป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการบันทึกความคิดของการอภิปรายกลุ่ม หรือการระดมความคิด ดยให้สมาชิกทุกคนเสนอความคิดเห็น และวิทยากรจะทำการ จดบันทึกด้วยคำสั้นๆ คำ โตๆ ให้ทุกคนมองเห็น พร้อมทั้งโยงเข้าหากิ่งก้านที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อรวบรวมความคิดที่หลากหลายของทุกคน ไว้ในแผ่นกระดาษแผ่นเดียว ทำให้ทุกคนได้เห็นภาพความคิดของผู้อื่นได้ชัดเจน และเกิดความคิดใหม่ต่อไปได้

ความเป็นมาของ Mind Map

แผนที่ความคิด เป็นการนำเอาทฤษฎีที่เกี่ยวกับสมองไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างสูงสุด นาย ธัญญา ผลอนันต์ เป็นผู้นำความคิดและวิธีการเขียนแผนที่ความคิดเข้ามาใช้ และเผยแพร่ในประเทศไทย ผู้คิดริเริ่มคือโทนี บูซาน (Tony Buzan) เป็นชาวอังกฤษเป็นผู้นำเอาความรู้เรื่องสมองมาปรับใช้เพื่อการเรียนรู้ของเขา โดยพัฒนาการจากการจดบันทึกแบบเดิมที่ เป็นตัวอักษร เป็นบรรทัด ๆ เป็นแถว ๆ ใช้ปากกาหรือดินสอในการจดบันทึก เปลี่ยนมาเป็นบันทึกด้วยคำ ภาพ สัญลักษณ์ แบบแผ่รัศมี ออกรอบ ๆ ศูนย์กลางเหมือนการแตกแขนงของ กิ่งไม้ โดยใช้สีสัน การเขียนแผนที่ความคิดของโทนี บูซาน เป็นการบันทึกในทุกๆเรื่อง ทั้ง ชีวิต จริงส่วนตัวและการงาน เช่น การวางแผน การตัดสินใจ การช่วยจำ การแก้ปัญหา การ นำเสนอ และการเขียนหนังสือ เป็นต้น การบันทึกแบบนี้เป็นการใช้ทักษะการทำงานร่วมกัน ของสมองทั้งสองซีก คือ ซีกซ้าย วิเคราะห์ คำ ภาษา สัญลักษณ์ ระบบ ลำดับ ความเป็นเหตุ เป็นผล ส่วนสมองซีกขวา จะทำหน้าที่สังเคราะห์คิด สร้างสรรค์ จินตนาการ ความงาม ศิลปะ จังหวะ โดยมีแถบเส้นประสาทคอร์ปัสคอโลซั่มเป็นเสมือนสะพานเชื่อม


หลักการเขียน Mind Map

การเขียน Mind Map ใช้กระดาษแผ่นเดียว การเขียนใช้สีสันหลากหลาย ใช้โครงสร้างตามธรรมชาติที่แผ่กระจายออกมาจุดศูนย์กลาง ใช้เส้นโยง มีเครื่องหมาย สัญลักษณ์ และรูปภาพที่ผสมผสานร่วมกันอย่างเรียบง่าย สอดคล้องกับการทำงานตามธรรมชาติของสมอง

วิธีการเขียน Mind Map

1. เตรียมกระดาษเปล่าที่ไม่มีเส้นบรรทัดและวางกระดาษภาพแนวนอน

2. วาดภาพสีหรือเขียนคำหรือข้อความที่สื่อหรือแสดงถึงเรื่องจะทำ Mind Map กลางหน้ากระดาษ โดยใช้สีอย่างน้อย 3 สี และต้องไม่ตีกรอบด้วยรูปทรงเรขาคณิต

3. คิดถึงหัวเรื่องสำคัญที่เป็นส่วนประกอบของเรื่องที่ทำ Mind Map โดยให้เขียนเป็นคำ ที่มีลักษณะเป็นหน่วย หรือเป็นคำสำคัญ (Key Word) สั้น ๆ ที่มีความหมาย บนเส้น ซึ่งเส้นแต่ละเส้นจะต้องแตกออกมาจากศูนย์กลางไม่ควรเกิน 8 กิ่ง

4. แตกความคิดของหัวเรื่องสำคัญแต่ละเรื่องในข้อ 3 ออกเป็นกิ่ง ๆ หลายกิ่ง โดยเขียนคำหรือวลีบนเส้นที่แตกออกไป ลักษณะของกิ่งควรเอนไม่เกิน 60 องศา

5. แตกความคิดรองลงไปที่เป็นส่วนประกอบของแต่ละกิ่ง ในข้อ 4 โดยเขียนคำหรือวลีเส้นที่แตกออกไป ซึ่งสามารถแตกความคิดออกไปเรื่อยๆ

6. การเขียนคำ ควรเขียนด้วยคำที่เป็นคำสำคัญ (Key Word) หรือคำหลัก หรือเป็นวลีที่มี

ความหมายชัดเจน

7. คำ วลี สัญลักษณ์ หรือรูปภาพใดที่ต้องการเน้น อาจใช้วิธีการทำให้เด่น เช่น การล้อม

กรอบ หรือใส่กล่อง เป็นต้น

8. ตกแต่ง Mind Map ที่เขียนด้วยความสนุกสนานทั้งภาพและแนวคิดที่เชื่อมโยงต่อกัน

ข้อดีของการทำแผนที่ความคิด

1. ทำให้เห็นภาพรวมกว้าง ๆ ของหัวข้อใหญ่ หรือขอบเขตของเรื่อง

2.ทำให้สามารถวางแผนเส้นทางหรือตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพราะรู้ว่าตรงไหนกำลังจะไปไหนหรือผ่านอะไรบ้าง

3. สามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากลงไว้ในกระดาษแผ่นเดียวกัน

4. กระตุ้นให้คิดแก้ไขปัญหา โดยเปิดโอกาสให้มองเห็นวิธีใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์

5. สร้างความเพลิดเพลินในการอ่านและง่ายต่อการจดจำ

สรุป Mind Map เป็นแผนที่ความคิดที่อัจฉริยะ เปรียบเสมือนลายแทงที่นำไปสู่ การจดจำ การเรียบเรียง การจัดระเบียบข้อมูลตามธรรมชาติ การทำงานของสมองตั้งแต่ต้น นั่นหมายความว่า การจำและฟื้นความจำ หรือการเรียกข้อมูลเหล่านั้นกลับมาใช้ในภายหลังจะทำได้ง่าย และมีความถูกต้องแม่นยำกว่าการใช้เทคนิคการจดบันทึกแบบเดิม

credit: http://www.kroobannok.com/blog/view.php?article_id=2488

ประหยัดไฟฟ้ากับระบบอินเวิร์ทเตอร์

การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากก็คือ อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า ถือว่าเป็นองค์ประกอบการมีประสิทธิภาพที่สำคัญ คือให้พลังงานน้อยกว่าแต่ให้ผลเท่าเดิมหรือมากกว่าหรือกล่าวได้ว่าจ่ายเงิน น้อยกว่าแล้วยังได้งานมากกว่าเดิม และได้งานมากกว่าเดิม เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ใช้มอเตอร์เป็นกำลังงานหลายชนิดเช่นเครื่องปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำเป็นต้น จะมีระบบใหม่ที่ทำให้ประหยัดไฟฟ้ามากกว่าเดิมขึ้นไปอีกมากกว่า 30 เปอร์เซนต์ ซึ่งที่มีตัวบ่งบอกว่าใช้ระบบอินเวิรสเตอร์ (inverter) สำหรับหลักการทำงานของระบบใหม่ที่กำลังเข้ามาแทนที่ระบบเก่า

จะยกตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นเครื่องปรับอากาศที่ทั่วโลกกำลัง เปลี่ยนมาสู่ระบบนี้ เพื่อให้เห็นการทำงานที่แตกต่าง ก็จะอธิบายระบบเครื่องปรับอากาศเก่าพอสังเขปกล่าวคือ เมื่อตั้งอุณภูมิที่ต้องการไว้ เช่นที่ 25 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิห้อง 30 องศานั้น เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานให้ความเย็นแก่ห้อง จนอุณหภูมิเท่าหรือต่่ำกว่า 25 เล็กน้อย ตัวตรวจเช็คที่เครื่องปรับอากาศจะตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ อุณหภูมิห้องก็ค่อยๆ สูงขึ้นไปอีกจนมากกว่า 25 องศาเซลเซียสเล็กน้อย คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานให้ความเย็นอีก การทำงานจะทำหน้าที่เป็นสวิตช์ตัดต่อไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนวาถ้าคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่ตลอดเวลาจะสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า มากกว่า หลักการทำงานคล้ายๆ กับตู้เย็นที่เมื่อเย็นจัดคอมเพรสเซอร์ตู้เย็นก็หยุดทำงาน

ส่วนในเครื่องปรับอากาศที่ให้อินเวิรทเตอร์นั้น เมื่อเครื่องทำงานให้ความเย็นเท่ากับหรือน้อยกว่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้แล้ว การทำงานในระบบนี้จะไม่ตัดไฟแต่จะยังให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทำงานต่อไป แต่ลดระดับการทำงานลง เหมือนกับการเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ให้เกียร์สูงขึ้นแต่ ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งทำให้รักษาความเย็นได้สม่ำเสมอกว่า และสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า เพราะในระบบเก่าการตัดกระแสไฟฟ้าที่ให้มอเตอร์ทันที จากนั้นให้เริ่มทำงานใหม่นั้นต้องใช้พลังงานมากในตอนเริ่มต้นใหม่ ทำให้ความเย็นอาจไม่สม่ำเสมอและมีเสียงดังมากกว่า และสิ้นเปลืองมากกว่า ในเครื่องที่ใช้ระบบอินเวิร์ทเตอร์ตามชื่อก็บอกว่ากลับการทำงานมาใช้มอเตอร์ แบบกระแสตรงที่ทำให้ปรับควบคุมความเร็วมอเตอร์หรือที่ความถี่ต่ำได้ดีกว่า ย่ิงการนำแม่เหล็กแบบนีโอไดเมี่ยม ทำให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องปรับอากาศดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด การใช้ระบบอินเวิร์ทเตอร์แม้ราคาแพงขึ้นเล็กน้อยแต่ให้ผลคุ้มค่ากว่าในการะ ประหยัดไฟฟ้าแน่นอน

อาลัย ไมเคิล แจคสัน

หลังจากที่ไมเคิล แจคสันเสียชีวิตไปก็หลายวัน ซึ่งก็มีข่าวสืบสาวราวเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของไมเคิล แจคสัน ตลอดจนอัตตะชีวประวัติในรายละเอียดที่ไม่เคยทราบมาก่อน ก็ได้เปิดเผยออกมาหลายเรื่องต้องบอกว่านึกไม่ถึงจริงๆ ตั้งแต่ไมเคิล แจคสัน ประกาศว่าจะไปจัดคอนเสิร์ทที่ประเทศอังกฤษถึง 50 รอบนั้น เขายังได้ไปซ้อมอยู่บ่อยๆถึงวันละกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งก็คงจะมีผลงานเพลงทั้งเก่าและใหม่ที่จะไปนำเสนอบนเวที การทำงานหนักเพื่อให้งานที่ได้ออกมาดีมีคุณภาพเป็นที่ติดอกติดใจของแฟน เพลงอยู่ในความนิยมของแฟนเพลงต่อไปคงจะอยู่ในสายเลือดของไมเคิล แจคสันที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างนั้นตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อนร่วมงานในการซ้อมก็ยังมองว่า การเต้นก็ยังดูแข็งแรงแข็งขัน ดีที่สุดของเขาทีเดียว (at his best) ซึ่งเมื่อเขาเสียชีวิตลงบางคนถึงกับไม่เชื่อ บางคนก็ว่าเป็นการฆาตกรรม จะอย่างไรก็แล้วแต่การตายของเขายังอยู่ในหัวใจของแฟนเพลง ยังอาลัยอาวอน ปลื้มศรัธาในผลงานที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาออกมาก็ตาม

ในวัยเด็กที่เป็นนักร้องตั้งแต่ 5 ขวบ เอาจริงเอาจังกับการเป็นนักร้อง ที่พ่อของเขาต้องการให้เขาเป็นศิลปินมืออาชีพ จึงทำการฝึกฝนเขามากจนทำให้เขาไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาควรจะกระทำในวัยเด็ก ในเวลาทำงานพ่อเขาถึงกับบอกว่าห้ามไม่ให้เรียกว่าพ่อแต่ให้เรียกว่าโจเซพ แทนเพื่อให้เป็นการเป็นงานเอาจริงเอาจัง ที่หล่อหลอมให้ไมเคิล แจคสันได้สร้างผลงานสร้างชื่อเสียงให้แก่เขาอย่างไม่มีใครเทียบเคียง มีอัลบัมเพลง ทริลเลอร์ ที่มีเพลงอยู่ 8-9 เพลงได้รับความนิยมขายได้มากที่สุดในโลกยังไม่มีใครลบสถิติ ผลงานต่างๆ ของเขาไม่ใช่ได้มาโดยบังเอิญแต่เป็นความพยายามฝึกฝน มีพรสวรรค์ ร้องเพลง แต่งเพลง เต้นด้วยท่าเต้นมี่ไม่เหมือนใคร คิดค้นรองเท้าต้านแรงโน้มถ่วงทำให้ท่าเต้นเอียงได้มากกว่าธรรมดาโดยไม่ต้อง ใช้ลวดสลิงช่วยเป็นต้น

และเมื่อมีชื่อเสียงโด่งดัง ยอดนิยมสูงสุด บางครั้งกลับส่งผลในทางลบ เขาไม่สามารถที่จะออกมาซื้อหาอาหารเอง ไม่สามารถไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้ตามที่ตัวเองต้องการเพราะความดัง เพราะเมื่อมีนักข่าวมีแฟนเพลงรู้ระแคะระคายเท่านั้น ก็จะกรูกันมา ทำให้ห้างร้านที่ไปมีคนมาห้อมล้อม เพราะแม้แต่การจราจรก็ติดขัด ทำให้เราได้ทราบข่าวบ่อยๆ ว่าไมเคิล แจคสันไปซื้ออะไรแล้วต้องปิดร้านขายกันทีเดียวจะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาสามัญ ได้ยากยิ่ง มีเรื่องเล่ากันว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาพาลูกๆ ไปดูลิงกอริลาที่สวนสัตว์ เมื่อนักข่าวแฟนเพลงทราบ ก็ไปห้อมล้อม เขาและลูกๆ มีเวลาดูลิงได้ราวสิบนาที แต่กว่าจะออกจากสวนสัตว์มาได้ต้องใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง

ความเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีของไมเคิล แจคสันก็มีส่วนทำให้เขายังคงได้รับความนิยม ในแง่ที่ว่าเขาไม่เคยเกรี้ยวกราดกับแฟนเพลงที่มาห้อมล้อมเพราะเขาเข้าใจสภาพ ดี แม้ว่าจะทำให้เขาไมสบายใจบ้างดังที่กล่าวมาแล้วนั้น แต่เขาจะเกลียดพวกที่นำเรื่องของเขาไปลงบิดเบือนในแท็บบลอย ตอนที่เขาถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมินทางเพศต่อเด็กผู้ชายนั้นตอนหลังเด็กผู้ชาย นั้นก็สารภาพว่าผู้ปกครองให้มาพูดปรักปรำเขา เพื่อจะได้เรียกร้องเงิน และไมเคิล แจคสันก็ใจป้ำยอมจ่ายเงินเพื่อให้เรื่องเงียบกันไป เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ซึ่งหาเรื่องที่จะเรียกร้องเงินจากเขา

ว่าการเป็นนักร้องยอดนิยมนั้นน่าจะมีความสุข มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ที่ให้ใครต่อใครต้องอิจฉา และหลายคนก็มีความปรารถนาจะเป็นผู้มีชื่อเสียงได้รับความนิยมเช่นนั้น แต่เมื่อดูชีวประวัติของไมเคิลแจคสันว่ากว่าเขาจะได้มาซึ่งชื่อเสียงความ นิยมต้องแลกกับอะไรบ้าง กว่าจะมาถึงจุดสุดยอดของศิลปินเพลงป็อบ และทำให้รู้ซึ้งถึงสัจธรรมว่าการได้ รับความนิยมมากเกินไป จะตั้งใจทำหรือไม่ตั้งใจทำให้เกิดขึ้นก็ตาม บางครั้งก็นำความทุกข์ยากมาให้โดยไม่รู้ตัว และเขาคนนั้นคือไมเคิล แจคสัน ที่แม้จะจบชีวิตไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ในหัวใจของแฟนเพลง ยิ่งทราบเบื้องลึกของเขาแล้วด้วยยิ่งอาลัยต่อเขามากขึ้นไปอีก

การนำแนวคิดคาร์บอนเครดิตไปใช้

ผล จากการที่อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากภาวะเรือนกระจก หรือ green house effect และตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวคือการสะสมตัวของแกสคาร์บอน ไดออกไซด์ที่ไปสะสมตัวในชั้นบรรยากาศ ไปบิดกั้นการระบายความร้อนออกไปจากชั้นบรรยากาศ และยังเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ภูมิอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนไป แต่การเปลี่ยนแปลงที่ผกผันรวดเร็วจนมนุษย์ไม่สามารถปรับตัวได้ทันได้ส่งผล ต่อคุณภาพชีวิตจนยากที่จะฟื้นคืนกลับมาให้เหมือนเดิมได้ ความพยายามที่จะสร้างความสมดุลย์ให้เกิดขึ้น ในเมื่อสาเหตุหลักอยู่ที่การปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ของโลก จากการเผาผลาญพลังงานในรูปแบบต่างๆ ของมนุษย์ จากโรงงานอุตสาหกรรม จากยานพาหนะ สิ่งที่มนุษย์สามารถที่จะทำได้คือลดการบริโภค ลดการใช้พลังงานที่จะทำให้มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เกิดกว่าที่กำหนด …………………

การพัฒนาของมนุษย์ในระบบเสรีทุนนิยม ที่เน้นการบริโภคที่มีส่วนให้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติในอัตราที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้ที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่โลก และใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในการสังเคราะห์แสง จึงได้มีการรณรงค์ให้มีการปลูกป่าเพิ่มมากขึ้น เสริมบำรุงสภาพป่ามากขึ้น และทั่วโลกได้ตระหนักถึงผลกระทบว่าไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งแต่มี ผลกระทบอย่างมีความสัมพันธ์กันเสมอ ความพยายามอย่างหนึ่งที่มีการประชุมกันที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดให้มีคาร์บอนเครดิตลักษณะต่างๆ ซึ่งคาร์บอนเครดิตนั้นจะหมายถึงจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ที่สามารถลดลงได้ก็จะ เป็นเครดิตให้ประเทศนั้นๆ เช่นจำกัดให้แต่ละประเทศปล่อยขึ้นบรรยากาศได้ไม่เกินเท่าใด ให้มีการเคลื่อนย้ายกันระหว่างประเทศได้ ประเทศหนึ่งอาจปล่อยเกินกว่าจำนวนแต่สนับสนุนส่งเสริมให้อีกประเทศลดลงได้ชด เชย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกันได้ ประเทศที่ไม่สามารถลดลงได้ก็ไปซื้อจากประเทศอื่น …………………

เป็นไปได้ที่ประเทศไทยอาจจะรณรงค์ให้มีการเพิ่มจำนวน ออกซิเจนลดจำนวนคาร์บอนโดยการปลูกต้นไม้ เหมือนกับได้สองต่อคือ การปลูกต้นไม้ได้ความร่มรื่นและยังได้ผลประโยชน์จากป่า เป็นที่เก็บความชื้นลดความรุนแรงของน้ำท่วม และยังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวเชิงนิเวศวิทยาที่ประเทศของ เรามีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันก็จะได้รับเงินสนับสนุนจากคาร์บอนเครดิต อย่างไรก็ตามยังต้องใช้เวลาในการกำหนดกฏระเบียบ การตรวจสอบที่ชัดเจน การส่งเสริมให้มีการปลูกป่าเพิ่มเติบให้มากขึ้นก็ไม่เสียหายอะไร กลับเป็นผลดีในอนาคต …………………

ความจริงการทำให้เกิดคาร์บอนเครดิตเกี่ยวโยงกับการใช้ พลังงาน ดังนั้นถ้าลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ก็มีส่วนทำให้เกิดแกสเรือนกระจกได้ น้อย ต่อไปอาจจะเทียบเคียงเป็นพลังงานเครดิตได้ เช่นบางหน่วยงานสร้างแรงจูงใจให้มีการประหยัดพลังงานใครประหยัดพลังงานได้ มากก็จะได้พลังงานเครดิต เช่นใครประหยัดน้ำมันส่วนกลางได้ให้เก็บสะสมเป็นเงินโบนัสได้กี่งหนึ่งหรือ ตามที่ตกลงกัน ทำนองเดียวกันแผนกใดลดค่ากระแสไฟฟ้าได้ ก็มีการคืนส่วนที่ลดให้ให้หน่วยงาน แผนกหรือแม้แต่บุคคล ในรูปของเครดิตพลังงาน หากมีการใช้มากกว่าที่ควรจะเป็นมีการลดหรือหักเครดิตที่ควรจะได้ออก ด้วยมาตรการดังกล่าวนี้น่าจะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

10 โรคประหลาดที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก


โลกเรายังมีโรคแปลกๆ ที่ยังรักษาไม่หายอยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่แพทย์ยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ซึ่ง 10 โรคต่อไปนี้เราอาจจะเคยได้ยิน หรือเห็นคนเป็นโรคมาบ้าง แต่บางโรคก็ไม่เคยได้ยินเลย และเพิ่งจะรู้ว่ามีโรคนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ

1 .โรคค็อดทาร์ดหรือโรคศพเดิน (Walking Corpse Syndrome)

เป็นหนึ่งในโรคทางจิต ตั้งชื่อตามนายแพทย์จูลส์ ค็อดทาร์ด แพทย์ด้านสมองชาวฝรั่งเศส ที่พบว่าผู้ป่วยคนหนึ่งของเขาเป็นโรคนี้ นายแพทย์ค็อดทาร์ดกล่าวถึงผู้ป่วยที่เขารักษาว่า "เธอไม่เชื่อว่าเธอมีอวัยวะ จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องกินอาหาร"

ผู้ป่วยมีความเชื่อว่าสูญเสียอวัยวะสำคัญ แม้กระทั่งสูญเสียวิญญาณ ผู้ที่เป็นมากๆ จะเชื่อว่าตนตายไปแล้ว ทั้งยังได้กลิ่นเหม็นเน่าจากเนื้อของตัวเอง รู้สึกว่าเหมือนหนอนกำลังกัดกินเนื้อ บางคนเชื่อว่าตัวเองไม่มีกระเพาะ จึงไม่กินอาหาร เป็นไปได้ว่าผู้ที่เป็นโรคเสพยาบ้า โคเคน มากเกินไป และอาจเกี่ยวข้องกับโรคจิตเภท โรคอารมณ์แปรปรวน

2. โรคแวมไพร์ซินโดรม

ได้ชื่อว่าแวมไพร์ต้องนึกถึงผีค้างคาวดูดเลือด ที่ออกอาละวาดในยามราตรี แต่กลัวแสงสว่างเป็นที่สุด ผู้ป่วยโรคนี้ก็เช่นกัน คือกลัวแสงสว่าง เพราะเมื่อถูกแสงแดดแล้วจะเจ็บปวดอย่างมหาศาล ผิวแห้งแตกเป็นขุย มีรอยไหม้

3. โรคจัมพิ่ง เฟรนช์แมน ออฟ เมน (Jumping Frenchman of Maine Disorder)

เป็นโรคที่นายแพทย์จอร์จ มิลเลอร์ เบียร์ด อธิบายไว้เป็นคนแรก เมื่อค.ศ.1878 คาดว่าผู้ป่วยที่เขาพบนั้นเป็นชายชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส ผู้ป่วยจะเกิดอาการเมื่อถูกกระตุ้น เช่น ถ้าตะโกนดังๆ ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งผู้ป่วยก็จะทำตามนั้น เช่น มีผู้ตะโกนว่า "ตบหน้าเมีย" ก็จะกระโดดเข้าไปตบหน้าภรรยาของตนเองทันที หรือถ้าได้ยินประโยคแปลกๆ ประโยคที่เป็นภาษาต่างประเทศ ก็จะพูดประโยคนั้นๆ ซ้ำไปซ้ำมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

4. โรคเส้นบลาชโค (Blaschko"s lines)

ผู้เป็นโรคจะลายริ้วๆ ไปทั้งตัว นับเป็นโรคหายากอีกโรคหนึ่ง ไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักกายวิภาค ผู้ที่กล่าวถึงโรคนี้เป็นครั้งแรกคือนายแพทย์อัลเฟรด บลาชโค แพทย์ด้านผิวหนังชาวเยอรมัน ที่กล่าวถึงอาการของผู้เป็นโรคเมื่อค.ศ.1901 บริเวณกระดูกสันหลังจะเป็นเส้นรูปตัว V บริเวณหน้าอก ท้อง และข้างลำตัวจะเป็นเส้นรูปตัว S

5. โรคพิคา หรือโรคที่กินวัตถุที่ไม่สามารถบริโภคได้

ผู้ที่เป็นโรคจะมีความอยากกินวัตถุที่ไม่ใช่อาหารมาก เช่น ดิน กระดาษ กาว โคลน ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่มีวิธีรักษา แต่เป็นไปได้ว่าร่างกายขาดแร่ธาตุบางอย่าง

6. โรคอลิซในแดนมหัศจรรย์ หรือ "ไมครอพเซีย"

เกิดจากความผิดปกติของสมอง ที่แปรสัญญาณไปยังสายตาผู้ป่วยให้มองทุกอย่างเล็กจากความเป็นจริง ทั้งที่สายตาของผู้ป่วยไม่มีความผิดปกติใดๆ เช่น มองสุนัขที่เลี้ยงไว้ ก็จะเห็นว่ามีขนาดเท่าหนู รถยนต์คันใหญ่ ก็จะเห็นว่ามีขนาดเท่ากับรถเด็กเล่น

7. โรคบลูสกิน หรือ "โรคผิวสีน้ำเงิน"

ผู้เป็นโรคจะมีร่างกายเป็นสีน้ำเงิน ที่สหรัฐเมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว ครอบครัวของนายมาร์ติน ฟูเกต เด็กกำพร้าชาวฝรั่งเศส และเข้ามาตั้งรกรากอยู่บริเวณลำธารทร็อบเบิ้ลซัมครีก รัฐเคนตั๊กกี้ เมื่อค.ศ.1820 เป็นโรคนี้กันอย่างถ้วนหน้า เริ่มจากที่นายฟูเกตเองที่เป็นโรคอยู่แล้ว เมื่อเขาสมรสกับหญิงปกติ ลูก 4 ใน 7 คนเป็นโรคสีน้ำเงินเหมือนพ่อ ลูกหลานที่มาจากเชื้อสายนี้อีก 6 ชั่วคนยังเป็นโรคนี้ด้วย โดยหนูน้อยเบนจามิน สเตซี่ ที่มีเชื้อสายฟูเกต เป็นคนในตระกูลล่าสุดที่เป็นโรค โชคดีที่เด็กชายไม่เป็นมาก เพียงไม่นานหลังจากเกิดก็หาย ปัจจุบันเด็กชายอายุ 8 ขวบ

8. โรคเวอร์วูล์ฟซินโดรม

ผู้ป่วยจะมีขนยาวรุงรังตามหน้าตา แขนขา ทุกส่วนของร่างกาย คาดว่าปัจจุบันมีผู้เป็นโรคประมาณ 50 คนจากทั่วโลก เช่น เด็กชายปรัชวิราช พาทิล ชาวอินเดีย ที่ต้องเจ็บปวดจากการล้อเลียนของเพื่อนๆ และสังคม ซึ่งครอบครัวพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ ทั้งใช้เลเซอร์แบบแพทย์แผนปัจจุบัน ไปจนถึงการรักษาแบบทางเลือก อายุรเวช

9. โรคมือเท้าช้างหรือ "เอเลแฟนต์เทียซิส"

เป็นโรคที่พบเห็นกันค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนที่มียุง เนื่องจากยุงเป็นพาหะของโรค โดยจะแพร่หนอนปรสิตวูชีเรเรียแบนครอฟตี หนอนปรสิตบรูเจียมาลายี หนอนปรสิตบี.ทิโมลี มายังคน ทำให้ไข่ของหนอนปรสิตเข้ามาในกระแสเลือดและแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย มันอาจใช้เวลาฟักตัวนานหลายปี

ที่เว็บไซต์ของโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนระบุว่า โรคมือเท้าช้างเป็นโรคที่เกิดจากหนอนพยาธิตัวกลมฟิลาเรีย มีลักษณะคล้ายเส้นด้ายอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลืองของคน โดยมียุงเป็นพาหะนำโรค อาการที่เห็นได้ชัดคือ ขา แขน หรืออวัยวะเพศบวมโตผิดปกติ เนื่องจากภาวะอุดตันของท่อน้ำเหลือง

โรคเท้าช้างในประเทศไทยมี 2 ชนิด

- ชนิดแรกเกิดจากเชื้อบรูเจียมาลายี มักมีอาการแขนขาโต พบมากในบริเวณที่ราบทางฝั่งตะวันออกของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจนถึงนราธิวาส โดยมี "ยุงลายเสือ" เป็นพาหะ ยุงชนิดนี้กัดกินเลือดของสัตว์และคน ชอบออกหากินเวลากลางคืน มีแหล่งเพาะพันธุ์ตามแอ่งหรือหนองน้ำที่มีวัชพืชและพืชน้ำต่างๆ เช่น จอก ผักตบชวา แพงพวยน้ำ หรือหญ้าปล้อง

- ชนิดที่สองเกิดจากเชื้อวูชีเรเรียแบนครอฟตี มักทำให้เกิดอาการบวมโตของอวัยวะสืบพันธุ์และแขนขา พบมากในบริเวณภาคตะวันตกของประเทศไทย เช่น ที่อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก อำเภอละอุ่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นต้น ยุงพาหะนำโรคเท้าช้างชนิดนี้ได้แก่ "ยุงลายป่า" เพาะพันธุ์ตามป่าไผ่ ในโพรงไม้ และกระบอกไม้ไผ่ ปัจจุบันพบว่าเชื้อโรคเท้าช้างชนิดวูชีเรเรียแบนครอฟตี สายพันธุ์ที่นำเข้าโดยผู้อพยพจากชายแดนไทย-พม่า มียุงพาหะหลายชนิดรวมทั้งยุงรำคาญ ซึ่งเป็นยุงบ้านที่พบได้ทั่วไป

คนที่มีอาการมักจะเกิดจากการที่ถูกยุงที่มีเชื้อพยาธิเท้าช้างกัดซ้ำหลายครั้ง อาการในระยะแรก ผู้ป่วยอาจมีไข้ ซึ่งเกิดจากการอักเสบของต่อมและท่อน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ขาหนีบ หรืออัณฑะ เนื่องจากพยาธิตัวแก่ที่อยู่ในท่อน้ำเหลืองสร้างความระคายเคืองแก่เนื้อเยื่อภายใน รวมทั้งมีการปล่อยสารพิษออกมาด้วย อาการอักเสบจะเป็นๆ หายๆ อยู่เช่นนี้ และจะกระตุ้นให้เกิดอาการบวมขึ้น หากเป็นนานหลายปีจะทำให้อวัยวะนั้นบวมโตอย่างถาวรและผิวหนังหนาแข็งขึ้นจนมีลักษณะขรุขระ

10. โรคโพรจีเรีย หรือ "โรคแก่ก่อนวัยอันควร"

เป็นโรคที่เกิดจากรหัสทางพันธุกรรมตัวหนึ่งบกพร่อง ทำให้ผู้ป่วยมีรูปร่างหน้าตาแก่กว่าอายุจริงมาก ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะอายุสั้น คือไม่เกิน 13 ปี มักเสียชีวิตจากสาเหตุหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย อาการของผู้เป็นโรคคือ หัวล้าน กระดูกบาง มีรูปร่างเตี้ยแคระ มักเจ็บปวดตามข้อ แต่เมื่อแรกเกิดแล้วจะดูเหมือนกับเด็กปกติ

น้ำตาลทรายสารพัดประโยชน์

น้ำตาลทรายหวานอร่อยและยังมีประโยชน์ใช้สอยอื่นๆ ที่ช่วยให้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้นอีกด้วย

ทำความสะอาดมือ : น้ำตาล เป็นสารที่มีฤทธิ์ในการขัดลอก เพราะฉะนั้นถ้ามือคุณเปื้อนคราบสกปรกโดยเฉพาะคราบมันที่ล้างออกได้ยากทั้ง หลาย ลองใช้น้ำตาลทรายถูมือ มันจะช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด

ดักมด : ต้ม น้ำตาลกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นน้ำเชื่อมเหนียวๆ แล้วเทน้ำเชื่อมใส่ลงในขวดปากกว้างหรือชาม จากนั้นวางทิ้งไว้ในที่เปิดโล่ง มันจะดึงดูดมดเข้ามาลิ้มรสความหวาน แล้วก็จะตกลงไป

บรรเทาอาการลิ้นพอง : ถ้าคุณบังเอิญกินอาหารร้อนๆ หรือเครื่องดื่มร้อนจัดเข้าไปจนรู้สึกเหมือนลิ้นแทบพอง ลองโรยน้ำตาลทรายลงบนลิ้นแล้วอมเอาไว้ชั่วคราว อาการปวดแสบปวดร้อนจะดีขึ้น

ฆ่าแมลงสาบ : ผสมน้ำตาลทรายกับผงฟูในปริมาณเท่าๆ กัน น้ำตาลทรายจะเรียกให้แมลงสาบเข้ามากิน แล้วผงฟูก็จะทำให้แมลงสาบตาย

จับแมลงวัน : ต้มน้ำครึ่งลิตรกับน้ำตาลทรายและพริกไทย (ราวหนึ่งช้อนชา) แล้วเทใส่ไว้ในชาม มันจะดึงดูดแมลงวันให้เข้ามา แล้วก็จะตกลงไปตายในน้ำ

จุดไฟ : ถ้าคุณมีปัญหาในการติดเตาถ่าน ลองโรยน้ำตาลทรายลงไปสักหยิบมือหนึ่งก่อนจุดไฟ น้ำตาลทรายจะช่วยทำให้ไฟติดได้ง่ายขึ้น

รักษาความสดของบิสกิต : ใส่น้ำตาลทรายเล็กน้อยลงในโหลใส่บิสกิตของคุณ มันจะช่วยดูดซับความชื้นและทำให้บิสกิตคงความกรอบได้ยาวนานกว่า

เค้กสดใหม่ : โรยน้ำตาลทรายเล็กน้อยลงบนเค้กที่ทำเองที่บ้านในขณะที่มันยังร้อนอยู่ เค้กของคุณจะคงความสดใหม่ได้นานขึ้น