วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ลดความอ้วน...

ชายอ้วนคนหนึ่งเห็นประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ว่า
จะสามารถลดน้ำหนักให้ได้ในเวลาวันเดียว โดยคิด ปอนด์ละ 1ดอลลาร์

เขาจึงตัดสินใจโทรไปหาบริษัทช่วยลดความอ้วนอันนี้
เมื่อโทรติดมีคนรับสายและถามว่า

"คุณต้องการลดน้ำหนักเท่าไหร่ครับ"

" 10 ปอนด์ " ชายอ้วนตอบ

สายตอบมาว่า "ดีมาก, โปรดบอกเบอร์บัตรเครดิตของคุณมา
แล้วเราจะส่งพนักงานไปหาที่บ้านพรุ่งนี้เช้า"

วันต่อมาเวลา 9:00 น. มีคนมาเคาะที่ประตูบ้าน
ชายอ้วนเปิดประตูออก พบว่ามีสาวน้อยนางหนึ่งยืนเปลือยกาย
ล่อนจ้อนอยู่ที่ประตูบ้าน

ที่คอของเธอมีป้ายแขวนไว้เขียนว่า

"ถ้าคุณจับฉันได้ ฉันจะให้รางวัล"

หลังจากนั้นชายอ้วน ก็วิ่งไล่ตามสาวเปลือยไปตามที่ต่างๆในบ้าน ข้างล่าง, ข้างบน , กระโดดข้ามโซฟา, วิ่งเข้าครัว ฯลฯ

ในที่สุดเขาก็จับ เธอได้ และมีความสุขกับเธอ
เมื่อเสร็จแล้ว เธอจึงพูดกับเขาว่า " เร็วเข้า, ลองไปวัดน้ำหนักของคุณกัน" เขาทำตาม

และพบว่าน่ามหัศจรรย์จริงๆ เขาลดไปได้ 10 ปอนด์
ในเวลาแค่ครึ่งวัน

ในตอนเย็นวันนั้นเขาจึงโทรกลับไปที่บริษัทเดิมอีก
ชายผู้รับสายถาม

"คราวนี้คุณต้องการลดน้ำหนักเท่าไหร่ครับ"

"ผมต้องการลดมากขึ้นกว่าเดิม, เอาซัก 20 ปอนด์เป็นไง" ชายอ้วนพูด

"ดีครับ, เราจะหักเงินตามหมายเลขเครดิตการ์ดของคุณ
แล้วจะส่งพนักงานไปที่บ้านในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
ขอให้โชคดีครับ"

เช้าวันต่อมา เวลา 8:00

ก็มีหญิงสาวคนใหม่ที่สวยกว่าเดิมมาเคาะประตูบ้านอีกเช่นเดิม
เธอมีป้ายแขวนไว้ที่คอ เขียนไว้ว่า

"ถ้าจับฉันได้ คุณจะทำอะไรกับฉันก็ได้"

คราวนี้ เธอล่อหลอกชายอ้วนมากกว่าเดิม ทำให้เขาใช้เวลา
นานขึ้นในการวิ่งไล่จับ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็จับเธอได้
และ กลับไปวัดน้ำหนัก

"โอ้โห, วิเศษจริงๆ ฉันลดได้ 20 ปอนด์ อย่างมีความสุข" ชายอ้วนพูดด้วยความพึงพอใจ

หลังจากนั้นในตอนเย็นเขาจึงโทรไปที่บริษัทฯ
อีกครั้งและพูดว่า

"คราวนี้ผมอยากลดมากกว่าเดิมอีก เอา 50 ปอนด์เลย" ชายอ้วนพูด

ในใจเขาคิดถึงสาวคนใหม่ที่สวยกว่าวันนี้อีก

"ห้าสิบปอนด์ เลยเรอะ!" พนักงานทำเสียงดัง

"นั่นมันเป็นไปไม่ได้นะคุณ จะให้มันลดในครั้งเดียวยากมาก" ชายอ้วน เริ่มไม่พอใจ

และพูดว่า นายเอาเบอร์บัตรเครดิตฉันไปเลย

แล้วพรุ่งนี้รีบส่งพนักงานมาหาฉันให้ได้ในตอนเช้า" เขาพูด ด้วยเสียงอันดัง และรีบวางหู

ในเช้าวันต่อมา เวลา 7:00 น. เขาได้ยินเสียงเคาะประตู
เลยรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ทันใดนั้นเขาพบว่า

มีลิงกอริลล่า ตัวผู้ สีดำทะมึน ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
มีป้ายแขวนอยู่ที่ขอเขียนไว้ว่า

"ถ้าฉันจับแกได้ แกจะต้องเป็นของฉัน อ๊ากก…..."

อ่านแล้วจะยิ้ม ^^

1.เธอกำลังอ่านข้อความของฉันอยู่

2.เธออ่านข้อ 1 จบไปแร้ว

3.เธอกะลังคิดว่ามันจะทำให้ยิ้มได้ยังงัย

4.เหมือนเธอจาโดนหลอก

5.เธอเริ่มคิดว่าจะด่าฉันยังไง

6.เธอเครียด

7.เธอเครียดมากๆ

9.เธอเครียดโคตรๆ

10.เธอเครียดจนเธอลืมดูว่าไม่มีข้อ 8

11.เธอหันไปดูว่าไม่มีจิงป่าว

12.นั่นแน่ !! เธอแอบยิ้ม

อิอิ ในที่สุดเธอก็ยิ้ม อย่าเครียดน้า ยิ้มเข้าไว้

ยิ้มครั้งนึงหน้าสีแดง

ยิ้มอีกครั้งหน้าสีชมพู

ยิ้มทั้งวันเข้าศรีทัญญา (บ้าแล้วนะเธออะ)

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อีเมลขยะ ภัยเงียบ..ปล่อยคาร์บอน 17 ล้านตันต่อปี

ใน ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ต้นตอของปัญหาโลกร้อนที่นึกถึงได้ทันที คงต้องยกให้กับโรงงานอุตฯ ท่อไอเสียจากรถยนต์ และเครื่องใช้ไฮเทคนานาชนิด ซึ่ง เป็นตัวการของการปล่อยก๊าซพิษ "คาร์บอนไดออกไซด์" ออกไปทำลายชั้นบรรยากาศของโลกจนถึงขั้นที่ผู้เกี่ยวข้องหลายหลายฝ่าย รวมถึงเวทีประชุมระดับโลกหลายเวทียกเป็นประเด็นหลักที่ต้องเร่งหาทางออก หาก แต่ผลวิจัยฉบับล่าสุดจากองค์กรด้านสภาพภูมิอากาศ "ไอซีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล" และผู้พัฒนาโซลูชั่นป้องกันไวรัส "แมคอาฟี" กำลังชี้ให้เห็น "ภัยเงียบ" หน้าใหม่ที่กำลังทำสถิติไต่อันดับตัวการของสาเหตุโลกร้อนอันดับต้นๆ ของโลกในเร็วว

'สแปม'ภัยเงียบหน้าใหม่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า อีเมลขยะหรือ "สแปม คือภัยเงียบที่กำลังจะกล่าวถึง โดยจากการศึกษาผลข้างเคียงจากการปล่อยสแปมพบ ว่า จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ชนิดนี้ใช้พลังงานโดยรวมสูงกว่า 3.3 หมื่นล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงทุกปี ซึ่งเป็นปริมาณกระแสไฟที่เพียงพอต่อการใช้งานในบ้านมากกว่า 2.4 ล้านครัวเรือน โดยผลจากการติดตามปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากการใช้อีเมลขยะ (คาร์บอน ฟุตพรินท์ ออฟ อีเมล สแปม) ประเมินได้ว่า ปัจจุบันมีสแปมถูกส่งไปทั่วโลกราว 62 ล้านล้านฉบับทุกปี ซึ่งทั้ง"ไอซีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล" และ "แมคอาฟี" ร่วมกันทำวิจัยพบว่า ปริมาณสแปมดังกล่าวเป็นต้นตอของการปล่อยก๊าซพิษคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึงกว่า 17 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นพลังงานที่ต้องสูญเสียไปกับการอ่านอีเมล และลบทิ้งสแปมราว 80% ของพลังงานทั้งหมด นอก จากนี้ผลการศึกษาดังกล่าวยังพบว่า ผู้ใช้งานในองค์กรโดยเฉลี่ยเป็นกลุ่มที่สร้างคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 131 กิโลกรัมทุกปี ซึ่งในจำนวนนี้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับสแปมถึง 22%

กำจัดรถ=กำจัดสแปม
ไอซีเอฟระบุว่า ตัวกรองสแปมสามารถลดสแปมที่ไม่ต้องการได้ 75% หรือเทียบได้กับการนำรถยนต์ที่เป็นต้นตอของการปล่อยก๊าซพิษตัวเดียวกัน ออกจากถนนได้ถึง 2.3 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ไอซีเอฟเชื่อว่า แม้การใช้ตัวกรองสแปมจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มีประสิทธิภาพ หากแต่การกำจัดต้นตอของการปล่อยอีเมลไม่พึงประสงค์น่าจะให้ผลในระยะยาวที่ดีกว่า รายงาน ดังกล่าวได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของ "แมคโคโล (MaColo)" บริษัทรับฝากเว็บไซต์ในสหรัฐฯ ซึ่งว่ากันว่าเป็นเว็บ โฮสติ้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแปมเมอร์จำนวนมาก โดยหลังจากที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 2 รายได้ทำการยกเลิกการเชื่อมต่อระบบกับเว็บของบริษัทดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณสแปมทั่วโลกลดลงถึง 70% แมคอาฟี ระบุว่า แม้จะยับยั้งได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ในเมื่อการกำจัดสแปมเทียบได้กับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนนได้ถึง 2.2 ล้านคัน ฉะนั้นการจัดการกับสแปมก็ควรเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยเช่นกัน

นายริชี เจนนิงส์ นักวิเคราะห์อิสระด้านสแปม หนึ่งในผู้ร่วมทีมทำรายงานในครั้งนี้ ระบุว่า สถิติดังกล่าวเป็นข้อมูลที่คิดจากการใช้พลังงานส่วนเกินเพื่อจัดการกับสแปม

'บอต'ตัวการสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นฮอตเกี่ยวกับสแปมได้ ถูกรายงานตามกันมาติดๆ โดยล่าสุดบริษัทโซลูชั่นด้านความปลอดภัย "ไซแมนเทค" ได้เปิดเผยรายงานประจำปีเกี่ยวกับภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตที่จัดทำขึ้น 2 ครั้งต่อปี พบว่า ปริมาณสแปมเพิ่มขึ้นถึง 192% โดยเครือข่ายบอต (โปรแกรมอัตโนมัติสำหรับทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต) เป็นต้นตอของการปล่อยอีเมลไม่พึงประสงค์ดังกล่าวมากกว่า 90% นายเจนนิงส์ บอกว่า แม้ทั้งแมคอาฟี และไซแมนเทค จะใช้กลวิธีในการวัดปริมาณสแปมแตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 บริษัทก็เห็นพ้องต้องกันถึงสถิติของเครือข่ายบอตที่เกิดขึ้น "สแปมส่วน ใหญ่ถูกส่งผ่านโดยโปรแกรมบอตเน็ต ซึ่งเราจะได้รับหนอนร้ายคอนฟิกเกอร์ (Conficker) เข้ามาสร้างเครือข่ายมหัศจรรย์ที่เชื่อได้เลยว่า มันจะเป็นโปรแกรมชั่วร้ายที่ใช้กระหน่ำส่งสแปมออกไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ" นายเจนนิงส์กล่าว ขณะ ที่สถานการณ์อีเมลขยะล่าสุดเดือนเม.ย. "ไซแมนเทค" พบว่า การปิดตัวลงของแมคโคโล ส่งผลกระทบต่อปริมาณอีเมลขยะในภาพรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ปริมาณอีเมลขยะจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เท่ากับในช่วงก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ดังกล่าว

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีที่จะทำให้เก่งภาษาอังกฤษ

1. Experience: ประสบการณ์
เราควรเสริมสร้างเราควรจะเสริมสร้างประสบการณ์ที่มีอยู่ด้วยการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับคนที่พูดภาษาอังกฤษ คือ พูดง่ายๆ เราควรจะพยายามสนทนากับคนที่พูดภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไร เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีโอกาสชีวิตคือครูคำศัพท์และทุกสิ่งทุกอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
2. Reading: การอ่าน
เราต้องพัฒนานิสัยในการอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่เป็นภาษาอังกฤษบนพื้นฐานของความสนใจ งานอดิเรก อาชีพ เป็นต้น การอ่านถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักๆ ที่จะเสริมสร้างภูมิหลังให้แก่เรา
3. Dictionary: พจนานุกรม
เราควรจะทำความคุ้นเคยกับเนื้อหาสาระและการเรียงร้อย คำในพจนานุกรมให้ดียิ่งขึ้น พจนานุกรมนั้น "จำเป็น" สำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษ
4. Notebook: สมุดบันทึก
หลังจากรวบรวมคำศัพท์ เราต้องจดบันทึกคำศัพท์ใหม่ๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบในสมุดบันทึกของเรา หากเป็นไปได้ให้คัดลอกวลีหรือประโยคที่แสดงถึงวิธีใช้และอย่าลืมตรวจดูความหมายของทุกคำ
5. Word-families or roots: ตระกูลศัพท์หรือรากศัพท์
ต้องศึกษาหมวดหมู่ของคำศัพท์ต่างๆ ที่สัมพันธ์กันในโครงสร้างและความหมายอันเนื่องจากคำเติมหน้า (อุปสรรค) รากศัพท์ และคำต่อท้าย (อาคม) ตระกูลศัพท์ที่มาจากภาษาลาตินและกรีกนั้นได้ให้ศัพท์ในภาษาอังกฤษแก่เรานับพันๆ คำ
6. Word-games: เกมคำศัพท์
เพื่อความสนุก หากเราสามารถจะเป็นแฟนเกมปริศนาอักษรไขว้ และไขเกมคำศัพท์อื่นๆ ที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือเกมปริศนา เป็นต้นทั้งนี้และทั้งนั้น เราจะต้องอ่าน เขียนและพูดภาษาอังกฤษให้ได้มากเท่าที่จะมากได้ ในความพยายามที่จะทำให้เก่งอังกฤษ

หรือไม่ก็...ลองหาแฟนเป็นต่างชาติกันมั้ย ? อิอิ

80 วิธีหยุดโลกร้อนไม่ว่าใครก็สามารถช่วยลดความร้อนให้กับโลกได้ตั้ง 80 ช่องทาง...

ประชาชนทั่วไป

1. ลดการใช้พลังงานในบ้านด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1 พันปอนด์ต่อปี

2.ลดการสูญเสีย พลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง

3. เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า Compact Fluorescent Lightbulb (CFL) เพราะจะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก

4.เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

5. ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บ ภาษีคาร์บอนกับภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีน เป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการ ผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5%

6.ขับรถยนต์ ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยาน ใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการขับรถยนต์น้อยลง หมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 20 ปอนด์

7.ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย

8.จัดเส้นทางรถรับส่ง พนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร

9.เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้าเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ

10. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้น จะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ

11.ไปตลาดสดแทน ซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ซื้อผัก ผลไม้ หมู ไก่ ปลา ในตลาดสดใกล้บ้าน แทนการช็อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ที่อาหารสดทุกอย่างมีการ***บห่อด้วยพลาสติกและโฟม ทำให้เกิดขยะจำนวนมาก

12. เลือกซื้อเลือกใช้ เมื่อต้องซื้อรถยนต์ใช้ในบ้าน หรือรถยนต์ประจำสำนักงานก็หันมาเลือกซื้อรถประหยัดพลังงาน รวมทั้งเลือกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน

13.เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดตามความจำ เป็น โดยพิจารณาจากขนาดครอบครัวและประโยชน์การใช้งาน รวมทั้งพิจารณารุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อเปรียบเทียบราคา

14.ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเลือกรถโฟว์วีลขับ เคลื่อนแบบ 4 ล้อ เพราะกินน้ำมันมาก และตะแกรงขนสัมภาระบนหลังคารถก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะเป็นการเพิ่มน้ำหนักรถให้เปลืองน้ำมัน

15.ขับรถอย่างมี ประสิทธิภาพ ในระยะทางไกลการขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์แต่ละคันที่ใช้งานราว 3 หมื่นกิโลเมตรต่อปี

16.ขับรถ เที่ยวไปลดคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อมกัน เพราะมีบริษัทเช่ารถใหญ่ๆ 2-3 รายมีรถรุ่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เอทานอล หรือน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ ด้วย ลองสอบถามบริษัทรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึง

17.เลือกใช้บริการโรงแรมที่ มีสัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม เช่น มีมาตรการประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน และมีระบบจัดการของเสีย มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น โรงแรมใบไม้สีเขียว มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ

18 เช็กลมยาง การขับรถที่ยางลมมีน้อยอาจทำให้เปลืองน้ำมันได้ถึง 3% จากภาวะปกติ

19.เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ให้มากขึ้น

20 โละทิ้งตู้เย็นรุ่นเก่า ตู้เย็นที่ผลิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เพราะใช้ไฟฟ้ามากเป็น 2 เท่าของตู้เย็นสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟลงได้มาก และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กิโลกรัมต่อปี

21.ยืดอายุตู้เย็นด้วยการใช้ประโยชน์อย่างมี ประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานให้ตู้เย็นด้วยการใช้อย่างฉลาด ไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น หลีกเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร ควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ และทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์

22.ริเริ่มใช้พลังงานทางเลือกในอาคารสำนักงาน เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเฉพาะจุด

23.ใช้แสงแดดให้เป็นประโยชน์ ในการตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้แห้ง ไม่ควรใช้เครื่องปั่นผ้าแห้งหากไม่จำเป็น เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้า

24. ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพราะระบบการผลิตน้ำประปาของเทศบาลต่างๆ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด และดำเนินการจัดส่งไปยังอาคารบ้านเรือน

25.ติดตั้งฝักบัวอาบน้ำที่ปรับความแรงน้ำต่ำๆ ได้ เพื่อจะได้เปลืองน้ำอุ่นน้อยๆ (เหมาะทั้งในบ้านและโรงแรม)

26. ติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น จากโรงผลิตกระแสไฟฟ้า

27.สร้างนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นการลดพลังงานในการกำจัดขยะ ลดมลพิษและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการกำจัด

28. ป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ ด้วยการแยกขยะอินทรีย์ เช่น เศษผัก เศษอาหาร ออกจากขยะอื่นๆ ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์

29.ทาหลังคาบ้านด้วยสีอ่อน เพื่อช่วยลดการดูดซับความร้อน

30. นำแสงธรรมชาติมาใช้ในอาคารบ้านเรือน โดยใช้การออกแบบบ้าน และตำแหน่งของช่องแสงเป็นปัจจัย ซึ่งจะช่วยลดจำนวนหลอดไฟและพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้

31.ปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้าน ต้นไม้ 1 ต้น จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน ตลอดอายุของมัน

32.ปลูกไผ่แทนรั้ว ต้นไผ่เติบโตเร็ว เป็นรั้วธรรมชาติที่สวยงาม และยังดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี

33. ใช้ร่มเงาจากต้นไม้ช่วยลดความร้อนในตัวอาคารสำนักงานหรือบ้านพักอาศัย ทำให้สามารถลดความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศ เป็นการลดการใช้ไฟฟ้า

34.ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในสวนไม้ประดับที่บ้าน แต่ขอให้เลือกใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทน

35. ลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก เพราะถุงพลาสติกไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และการเผากำจัดในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธีต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ

36.เลือกซื้อสินค้าที่มี ***บห่อน้อยๆ ***บห่อหลายชั้นหมายถึงการเพิ่มขยะอีกหลายชิ้นที่จะต้องนำไปกำจัด เป็นการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโดยไม่จำเป็น

37.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ เพื่อเป็นการลดขยะจาก***บห่อของบรรจุภัณฑ์

38.ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า เพราะกระบวนการผลิตกระดาษแทบทุกขั้นตอนใช้พลังงานจากน้ำมันและไฟฟ้าจำนวนมาก

39.เลือกใช้กระดาษรีไซเคิล กระดาษรีไซเคิลช่วยลดขั้นตอนหลายขั้นตอนในกระบวนการผลิตกระดาษ

40. ตั้งเป้าลดการผลิตขยะของตัวเองให้ได้ 1 ใน 4 ส่วน หรือมากกว่า เพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรและลดก๊าซเรือนกระจกได้อีกจำนวนมาก เมื่อลองคูณ 365 วัน กับจำนวนปีที่เหลือก่อนเกษียณ

41.สนับสนุนสินค้าและผลิตผล จากเกษตรกรในท้องถิ่นใกล้บ้าน ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่ไม่ต้องขนส่งผลิตผลให้พ่อค้าคนกลางนำไปขายในพื้นที่ ไกลๆ

42.บริโภคเนื้อวัวให้น้อยลง ทานผัก (ปลอดสารพิษ) ให้มากขึ้น ฟาร์มเลี้ยงวัว คือ แหล่งหลักในการปลดปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ หันมารับประทานผักให้มากขึ้น ทานเนื้อวัวให้น้อยลง

43.ทานสเต๊กและ แฮมเบอร์เกอร์ในร้านใหญ่ๆ ให้น้อยลง เพราะอุตสาหกรรมเนื้อระดับนานาชาติ ผลิตก๊าซเรือนกระจกถึง 18% สาเหตุหลักก็คือไนตรัสออกไซด์จากมูลวัวและมีเทน ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากลักษณะทางธรรมชาติของวัวที่ย่อยอาหารได้ช้า (มีกระเพาะอาหาร 4 ตอน) มีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกได้มากกว่าคาร์บอน ไดออกไซด์ถึง 23 เท่า ในขณะที่ไนตรัสออกไซด์ก่อผลได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ 296 เท่า

44. ชักชวนคนอื่นๆ รอบข้างให้ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาภาวะโลกร้อน ให้ความรู้ความเข้าใจและชักชวนคนใกล้ตัว รวมทั้งเพื่อนบ้านรอบๆ ตัวคุณ เพื่อขยายเครือข่ายผู้ร่วมหยุดโลกร้อนให้กว้างขวางขึ้น

45.ร่วม กิจกรรมรณรงค์สิ่งแวดล้อมในชุมชน แล้วลองเสนอกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้และกระตุ้นให้เกิดการร่วมมือ เพื่อลงมือทำกิจกรรมสิ่งแวดล้อมที่ต่อเนื่อง และส่งผลให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

46.เลือกโหวตแต่พรรค การเมืองที่มีนโยบายสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน จริงใจ และตั้งใจทำจริง เพราะนักการเมืองคือคนที่เราส่งไปเป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร โปรดใช้ประโยชน์จากพวกเขาตามสิทธิที่คุณมี ด้วยการเลือกนักการเมืองจากพรรคการเมืองที่มีนโยบายชัดเจนเรื่องสิ่งแวดล้อม และการลดปัญหาโลกร้อน

47.ซื้อให้น้อยลง แบ่งปันให้มากขึ้น อยู่อย่างพอเพียง



เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา ก็สามารถช่วยได้ด้วยการ

48. ลดการเผาป่าหญ้า ไม้ริมทุ่ง และต้นไม้ชายป่า เพื่อกำจัดวัชพืชและเปิดพื้นที่ทำการเกษตร เพราะเป็นการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศจำนวนมาก นอกจากนั้นการตัดและเผาทำลายป่ายังเป็นการทำลายแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ที่สำคัญ

49.ปลูกพืชผักให้หลากหลายและปลูกตามฤดูกาลในท้อง ถิ่น เป็นการลดการปลูกพืชผักนอกฤดูกาลที่ต้องใช้พลังงานเพื่อถนอมอาหาร และผ่านกระบวนการบรรจุเป็นอาหารกระป๋อง

50.รวมกลุ่มสร้างตลาดผู้ บริโภค-ผู้ผลิตโดยตรงในท้องถิ่น เพื่อลดกระบวนการขนส่งผ่านพ่อค้าคนกลาง ที่ต้องใช้พลังงานและน้ำมันในการคมนาคมขนส่งพืชผักผลไม้ไปยังตลาด

51. ลดการใช้สารเคมีในการเกษตร นอกจากจะเป็นการลดปัญหาการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สู่บรรยากาศโลกแล้ว ในระยะยาวยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต และทำให้คุณภาพชีวิตของเกษตรกรดีขึ้น โปรดปรึกษาและเรียนรู้จากกลุ่มเกษตรกรทางเลือกที่มีอยู่เป็นจำนวนมากใน ประเทศไทย


สถาปนิกและนักออกแบบ

52. ออกแบบพิมพ์เขียวบ้านพักอาศัยที่สามารถช่วย “หยุดโลกร้อน” การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยคิดถึงการติดตั้งระบบการใช้พลังงานที่ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสูงๆ แต่ใช้งานได้จริง ลองคิดถึงวิธีการที่คนรุ่นปู่ย่าใช้ในการสร้างบ้านสมัยก่อน ซึ่งมีการพึ่งพาทิศทางลม การดูทิศทางการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานในบ้านได้ถึง 40%

53.ช่วยออกแบบสร้างบ้านหลังเล็ก บ้านหลังเล็กใช้พลังงานน้อยกว่าบ้านหลังใหญ่ และใช้วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างน้อยกว่า


สื่อมวลชน นักสื่อสารและโฆษณา

54. ใช้ความวชาญในวิชาชีพเพื่อให้ความรู้ และสร้างความตระหนักกับสาธารณชนเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน และทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นของท้องถิ่น

55.สร้างความสนใจกับสาธารณชน เพื่อทำให้ประเด็นโลกร้อนอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง

56.ช่วยกันเล่าความจริงเรื่องโลกร้อน โปรดช่วยกันสื่อสารให้ประชาชนและรัฐบาลเข้าใจสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น

57. เป็นผู้นำกระแสของสังคมเรื่องชีวิตที่พอเพียง ต้นตอหนึ่งของปัญหาโลกร้อนก็คือกระแสการบริโภคของผู้คน ทำให้เกิดการบริโภคทรัพยากรจำนวนมหาศาล ชีวิตที่ยึดหลักของความพอเพียง โดยมีฐานของความรู้และคุณธรรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงน่าจะเป็นหนทางป้องกันและลดปัญหาโลกร้อนที่สังคมโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่

58. ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อร่วมรับผิดชอบสังคม ออกแบบงานโฆษณาที่สอดแทรกประเด็นปัญหาของภาวะโลกร้อนอย่างมีรสนิยม เรื่องที่เป็นจริงและไม่โกหก


ครู อาจารย์

59.สอนเด็กๆ ในขั้นเรียน เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน

60.ใช้เทคนิคการเรียนรู้หลากหลายจากกิจกรรม ดีกว่าสอนโดยให้เด็กฟังครูพูดและท่องจำอย่างเดียว


นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกร

61ค้นคว้าวิจัยหาแนวทางและเทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

62.ศึกษาและทำวิจัยในระดับพื้นที่ เพื่อให้มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อพื้นที่เสี่ยงของประเทศไทย

63.ประสานและทำงานร่วมกับนักสื่อสารและโฆษณา เพื่อแปลงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไปสู่การรับรู้และเข้าใจของประชาชนในสังคมวงกว้าง


นักธุรกิจ อุตสาหกรรมและบริการ

64.นำก๊าซมีเทนจากกองขยะมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ด้วยการลงทุนพัฒนาให้เป็นพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพ แต่มีต้นทุนต่ำ

65.สนับสนุนนักวิจัยในองค์กร ค้นคว้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพในการลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

66. เป็นผู้นำของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หากยังไม่มีใครเริ่มต้นโครงการที่ช่วยหยุดปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง ก็จงเป็นผู้นำเสียเอง

67.สร้างแบรนด์องค์กรที่เน้นการดูแลและใส่ใจ โลก ไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความรับผิดชอบที่มาจากภายในองค์กร


นักการเมือง ผู้ว่าราชการฯ และรัฐบาล

68. วางแผนการจัดหาพลังงานในอนาคต รัฐจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ทางเลือกเพื่อมุ่งจัดการแก้ไขปัญหาพลังงานและ สิ่งแวดล้อม ที่มองไปข้างหน้าอย่างน้อยที่สุด 50 ปี

69.สนับสนุนให้ มีการพัฒนาการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัย และการพัฒนาระบบให้มีต้นทุนต่ำและคุ้มค่าในการใช้งาน

70.สนับสนุนกลไกต่างๆ สำหรับพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการปรับปรุงเทคโนโลยีและการลดต้นทุน

71. สนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน รัฐบาลควรหามาตรการที่ชัดเจนในการสนับสนุนอุตสาหกรรมหมุนเวียน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เพื่อให้สามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมพลังงานอื่นๆ ที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่เป็นสาเหตุหลักของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ

72.มีนโยบายทางการเมืองที่ชัดเจนในการสนับสนุนการ “หยุดภาวะโลกร้อน” เสนอต่อประชาชน

73. สนับสนุนโครงสร้างทางกายภาพ เมื่อประชาชนตระหนักและต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ เช่น จัดการให้มีโครงข่ายทางจักรยานที่ปลอดภัยให้กับประชาชนในเมืองสามารถขับขี่ จักรยาน ลดการใช้รถยนต์

74.ลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนถนนในกรุงเทพมหานครอย่างจริงจัง ด้วยการสนับสนุนระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ

75. ส่งเสริมเครือข่ายการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกรทางเลือก เกษตรกรจำนวนมากเป็นตัวอย่างที่ดีของการลดปัญหาโลกร้อน ด้วยการลดและเลิกการใช้สารเคมีที่ทำให้เกิดการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สู่ บรรยากาศโลก ซึ่งการส่งเสริมการตลาดสีเขียวด้วยการสร้างเครือข่ายการตลาดที่กระจายศูนย์ ไปสู่กลุ่มจังหวัดหรือภูมิภาค จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการขนส่งผลผลิตไปยังตลาดไกลๆ อีกด้วย

76.ริเริ่มอย่างกล้าหาญกับระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์ เพื่อลงทุนกับทางเลือกและทางรอดในระยะยาว

77. พิจารณาใช้กฎหมายการเก็บภาษีเป็นเครื่องมือในการควบคุมปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น การเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) สำหรับภาคอุตสาหกรรม

78.เปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บภาษี นั่นคือการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่สามารถสะท้อนให้เห็นต้นทุนทางอ้อมจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้สังคมต้องแบกรับภาระนั้นอย่างชัดเจน เช่น ภาษีที่เรียกเก็บจากถ่านหิน ก็จะต้องรวมถึงต้นทุนในการดูแลรักษาสุขภาพที่จะต้องเพิ่มขึ้นจากปัญหามลพิษ และต้นทุนความเสียหายจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

79.ปฏิรูปภาษี สิ่งแวดล้อม เป็นก้าวต่อไปที่ท้าทายของนักการเมืองและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่าง ใหญ่หลวงในการปรับเปลี่ยนและสร้างจิตสำนึกใหม่ให้สังคม การเพิ่มการจัดเก็บภาษีสำหรับกิจกรรมที่มีผลทำลายสภาพแวดล้อมให้สูงขึ้นเป็น การชดเชย เช่น กิจกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอน ภาษีจากกองขยะ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปตะวันตกนำแนวคิดนี้ไปใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ปัจจุบันนี้ประเทศใหญ่ๆ ในสหภาพยุโรปก็ร่วมดำเนินการด้วย และพบว่าการปรับเปลี่ยนระบบการจัดเก็บภาษีดังกล่าว ไม่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนระดับการจัดเก็บภาษี หากแต่มีผลกับโครงสร้างของระบบภาษีเท่านั้น

80.กำหนดทิศทางประเทศให้ มุ่งสู่แนวทางของการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ที่สามารถยืนหยัดอยู่รอดอย่างเข้มแข็งในสังคมโลก เริ่มต้นด้วยการใส่ประโยคที่ว่า ประเทศไทยจะต้องยึดหลักเศรษฐกิจตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เป็นแกนหลักของการพัฒนาประเทศไว้ในรัฐธรรมนูญได้หรือไม่

ปล.ช่วยกันนะคะ เพื่อโลกอันแสนสวยงามของเรา (ในอนาคต)

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คำพูดก่อนและหลังแต่งงาน...

'''ช.''' ผมจะรีบทำทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดเลย เพื่ออนาคตของเราทั้งสอง

'''ญ.''' คุณอยากจะไปจดทะเบียนฯ กับฉันที่อำเภอมั้ยคะ?

'''ช.''' แน่นอนที่สุด ผมภาวนาให้ได้ยินคำนี้จากปากคุณมานานแล้ว

'''ญ.''' แล้วคุณจะเลิกกับฉันมั้ยนี่?

'''ช.''' ไม่มีทางเด็ดขาดเลย ต่อให้ผมตายก็เถอะ

'''ญ.''' ถ้าฉันงอนคุณขึ้นมา คุณจะง้อฉันหรือเปล่า?

'''ช.''' สำหรับคุณแล้ว ผมจะพยายามทำทุกวิธี ที่คิดได้เลยเชียวแหละ

'''ญ.''' แล้วคุณคิดจะรังแกฉันบ้างมั้ยคะ?

'''ช.''' ผมคงต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ ถ้าจะทำอย่างนั้นกับคุณ

'''ญ.''' จูบฉันสักครั้งซิคะ

. . . หลังแต่งงานแล้ว 10 ปี...ให้อ่านย้อนขึ้น

พบฟอสซิลเต่าสกุลใหม่ และชนิดใหม่ของโลกในไทย


กรมทรัพยากรธรณีตั้งชื่อฟอสซิลเต่าสกุลใหม่ และชนิดใหม่ของโลกในไทย "ขอให้พระมหากษัตริย์ไทย ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม กล่าววันนี้ (22 มิ.ย.) ว่า ฟอสซิลเต่าโบราณ อายุ 150 ล้านปี ในยุคจูราสสิกตอนปลาย ที่กรมทรัพยากรธรณี ค้นพบได้ที่บ้านคำพอก อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ได้รับการตีพิมพ์ ในวารสาร Geological Society ,London ,Special Publications ซึ่งเป็นวารสารระดับโลก เมื่อเดือนต้นเดือนที่ผ่านมา โดยฟอสซิลดังกล่าว เป็นฟอสซิลเต่าสกุลใหม่ และชนิดใหม่ของโลกนายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา จึงตั้งชื่อเป็นภาษากรีกว่า "Basilochelys macrobios." มีความหมายว่า "ขอให้พระมหากษัตริย์ไทย ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน" หรือเหมือนกับคำภาษาอังกฤษว่า Long Live The King ด้านนายวราวุธ สุธีธร ผู้อำนวยการส่วนวิจัยซากดึกดำบรรพ์และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า เต่าโบราณยุคไดโนเสาร์สกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลกดังกล่าว กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่บ้านคำพอก ให้เข้าไปตรวจสอบ หลังจากขุดพบซากฟอสซิลสัตว์โบราณหลายชนิด แตกหักกระจายที่บริเวณเนินเขาเล็กๆ แถวเทือกเขาภูพาน ตั้งแต่เดือน มี.ค.2548 และกลุ่มนักวิจัยไทย-ฝรั่งเศส นำโดย ดร.ไฮยั่ง ตง ได้เข้าตรวจสอบ จึงพบว่า พื้นที่ดังกล่าว มีฟอสซิลหลายชนิด ทั้งเต่า จระเข้ ปลาเลปิโดเทส กระดูกไดโนเสาร์ โดยเฉพาะใกล้ๆ กันนั้น พบฟอสซิลเต่าขนาดใหญ่ ในลักษณะนอนหงาย 1 คู่ โดยตัวแรกยาว 96 ซ.ม.กว้าง 85 ซ.ม. ส่วนตัวที่ 2 ยาว 90 ซ.ม. และกว้าง 80 ซ.ม.
บ้านนู๋เองค๊า "มุกดาหาร" อิอิ แอบเน้น (ข่าวไทยรัฐ 22 มิถุนายน 2552)

ซีพียูรุ่นใหม่ในยุคคนใช้โนตบุ๊คไม่ง้อปลั๊ก

(ข่าวไทยรัฐ วันที่ 22 มิถุนายน 2552)

เมื่ออินเทลพัฒนาโพรเซสเซอร์ประหยัดพลังงาน ทำให้การใช้โน้ตบุ๊คในฝัน ที่สามารถทำงานได้ตลอดวัน ใกล้เป็นความจริงแล้ว...ปัจจุบัน การใช้งานคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน เปลี่ยนจาการนั่งทำงานอยู่กับที่ในสำนักงาน หรือ ที่บ้าน และที่สถานศึกษา มาเป็นแบบการทำงานเคลื่อนที่ หรือโมบิลิตี้ เวิร์กเกอร์ มากขึ้น อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ที่ตอบสนองความต้องการทำงานทั่วไปในแต่ละวันได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ท่องอินเทอร์เน็ต เล่นเกมออนไลน์ การใช้เพื่อความบันเทิง นอกจากนี้คนจำนวนไม่น้อยใช้งานโน้ตบุ๊คเพื่อติดต่อกับเพื่อนๆ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เช่น ไฮไฟว์ เฟซบุ๊ค และยูทูวป์ เป็นต้นอย่างไรก็ตาม การหอบหิ้วโน้ตบุ๊คไปใช้งานนอกสถานที่ ปัจจัยเรื่องขนาดของเครื่อง น้ำหนัก และแบตเตอรีต่างเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ และใช้เป็นเหตุผลเพื่อจ่ายเงินซื้อโน้ตบุ๊คมาใช้งาน ดังเช่นปี 2551 ที่ผ่านมา เกิดปรากฎการณ์ "เน็ตบุ๊คฟีเวอร์" เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนหนึ่งต้องการเครื่องขนาดเล็กไว้ใช้งาน เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต หรือ ใช้งานเอกสารเล็กน้อย ทำให้เน็ตบุ๊คที่มีราคาประมาณ 199 เหรียญสหรัฐ เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าการซื้อโน้ตบุ๊คที่มีขนาดจอเล็กประมาณ 12 นิ้ว แต่ราคาสูงกว่า 500-1,200 เหรียญสหรัฐ อีกทั้งเน็ตบุ๊คยังประหยัดไฟด้วยเนื่องจากส่วนมากที่จำหน่ายในตลาดเลือกใช้ อินเทล อะตอม โพรเซสเซอร์ ที่กินไฟประมาณ 4 วัตต์ เพราะไม่รับงานประมวลหนักๆ เหมือน คอร์ทูดูโอ หรือ เพนเทียม คอร์ โพรเซสเซอร์ จึงทำให้ใช้งานได้นานประมาณ 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (แบตเตอรี 3 เซลล์) เพราะมีขนาดจอที่เล็ก ประหยัดพลังงานมากกว่าโน้ตบุ๊คที่มีจอขนาด 14 นิ้ว และมีซีพียูที่กินไฟประมาณ 25-30 วัตต์ และการที่ซีพียูกินไฟน้อย ทำให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบเน็ตบุ๊คให้มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้มีการแนะนำโน้ตบุ๊คแบบใหม่ เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค คือ รุ่นบางและเบาเป็นพิเศษ (Ultra Thin and Light Notebook)

นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายถึงที่มาของโน้ตบุ๊ครุ่นบางและเบาเป็นพิเศษว่า จากการที่อินเทลสร้างความต้องการของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ในตลาดกลุ่มใหม่ในขณะนี้ เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป ที่ต้องการความคล่องตัวในการพกพา ควบคู่กับประสิทธิภาพการทำงานที่โดดเด่น รวมทั้งยังมีราคาที่ไม่แพง โน้ตบุ๊ครุ่นบางและเบาเป็นพิเศษ ที่ใช้โพรเซสเซอร์รุ่นกินไฟต่ำเป็นพิเศษ (Ultra Low Voltage: ULV) ของอินเทลนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ประสิทธิภาพการใช้งาน และการประหยัดพลังงานที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด เนื่องจากโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่นี้จะมีการออกแบบที่บางและที่สำคัญจำหน่ายในราคาที่ใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊คระดับเมนสตรีม โดยนับเป็นความภูมิใจของอินเทลที่จะนำเสนอความบางเบาเป็นพิเศษนี้ ให้แก่ผู้ใช้โน้ตบุ๊คได้สัมผัสได้ราคาที่ถูกกว่าเดิม จากปกติที่จำหน่ายเครื่องละ 50,000 บาทขึ้นไป ลดลงมาเหลือประมาณ 23,000 -35,900 บาท สอดคล้อมกับทิศทางที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้โน้ตบุ๊คขนาดจอ 15-17 นิ้ว เพื่อทดแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือเอาติดตัวไปทำงานนอกสถานที่อินเทลได้สำรวจความต้องการของผู้บริโภคที่ซื้อโน้ตบุ๊คพบว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการจากโน้ตบุ๊คมากที่สุด ได้แก่ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของข้อมูล และอายุการใช้งานแบตเตอรี เพราะอายุการใช้งานแบตเตอรีจะต้องแลกกับการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย หรือ อินเทอร์เน็ตไวไฟ แต่การที่โน้ตบุ๊คมีขนาดบางและเบา ยังต้องพบปัญหาความร้อนสะสม เนื่องจากไม่มีพื้นที่พอติดตั้งพัดลมระบายความร้อนที่เกิดจากซีพียูได้ ในตลาดโน้ตบุ๊คแบบที่บางและเบามีสัดส่วนเมื่อเทียบจากตลาดภาพรวมไม่ถึง 11% ดังนั้น เมื่อโน้ตบุ๊คที่ใช้โพรเซสเซอร์แบบ ULV เข้าสู่ตลาดจะเพิ่มสัดส่วนโน้ตบุ๊ครุ่นบางและเบาได้ไม่น้อยกว่า 23% หากมองตลาดโน้ตบุ๊คในเมืองไทย ขนาดจอ 14 นิ้วยังเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด ที่ผ่านมาผู้บริโภคเห็นเครื่องที่มีขนาดจอภาพ 7-12 นิ้วมาแล้วในกลุ่มโน้ตบุ๊ค และในอนาคตโน้ตบุ๊คขนาดจอ 16 นิ้วจะเข้ามาทดแทนเดสก์ท็อปพีซี ผนวกกับการที่โน้ตบุ๊คที่ใช้โพรเซสเซอร์แบบ ULV ให้อายุการใช้งานของแบตเตอรีนานถึง 8 ชั่วโมง กับขนาดเครื่องที่หนาต่ำกว่า 1 นิ้ว การแสดงภาพกราฟฟิคดีขึ้น เชื่อมต่อแบบไร้สายดีขึ้น รวมถึงรองรับอุปกรณ์ต่อพ่วงดิจิตอลต่างๆ สะดวกขึ้นตามไปด้วยจากความสามารถที่กล่าวมาและระดับราคาที่อยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท ที่เชื่อว่าในงานคอมมาร์ตเอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2009 นี้ จะเห็นสินค้าต่างๆ โดยจะทำให้โน้ตบุ๊ค และเน็ตบุ๊คแยกแยะออกจากกันได้ชัดเจน ทั้งประสิทธิภาพการทำงาน และการที่ไม่ต้องพึ่งพาออปติคอลไดร์ฟภายนอก อีกทั้งสเปคความเร็วของซีพียูที่ 1.6-1.8 GHz จึงเพียงพอกับการทำงาน ของผู้ใช้งานทั่วไป และสร้างกลุ่มผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ตลอดวัน (All Day Computing) ให้ขยายตัวมากขึ้น โดยล่าสุดมีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์กว่า 40 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คแบบบางและเบาเป็นพิเศษสู่ท้องตลาดแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การสวมแหวน...บอกความเป็นตัวคุณ

มาทายนิสัยกันต่อดีกว่า...ลองสังเกตตัวเองดูนะว่าชอบสวมแหวนที่นิ้วไหน
นิ้วชี้
ผู้ที่นิยมสวมแหวนที่นิ้วชี้ คุณมักจะชอบทำอะไรแปลก ๆ ที่คนทั่วไปเขาไม่ทำกัน มีเสน่ห์บางอย่างในตัวที่ดึงดูดใจ ผู้ที่มาใกล้ชิด มีแบบฉบับการแต่งตัวเป็นของตัวเอง มีความเชื่อมั่นสูง และไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งตามแฟชั่น เป็นคนรักความหรูหราแบบแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร โปรดปรานเครื่องประดับแปลก ๆ หายาก ไม่ซ้ำใคร ความเฉลียวฉลาดและความสง่างามของคุณนั้น นับว่าเป็นสาวไฮโซทรงเสน่ห์ต่อเพศตรงข้างอย่างมากมาย มีรสนิยมสูงแต่จงอย่าลืมว่า การชอบของแปลกไม่เหมือนใครของคุณอาจกลายเป็นจุดอ่อนของคุณได้
นิ้วกลาง
ผู้ที่นิยมสวมแหวนที่นิ้วกลาง คุณเป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส มีจินตนาการสูงในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ คุณมีบทบาทมากมายในชีวิต บางทีก็ดูเงียบขรึม บางครั้งก็ดูร่าเริงและในบางครั้งก็จะทำตัวเป็นที่น่าสงสารของผู้ที่ได้พบเห็น คุณเป็นคนอ่อนโยนและขี้อาย มักจะประหม่าหรือเคอะเขินเมื่ออยู่ใกล้ชายหนุ่ม ไม่มั่นใจในตนเอง จึงทำให้กลัวไปในทุกเรื่อง
นิ้วนาง
ผู้ที่มีสวมแหวนที่นิ้วนาง คุณเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเอง หากหนุ่มที่มาใกล้ชิดเสแสร้งเอาอกเอาใจคุณ แต่ไม่ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา คุณจะเกลียดมากจนไม่อยากจะเจออีกเลย ขณะเดียวกัน คุณก็ชอบที่จะเห็นชายหนุ่มที่มาให้ความสนใจคุณเป็นคนที่กล้าหาญ แต่จะมีอยู่คนหนึ่งที่รู้จักนิสัยคุณจริง ๆ คนที่ใกล้ชิดคุณเท่านั้น ที่จะรู้ว่าภายใต้ความรู้สึกที่เข้มแข็งนั้น คือความบอบบาง คุณเป็นคนที่คุยสนุก การได้โต้เถียงหรือทำตัวเหมือนดื้อรั้น คือความสุขของคุณ คุณอาจจะรู้สึกเหงาหรือไม่มีเพื่อน และถึงแม้คุณจะผิดหวัง อกหัก แต่คุณก็สามารถบอกกับใคร ๆ ได้ว่า ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ลึก ๆ แล้ว คุณจะรู้สึกปวดร้าว แต่ในระยะเวลาไม่นานนัก คุณก็จะกลับมาเฮฮาปาร์ตี้ได้เหมือนเดิม
นิ้วก้อย
หากคุณเป็นคนที่ชอบใส่แหวนนิ้วก้อยเป็นประจำแล้ว บ่งบอกว่าคุณมักจะตกอยู่ในโลกของความฝัน มากกว่าโลกของความเป็นจริง มีนิสัยน่ารัก แต่ก็เก็บกด มักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของคุณออกมาให้คนอื่นโดยเฉพาะ ในเรื่องของความรัก (อย่างนี้เรียกว่า "ปากแข็ง") และโดยทั่วไปแล้วคุณมักจะคอบตามอารมณ์ ความรู้สึกร่วมไปด้วยเสมอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น คุณอาจจะร้องไห้เมื่อเพื่อนสนิทของคุณอกหัก หรืออาจจะกระโดดโลดเต้นดีใจ เมื่อเพื่อนของคุณมีความสุขเมื่อพบกับหนุ่มหล่อ คุณเป็นคนที่จิตใจเยือกเย็น พอใจในคนรักของตนเอง ไม่จุกจิกจนน่ารำคาญใจ ผู้ใกล้ชิดหรืออยู่ด้วยก็มักสบายใจ ยามที่ชายหนุ่มคนใดได้มาคุยกับคุณ เขาจะรู้สึกสบายใจ และสนุกสนาน คุณมีคุณสมบัติของลูกผู้หญิงเต็มตัว ลักษณะเด่นของคุณ คือ สามารถทำให้ผู้ชายรู้สึกว่า อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นคนที่จริงใจกับความรักเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยลืมวันสำคัญ ๆ เลย ลึก ๆ แล้ว คุณเป็นคนโรแมนติกมาก

แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้า...

แบบทดสอบอารมณ์ทางอารมณ์

ก่อนทำ:
เตรียมปากกาและกระดาษมาเพื่อจดคะแนนและคำตอบด้วยนะ


เริ่มกันเลย...

1. เวลาช่วงไหนที่คุณรู้สึกดีที่สุด
a) ตอนเช้า
b) ตอนกลางวันและตอนเย็นๆค่ำๆ
c) ตอนดึกๆ

2. ปกติคุณจะมีท่าทางการเดินแบบไหน
a) เดินเร็ว ก้าวยาวๆ
b) เดินเร็ว แต่ก้าวสั้นๆ
c) เดินไม่ค่อยเร็ว หน้าตรง ตามองไปรอบๆ
d) เดินไม่ค่อยเร็ว ก้มหน้า
e) เดินค่อนข้างช้า

3. เวลาคุยกับใครคุณทำท่า…
a) ยืนกอดอก
b) ยืนประสานมือ
c) ท้าวสะเอว
d) แตะคนที่คุยด้วย
e) เล่นกับหู / ต้องแตะคาง /เล่นผม


4. ท่านั่งสบายๆของคุณเป็นยังไง
a) เอาขาพับเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
b) นั่งไขว่ห้าง
c) ยืดขาตรง
d) นั่งทับขาตัวเองข้างหนึ่ง

5. ถ้ารู้สึกร่าเริง ดีใจ แสดงออกยังไง
a) หัวเราะดังๆอย่างพอใจ
b) หัวเราะ แต่ไม่ดังมาก
c) หัวเราะ หึๆ
d) ยิ้มแบบอายๆ

6. เมื่อไปงานเลี้ยง
a) เข้าไปอย่างเป็นที่สนใจทุกคนต้องรู้ว่าคุณมาแล้ว
b) เข้าไปเงียบๆมองหาคนที่รู้จัก
c) เข้าไปอย่างเงียบที่สุดพยายามไม่เป็นที่สนใจ

7. คุณกำลังคร่ำเคร่งทำงานอย่างหนักทุ่มเทมากๆ แต่ถูกขัดจังหวะ
คุณ…
a) รู้สึกเฉยๆ+ยินดี
b) รู้สึกฉุนเฉียว กวนประสาท
c) รู้สึกก้ำกึ่ง2ข้อข้างบน

8. ชอบสีอะไรมากที่สุดต่อไปนี้
a) Red or orange
b) black
c) yellow or light blue
d) green
e) dark blue or purple
f) white
g) brown or gray

9.ก่อนที่จะหลับ มักจะอยู่ในท่านอนแบบไหน
a) ยืดตัวตรง
b) ยืดตัว หน้ามองที่ท้อง
c) เอียงข้าง นอนขด
d) นอนเอาหัวทับแขนข้างหนึ่ง
e) คลุมโปง

10. ฝันแบบไหนบ่อยๆบ้าง
a) ฝันไม่ค่อยดีเหมือนกำลังดิ่งลงไปเรื่อยๆ
b) กำลังต่อสู้
c) กำลังค้นหาใครหรือสิ่งใด
d) บินหรือกำลังลอยอยู่
e) ไม่ค่อยฝัน
f) ฝันแต่สิ่งที่ดี
เฉลยและคะแนนอยู่ในคอมเมนต์

ทายนิสัยจากวันเกิด

วันนี้ขอบันเทิงหน่อยนะ ลงบทความวิชาการมาหลายครั้งแล้ว ประเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน อิอิ

เกิดวันที่ 1
คุณเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดเสียทุกอย่าง เวลาที่ทุ่มกับอะไรแล้ว คุณจะลืมแม้กระทั้งจะกินจะนอน ไฟของคุณในส่วนนี้น่าชมเชยมาก แต่ขอติงซักหน่อยตรงที่คุณขี้เบื่อจังเลย จะรักใคร่ใหลหลงกับคนที่คุณรู้สึกประทับใจในครั้งแรกที่พบกัน ไม่ต้องการที่จะศึกษาหรือดูใจอะไรกันล่ะ ส่วนคนที่คุณไม่ชอบหน้าเสียตั้งแต่แรกแล้ว คุณก็จะไม่มีวันทำใจให้คบหาสมาคมกับเขาหรือเธอได้เลย ไม่ว่าความรักหรือการสมาคม คุณก็จะรักจริงเกลียดจริง และเก็บความรู้สึกไม่เป็นด้วย ถ้าได้ทะเลาะกันก็จะรุนแรงขนาดมองหน้ากันไม่ติดอีกเลย
เกิดวันที่ 2
คุณมีไอเดียและประสาทสัมผัสที่เป็นเลิศ แต่กลับนำมาประยุกต์ใช้ได้ไม่เก่งและไม่เต็มที่ ซึ่งคงเป็นเพราะคุณยึดถืออยู่กับอุดมการณ์มากไป รวมทั้งเก็บตัวจนเกินไปด้วย แต่เนื่องจากคุณเป็นคนฉลาดและสุขุม จึงไม่มีปัญหาในเรื่องอารมณ์ชั่ววูบพาไปแน่ จะค่อยๆ รักอย่างช้าๆ เงียบๆ บางที่รักเขาข้างเดียวเสียตั้งนาน เป็นคนโรแมนติก และเป็นผู้ให้แบบมอบกายถวายชีวิตซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียวเสียด้วย
เกิดวันที่ 3
แม้คุณจะบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และโรแมนติก แต่การแสดงออกของคุณนั้นดูเป็นคนกระฉับกระเฉงและก๋ากั่น ด้วยนิสัยที่ขัดกันอยู่ในตัว ซึ่งคุณเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง นี่แหละทำให้คนอื่นๆก็เข้าใจคุณยากหนักเข้าไปใหญ่ แต่ลึกๆ แล้วคุณช่างระแวดระวังและมีความอดทนมาก จะมีความรักที่ยิ่งใหญ่จนชาวบ้านตกตะลึงพรึงเพริด ถ้าคุณปักอกปักใจกับใครแล้ว ใครก็ตามอย่าได้มาห้ามคุณเสียให้ยากเลย คุณเชื่อมั่นในตนเองเป็นที่สุด และพร้อมเสมอที่จะหนีตามกัน หากผู้ใหญ่คัดค้าน
เกิดวันที่ 4
คุณเป็นคนคิดอย่างรอบคอบเสียก่อนจึงลงมือทำ จึงไม่ค่อยพบความผิดพลาดเท่าไหร่ แต่ด้วยความขี้ระแวงของคุณที่มีมากจนเกินไปนี่แหละ ที่ทำให้คุณเบรกตัวเองบ่อยเกินความจำเป็น เลยทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าคุณค่อนข้างเป็นคนขวางๆ ทั้งที่โดยปกติแล้วคุณก็ร่าเริง และคบกับใครได้ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ดูคุณสงบเสงี่ยมแบบนี้ เวลามีความรัก คุณจะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย และคุณอาจจะพบรักกับคนที่ใครๆ คิดไม่ถึง หรือไม่ก็พบรักแบบ กะทันหัน หลังจากไปเที่ยวแค่ 3 วัน 5 วัน คือมักจะมีความรักที่บังเอิญและน่าเซอร์ไพร้ส์
เกิดวันที่ 5
แม้คุณจะไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่คุณกลับชอบสิ่งที่ท้าทายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คุณจะไม่มีวันทนได้หรอกกับความซ้ำซากจำเจ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังไม่ชอบขอความเห็น หรือความช่วยเหลือจากใครด้วย คุณถือว่าชีวิตคุณ คุณต้องเป็นคนลิขิตเอง และคุณก็ยังมีสายตาอันแหลมคมอีกด้วยสิ ถ้าคุณนึกรักใครแล้ว คุณจะเดินหน้าทันที แต่คุณขี้หึงและชอบเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ตลอดจนอยากที่จะผูกมัดคนรักเอาไว้ชนิดดิ้นไม่หลุด ยิ่งถ้าเจอคู่แข่งด้วยแล้ว ก็ยิ่งเหมือนเติมเชื้อไฟให้คุณทันที บรื้อออออ
เกิดวันที่ 6
คุณเป็นคนโอบอ้อมอารีมีจิตใจงดงาม และชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่บางทีก็มากเกินไป จนกลายเป็นชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ดูผิวเผิน คุณจะเป็นคนเงียบๆเฉยๆ แต่พอเข้าตาจน คุณกลับมีความกล้าและใจป้ำเสียจนคนรอบข้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ และจินตนาการของคุณก็แปลกแหวกแนวเหลือเกินด้วยซิ มักจะมีความรักที่เรียบง่ายไม่หวือหวา แต่เป็นความรักที่เปิดเผยสดชื่น เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่าคนรักที่จี๋จ๋า หวานจ๋อย และความรักของคุณก็มักจะพัฒนามาจากความเป็นเพื่อน ตลอดจนความใกล้ชิดกันด้วย
เกิดวันที่ 7
คุณมีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลม ไวต่อความรู้สึกต่างๆ แต่เก็บอารมณ์ได้อย่างมิดชิด เป็นคนเรียบเฉย ไม่ชอบอะไรที่โอเวอร์ แต่ส่วนลึกของจิตใจแล้วกลับทิฐิ และหลงตัวเองด้วย ก็เลยเป็นคนมีมานะและสู้สุดฤทธิ์เลยแหละ คุณมีความกล้าอย่างเหลือเฟือ ชนิดคนรอบข้างคาดคิดไม่ถึง และจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนรักได้เร็วมากด้วย
เกิดวันที่ 8
คุณเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์เป็นเยี่ยม เป็นคนเด่นที่อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนชื่นชม แถมหัวไว ฉลาดปราดเปรื่อง และมีความคิดที่แหวกแนวไม่เหมือนใครอีกด้วย แต่เสียอยู่หน่อยตรงที่คุณขี้เบื่อและไม่มีความแน่นอน เลยทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนได้บ้างในบางครั้ง ป็นยอดนักรักที่มักเที่ยวไปตกหลุมรักใครต่อใครอยู่เสมอ ซึ่งก็มักสมหวังในรักเสียด้วยซิ คุณจะหลงรักคนที่มีรสนิยมดี และไม่เคยพอที่จะมีคนรักเพียงคนเดียว แม้ความรักของคุณจะเร่าร้อนรุนแรง และก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็อยู่ได้ไม่ยั่งยืนนักนะ
เกิดวันที่ 9
คุณเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่งหรือประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะ คุณไม่ทราบว่าจะแสดงความเป็นตัวคุณให้ชาวบ้านเขารู้ได้อย่างไรนั่นเอง หรือจะพูดไปอีกทีคุณอาจจะไม่สนใจว่า ใครเขาจะมอง จะคิดกับคุณยังไงก็ได้ คุณจึงถูกเข้าใจผิดได้ง่ายในตอนต้นๆ โดยธาตุแท้แล้วคุณเป็นคนร่าเริง แต่ในสายตาของเพศตรงข้ามคุณคือคนที่ลึกลับ เต็มไปด้วยปริศนา ชวนให้ศึกษาและค้นหาเป็นอย่างยิ่ง คุณหัวไว และฉลาดเฉลียวเป็นอย่างมาก แต่เพื่อนๆ กลับรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เข้าใจยาก ไม่รู้ว่าใจจริงของคุณคิดอะไรอยู่กันแน่ มักไม่ยอมบอกหรือแสดงให้คนที่คุณรักรู้หรอกว่าคุณรักชอบอีกฝ่าย แต่มักจะเฝ้าฝันถึงคนๆ เดียว อยู่นานหลายปีดีดักหรือชั่วชีวิต หรือไม่ก็ไม่สามารถที่จะลืมคนรักคนแรกได้ แต่คุณก็เอาจริงเอาจังและรับผิดชอบในความรู้สึกของคนรักคนปัจจุบัน ซึ่งจะไม่มีวันนอกใจ หรือทรยศอีกฝ่ายได้เลย แถมคุณยังมีโชคในเรื่องลูกอีกด้วย
เกิดวันที่ 10
คุณเป็นคนที่มีความสามารถและทำงานเก่ง ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงเก่งขนาดมีชื่อเสียงโด่งดังเลยละ หรือถ้าเป็นผู้ชายก็จะก้าวพรวดๆ สู่ชื่อเสียงและเกียรติยศตลอดจนฐานะอันโดดเด่นในสังคม คุณทนไม่ได้ที่จะต้องเป็นผู้ตามใคร เป็นคนไวต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และยังมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย จึงสามารถสร้างสิ่งแปลกๆใหม่ๆ สิ่งแล้วสิ่งเล่าออกมาป้อนสังคม แม้เรื่องการแต่งตัวคุณก็ไม่มีพลาด จะนำสมัยและเนี้ยบตลอดกาล เป็นคนขี้หึงขี้หวง พอมีคนรักทีไรคุณก็อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แถมยังหัวรั้นมีทิฐิมากกกก ปากอย่างใจอย่าง ฟอร์มจัด เลยมักทำให้พลาดโอกาสในเรื่องความรักหรือสูญเสียคนรักไปอย่างน่าเสียดายบ่อยๆ
เกิดวันที่ 11
คุณเป็นคนสง่างามและสมบูรณ์แบบ เป็นผู้ดีและสุขุมเยือกเย็น จึงทำให้ใครต่อใครพากันเชื่อถือคุณ และอดอิจฉาคุณไม่ได้ คุณจะไม่ยอมฝืนหรือดันทุรังเด็ดขาด แต่จะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับคนรอบๆข้างได้เป็นอย่างดี เป็นคนใจดีมีเมตตา เกลียดความไม่ดีไม่ถูก ไม่ควรทั้งหลาย และเป็นคนมีคุณธรรมอย่างมาก คนที่คุณรักแล้ว คุณจะมอบทั้งกายและใจให้หมด มีความอ่อนโยนและเอาใจใส่คนรักไม่เคยขาด ซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียว คุณสามารถที่จะทุ่มเทให้กับคนรักได้ทั้งชีวิต และยังสามารถรักใครคนใดคนหนึ่งได้ตลอดไปโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายด้วย
เกิดวันที่ 12
คุณเป็นคนร่าเริง มีอารมณ์ขันและเต็มไปด้วยไฟในการทำสิ่งต่างๆ คุณมักไม่ยึดติดกับเรื่องหยุมหยิมน่ารำคาญ เป็นคนใจกว้าง ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย เป็นพวกพฤติกรรมนิยม แต่มักจะใจร้อน ซุ่มซ่าม และขี้โมโห จนสูญเสียความเชื่อถือจากคนอื่นๆ อย่างน่าเสียดาย ถ้าคุณชอบใครแล้ว คุณจะไม่สนเลยว่าอีกฝ่ายจะชอบคุณด้วยหรือเปล่า คุณจะเดินหน้าท่าเดียวจนทำให้เขาหรือเธอแทบทนไม่ได้ หรือถึงแม้ว่าต่างคนต่างจะชอบกันก็แล้วแต่ หากว่าเวลาที่คุณอยู่ด้วยกันนั้น คุณตั้งท่าแต่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบและต้องการ จึงมักจะขัดแย้งกับคนรักบ่อยๆ นอกจากนี้คุณยังเป็นประเภทรักง่ายหน่ายเร็วด้วยนะ
เกิดวันที่ 13
คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีการเสแสร้งหรือปรุงแต่งกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น คุณเกลียดการป้อยอและโปรยเสน่ห์ไม่เลือกที่เลือกทางเป็นที่สุด ไม่ชอบอยู่ในกรอบที่คนอื่นตีล้อมเอาไว้ รักอิสระมากเสียจนต้องสะดุดและพบกับความผิดพลาดไม่น้อย นอกจากนี้คุณจะพูดและแสดงออกกับทุกๆ คนอย่างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ เกลียดก็บอกว่าเกลียด อ้อมค้อมไม่เป็น โกหกไม่เป็น แต่คุณไม่ค่อยเกลียดใครหรอก ในเมื่อคุณเป็นคนจริงใจแบบนี้ แม้บางครั้งจะขวานผ่าซากบ้าง แต่ใครต่อใครก็รักใคร่ชอบพอคุณนะ ปิดเผยและสนิทสนมได้กับทุกคน ใจดีอ่อนโยนและเอาใจเขามาใส่ใจเราอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่โปรยเสน่ห์เรี่ยราด ก็เนื้อหอมในสายตาของเพศตรงข้ามเสมอ จึงมักถูกเข้าใจผิดในเรื่องความรักบ่อยครั้ง
เกิดวันที่ 14
คุณเป็นตัวของตัวเองมาก มากเสียจนไม่ค่อยจะสนใจอะไรรอบๆ ข้าง แต่ถ้าหากต้องมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกหรือเข้าข้างฝ่ายใดแล้วละก็ คุณก็จะเลือกเข้าฝ่ายที่เป็นต่อ แต่คุณก็ใช่ว่าจะฉลาดแกมโกงไปเสียหมดหรอกนะ โดยปกติแล้วคุณเป็นคนที่มีน้ำใจและขี้สงสารอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ผลประโยชน์มันมีความหมายกับคุณมากกว่าสิ่งอื่นใดนั่นเอง จินตนาการของคุณก็เลิศล้ำไม่เหมือนใคร และยังจะชอบที่จะลงมือกระทำทันทีด้วย จะไม่มีวันแยแสหรือเห็นอกเห็นใจคนที่มาหลงใหลคุณ แต่ตัวคุณเองไม่ชอบขี้หน้าฝ่ายนั้นแน่ๆ เรื่องความรักคุณไม่มีวันใจอ่อนเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณเกิดรู้สึกรักใครละก็ คุณจะถึงกับเบรกตัวเองไม่อยู่เลยทีเดียว หลังจากที่คุณชั่ง ตวง วัด และคำนวณแล้วว่า คนนี้คือคนที่คุณเลือก
เกิดวันที่ 15
คุณเป็นคนที่ชอบแสดงออก และชอบเป็นจุดเด่นอย่างแท้จริง จึงดูเป็นคนที่ค่อนข้างจะฉูดฉาด จัดจ้านและกะล่อน แต่ธาตุแท้แล้วคุณเป็นคนแข็งแกร่ง ไม่ติดใจกับเรื่องจุกจิก แต่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้นำและทำให้คนอื่นคล้อยตามตนเอง ไม่งั้นคุณจะหงุดหงิดเป็นที่สุด ยิ่งถ้าอีกฝ่ายทำแข็งขืน กระด้างกระเดื่องกับคุณแล้วละก็ คุณเป็นต้องโมโหฉุนเฉียวอย่างระงับไม่อยู่เลยแหละ อารมณ์คุณขึ้นๆ ลงๆ หลายใจอีกต่างหาก เลยเที่ยวไปตกหลุมรักคนนั้นคนนี้ทั่วไปหมด แต่ก็ชอบอยู่ได้ไม่นานหรอกมักมีอันจะต้องเปลี่ยนใจ ไปชอบของใหม่ๆ อยู่ร่ำไป นิสัยส่วนนี้นี่แหละที่จะทำให้คุณเสียโอกาสและเสียคนดีๆ ไป
เกิดวันที่ 16
คุณมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ของความถูกต้องและความเหมาะสมไปหมด แทนที่ให้ความชอบของตัวเองเป็นใหญ่ในบางครั้ง นั่นคงเป็นเพราะคุณเป็นคนประเภทนิยมความสมบูรณ์แบบนั่นเอง คุณจึงเป็นคนคิดมาก ใครพูดอะไรก็เก็บเอามาคิด นอกจากนี้คุณยังมีเอกลักษณ์อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งจะถูกมองได้ง่ายว่าเป็นคนแปลกประหลาด แต่นิสัยโดยทั่วไปนั้น คุณเป็นคนอยากรู้อยากเห็น และมักจะมีความฝันอันยิ่งใหญ่ ซึ่งคุณจะไม่เสียดายเวลาและความพยายามที่จะทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริงขึ้นมาเลย มักจะไปหลงรักเอาคนที่คนรอบข้างแปลกใจ หรือไม่ก็ถูกคนที่มีอายุมากกว่ามากๆ มาหลงรัก นอกจากนี้ความรักของคุณก็อาจจะพัฒนามาจากความเป็นเพื่อนทีละนิดๆ นานวันเข้าก็กลายเป็นคนรักโดยปริยาย แต่จะไม่มีรักแรกพบแน่ๆ สำหรับคุณ
เกิดวันที่ 17
คุณไม่ชอบที่จะให้ใครมายุ่งหรือมีส่วนกับวิถีชีวิตของคุณ และคุณก็ไม่ชอบสนใจเรื่องของใครด้วย แต่เนื่องจากเป็นคนเข้าสังคมเก่ง และชอบเที่ยว แถมยังคุยสนุกด้วย คุณจึงมีเพื่อนมากมาย ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่บ่อยครั้งที่คุณทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นๆ หรือทำอะไรที่เกินพอดีไป ทั้งที่คุณเองก็ถือว่านั่นเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่คนรอบข้างเขาจะมองว่าคุณเอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยน่าคบได้นะ จากนิสัยที่ไม่จุกจิกจู้จี้ ทั้งยังเฮฮาถึงไหนถึงกัน คุณจึงมีเพศตรงข้ามมาทอดสัมพันธ์ให้อย่างมากมาย และในจำนวนนั้นก็มีคนหลายๆแบบที่น่าสนใจเสียด้วย คุณจึงมักที่จะต้องกลุ้มใจกับความโชคดีของตนที่มีคนดีๆ มาให้เลือกมากเสียจนเลือกไม่ถูก
เกิดวันที่ 18
ดูเพียงผิวเผิน คุณจะเหมือนคนที่พูดน้อยและสงบเสงี่ยม แต่ที่จริงแล้วคุณเป็นคนร่าเริงไม่น้อยทีเดียว เพียงแต่ว่าความร่าเริงของคุณค่อนข้างจะมีเงื่อนไข คือมันจะถูกแสดงออกตอนที่คุณอารมณ์ดีเท่านั้น ถ้าคุณหงุดหงิดคุณจะน่ากลัวและไม่มีใครเข้าใกล้ คนรอบๆ ตัวคุณจึงรู้สึกว่าคุณคบยาก ซึ่งก็เป็นเพราะคุณใช้อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาจนเกินไปนั่นเอง ในตอนแรกคุณคงแสดงให้ใครรู้ได้ยากว่าคุณชอบอีกฝ่าย ส่วนอีกฝ่ายก็หาจังหวะที่จะแสดงให้คุณทราบไม่ค่อยได้เหมือนกัน เพราะคุณเป็นคนประเภทผีเข้าผีออก ก็เลยมักสวนทางกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเป็นที่เข้าอกเข้าใจและรู้สึกชอบพอ ตลอดจนความคลั่งไคล้จากเพศตรงข้ามได้ เพราะที่จริงแล้วคุณเป็นคนจริงใจนั่นเอง
เกิดวันที่ 19
คุณเป็นคนเก่ง มักจะจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ด้วยดี จึงทำให้ใครต่อใครพากันเชื่อถือและหวังพึ่งพาคุณ แต่เนื่องจากคุณเก่งไปหมดนี่เอง บางครั้งคุณจึงอดที่จะหยิ่งยโสและหลงตัวเองไม่ได้ บางครั้งคุณก็มั่นใจในตัวเองมากเสียจนกลายเป็นประมาทเลินเล่อได้ ซึ่งจะพาให้คุณพบกับความผิดพลาดได้ นอกจากนี้คุณยังเกลียดการถูกผูกมัดเป็นที่สุด และจะให้ความสำคัญกับการใช้ชีวตอย่างอิสระและตามใจตัวเองมาก มักจะมีความรักที่แปลกแหวกแนวจนคนรอบข้างแทบช็อค คือถ้าคุณชอบใครแล้วคุณจะเหมือนคนบ้าที่ไม่ยอมคิดหน้าคิดหลังเลยกับคนรัก แม้จะมีเรื่องกันค่อนข้างบ่อยครั้งและรุนแรง แต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ในทันที
เกิดวันที่ 20
คุณเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็น เอาจริงเอาจังและไตร่ตรองอย่างละเอียดก่อนลงมือทำเสมอ คุณเป็นคนรอบคอบ กว่าจะพูดหรือทำอะไรแต่อย่าง ทั้งที่ใจอยาก แต่คุณก็จะใช้เวลานาน คุณถือคติปลอดภัยไว้ก่อน แม้จะมีเรื่องลำบากใจ คุณก็จะกัดฟันทนและจะมีความฝัน ตลอดจนอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่อยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคุณถือว่ามิตรภาพและเพื่อนมีค่ามากกว่าสิ่งใดทั้งหมด ว่าคุณจะคบใครสักคน คุณจะต้องไตร่ตรองและศึกษาคนๆ นั้นอย่างถ่องแท้เสียก่อน คุณไม่เรียกร้องอะไรที่เกินความสามารถจากคนรักเลย ตัวคุณเองก็แสดงออกตรงกับใจเสมอแม้จะมีความรักที่ไม่หวือหวาตื่นเต้น แต่คุณจะค่อยๆรั กมากขึ้นและลึกซึ้งขึ้นทีละนิด
เกิดวันที่ 21
คุณสนอกสนใจกับสิ่งรอบตัวไปเสียหมด การคบค้าสมาคมของคุณก็ขึ้นอยู่กับการคล้อยตาม และเอาอกเอาใจอีกฝ่ายจนเข้าขั้นโปร่ยเสน่ห์ไม่เลือกที่ คุณร่ำรวยรอยยิ้มและเออออไปกับใครๆได้หมด ถึงจะมีเรื่องไม่สบอารมณ์บ้างคุณก็จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี คุณจึงเป็นที่รักของทุกๆ คน จะอาภัพในเรื่องนี้ไปซักหน่อยตรงที่มักจะได้รับรักจากคนที่คุณไม่ได้ชอบเลยซักนิด แต่คนที่คุณเก็บไปนั่งฝันนอนฝันเป็นแรมปีนั้นกลับไม่สนคุณเลย จึงเกิดเหตุการณ์เดินสวนทางกันอย่างนี้เสมอ ส่วนความรักของตัวคุณองก็มักจะขึ้นๆ ลงๆ เอาใจลำบากด้วย จนบางครั้งคุณยังไม่เข้าใจเลยว่าชอบหรือไม่ชอบใครกันแน่
เกิดวันที่ 22
คุณมีความป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม แม้บางครั้งจะค่อนข้างถือเอาความคิดและความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ก็ตาม แต่เนื่องจากคุณมีความสามารถและเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง จึงเป็นที่เกรงอกเกรงใจและเชื่อถือของทุกๆ คน พวกเขามักจะยอมให้กับความหัวรั้นของคุณอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่าทำตามที่คุณบอกแล้วจะไม่มีคำว่าผิดหวัง คุณจึงกลายเป็นคนที่น่าสนใจ เพราะมีบุคลิกที่โดดเด่นนั่นเอง ป็นคนรักจริงเกลียดจริง ถ้าไม่ชอบใครแล้วคุณจะไม่ยอมแม้แต่จะคุยด้วย คนที่คุณคบอยู่นี้เป็นคนที่คุณเลือกแล้วทั้งสิ้นว่าคุณพอใจ นอกจากนี้ถ้าคุณถูกนอกใจหรือทรยศหักหลัง คุณจะต้องหาทางแก้แค้นอย่างแน่นอน
เกิดวันที่ 23
คุณเกลียดการพึ่งพาคนอื่นและการถูกบังคับให้อยู่แต่ในกรอบเป็นที่สุด แต่คุณจะชอบผจญภัยและสัมผัสกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ อย่างกล้าหาญ ถึงจะมีอะไรโอเว่อร์บ้าง แต่คนรอบข้างก็ไว้เนื้อเชื่อใจและยกให้คุณเป็นคนสำคัญของกลุ่ม คุณเป็นคนที่ชอบความตื่นเต้นนี่เอง จึงทำให้คุณมีรักต้องห้ามได้ง่าย อย่างเช่นรักคนที่มีเจ้าของแล้ว หรือคนที่ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเป็นคนรักของคุณได้ แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ คุณจะวิ่งเข้าชนเต็มที่เมื่อคุณถูกคัดค้านหรือถูกห้ามปราม นอกจากนี้คุณยังเป็นคนที่เสน่ห์แรงแต่ไม่รู้ตัว
เกิดวันที่ 24
คุณเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างเหลือเกิน จึงมักจะได้สัมผัสกับสิ่งที่น่ายินดีและชื่นใจ คุณชอบและเก่งกับการทำให้คนอื่นๆ พลอยมีความสุขและสนุกสนานไปด้วยจึงเข้ากับทุกคนได้ดี และขวัญใจของใครๆ ภายในกลุ่ม แล้วคุณจะเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจและเป็นที่พึ่งของทุกๆ คน ป็นคนที่หลงระเริงกับความรัก บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้ชอบคนรักของคุณหรอก แต่คุณอยากมีความรักต่างหาก จึงแสดงออกว่า คุณทั้งสองสวีทและรักกันปานจะกลืนกิน นอกจากนี้คุณยังมักจะพบกับปัญหาที่ไม่อาจจะลืมใครบางคนได้ แต่เนื่องจากคุณเป็นคนที่มีเสน่ห์และโรแมนติก คนรักปัจจุบันจึงไม่อาจที่จะให้หลงใหลคุณได้
เกิดวันที่ 25
คุณเป็นคนที่มีความมานะบากบั่นเป็นเยี่ยม แม้จะพบกับอุปสรรคใดๆ ก็แล้วแต่ คุณไม่เคยย่อท้อที่จะเอาชนะมัน นอกจากนี้คุณยังเป็นคนคิดจริงทำจริงไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย ทั้งยังมีความรับผิดชอบเป็นอย่างดี หนักเอาเบาสู้ คุณจึงพบกับความสำเร็จในบั้นปลายหลังจากที่เพียรพยายามมาเป็นเวลานาน จะมอบกายถวายชีวิตให้กับคนที่คุณรัก คนรักของคุณมาเป็นที่ 1 เสมอ คุณให้ความสำคัญกับคนรักมากกว่าตัวเองเสียอีก คุณจึงมีความรักที่ยิ่งใหญ่ก่อนคนในวัยเดียวกัน และมักจะแต่งงานเร็วด้วยสิ
เกิดวันที่ 26
คุณเป็นคนมีไฟเร่าร้อนรุนแรงกับทุกเรื่อง อยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด แต่ก็เบื่อง่ายกับเรื่องคบค้าสมาคม คุณเป็นคนรักจริง เกลียดจริง ไม่มีวันที่จะทนคบกับคนที่คุณรู้สึกไม่ชอบอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้คุณยังเกลียดความธรรดาและความจำเจ ชอบอะไรที่แปลกใหม่ น่าตื่นเต้นและอยู่เฉยๆไ ม่เป็น ต้องหาเรื่องไปไหนมาไหนตลอดเวลา คุณจะรักง่ายแล้วก็หน่ายเร็ว เวลารักก็จะรักอย่างหัวปักหัวปำ แต่ไม่นานหรอกคุณก็จะเบื่อและมองหาคนใหม่ คุณจึงคบกับใครไม่ได้นานสักคน
เกิดวันที่ 27
คุณเป็นคนที่มีจิตใจเปราะบางและถูกระทบกระทั่งได้ง่ายเสียจริงๆ อะไรนิดอะไรหน่อยคุณก็จะคิดมากและเศร้าโศกเสียใจได้ง่ายๆ คุณมองโลกในแง่ร้าย เจออุปสรรคกน้อยคุณก็โอดครวญว่าไม่ไหวแล้ว ดูภายนอกคุณอาจจะเหมือนคนเย็นชา แต่ที่จริงแล้วคุณใจดีและมีน้ำใจนะเนี่ย วลาออกเดทกับคนรัก คุณไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะแต่งตัวยังไง แต่คุณจะเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ชนิดดารา hollywood ยังอายเลย กับคนรักแล้วคุณจะเอาแต่ใจตัวเองและอ้อนคนรักมาก บางครั้งก็มากเกินไปนะ
เกิดวันที่ 28
คุณมักจะลังเลและคิดมากเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังขี้ขลาดและไม่เคยกล้าที่จะลองเสี่ยงกับอะไรเลย บางอย่างทั้งที่คุณทำได้หากพยายามสักนิด แต่คุณกลับประเมินค่าตัวเองต่ำๆ และตัดใจไม่ยอมทำเสียดื้อๆ คุณจึงมักพลาดโอกาสดีๆ เพราะมัวแต่มองโลกในแง่ร้ายนี่เอง มิหนำซ้ำยังเจ้าน้ำตาอีกด้วย ไม่ค่อยจะมีโชคในเรื่องนี้เท่าไหร่เลย กับคนที่คุณชอบเขา เขาก็ไม่ชอบตอบ แต่กับคนที่คุณอยากจะหนีเขาไปให้ไกลก็กลับมาตื้อให้คุณรำคาญอยู่ได้ รวมความแล้วความรักของคุณมันลุ่มๆ ดอนๆ แม้จะมีรักพบได้ง่าย แต่ไม่เท่าไหร่คุณก้อจะนึกปอดแล้ววิ่งหนีเสียก่อน
เกิดวันที่ 29
คุณมีประสาทสัมผัสที่ 6 อันเฉียบไวยอดเยี่ยม ลางสังหรณ์ก็แม่นยำอยู่เสมอ คุณเกลียดความธรรมดา จึงไขว้คว้าหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้ตัวเองได้คลั่งไคล้อยู่เสมอ ไอเดียที่แปลกใหม่ของคุณก้อมีอยู่อย่างเหลือเฟือ คุณจึงมักมีความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งที่ชาวบ้านเขาคาดคิดไม่ถึง แต่บางทีคุณจะรู้สึกเบื่อโลกและเบื่อคน แค่คุณมองตาอีกฝ่าย คุณก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จึงทำให้คุณกลายเป็นคนขี้ระแวงและขี้หึง เลยมักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนรักบ่อยๆ ทั้งที่สิ่งที่คุณระแวงซึ่งคุณเชื่อว่าเป็นลางสังหรณ์อันดีเยี่ยมของคุณนั้น กลับเป็นเพียงความคิดมากจนเกินไปของคุณ
เกิดวันที่ 30
คุณเข้าสังคมเก่งเลยมีเพื่อนเยอะ นิสัยโดยทั่วไปของคุณก็ทำให้ใครต่อใครพากันมาชื่นชอบและอยากจะคบค้ากับคุณไปหมด นอกเสียจากว่าบางครั้งที่คุณหัวดื้อหัวรั้นไม่ยอมฟังความคิดเห็นของใครเลย ซึ่งอาจทำให้เพื่อนๆ พากันผิดหวังบ้างก็ได้ แต่ส่วนดีของคุณมีมากกว่า เป็นอันว่าลบล้างกันไปได้ ยากที่จะมีความรักซึ่งตัวเองเป็นผู้คุมเกมและเป็นผู้นำตลอด ถ้าเป็นผู้ชายก็เข้าข่ายเผด็จการ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยให้เกียรติคนรักเท่าไหร่ เขาขอแต่งงานก็มักเล่นตัวอยู่นาน หรือถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่ค่อยจะยอมขอใครแต่งงานง่ายๆ
เกิดวันที่ 31
เห็นคุณทำหน้าเศร้าอยู่ดีๆ สักครู่ก็หัวเราะลั่นเสียแล้ว ถ้าใครรู้จักคุณมาก่อนก็ไม่แปลกเลย เพราะอารมณ์ของคุณขึ้นได้สูงสุดและลงได้ต่ำสุดในเวลาที่ใกล้เคียงกันมาก จนใครต่อใครเอาใจคุณไม่ถูก และรู้สึกว่าคนอย่างคุณเข้าใจยาก คุ้มดีคุ้มร้ายไม่มีใครสามารถจะคาดการณ์ หรือเดาได้เลยว่าคุณกำลังคิดหรือต้องการอะไรอยู่ ทั้งที่ตัวคุณเองก็เป็นคนเอาจริงเอาจังดีกับทุกๆ เรื่อง ว่าคุณจะรักใครนั้นต้องใช้เวลามาก แต่เมื่อนึกชอบแล้ว คุณจะรุกไม่ยาก ตามตื้ออีกฝ่ายโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ต่อให้อีกฝ่ายปฏิเสธคุณ คุณก็จะไม่ยอมตัดใจหรือเลิกราง่ายๆ หรอก

เป็นไงกันบ้าง ตรงบ้างรึปล่าว ก็อ่านกันขำๆนะ

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

นักดาราศาสตร์พบดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลก

นักดาราศาสตร์ยุโรป ได้ค้นพบดาวเคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะจักรวาล โดยผลการค้นพบดังกล่าวเชื่อว่าดาวเคราะห์ดวงนี้อาจมีลักษณะเป็นหินแข็งและมี บรรยากาศบางๆ คล้ายโลกของเรา นอกจากนี้ นักดาราศาสตร์ยังพบว่าดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นดาวบริวารของดาวฤกษ์ที่มีลักษณะ คล้ายดวงอาทิตย์ แต่เล็กกว่า ให้แสงสว่างน้อยกว่า และเย็นกว่าดวงอาทิตย์ของโลกเรา



ดาว เคราะห์ดวงที่ถูกค้นพบนี้มีอัตราการเคลื่อนที่ที่ค่อนข้างเร็วมาก โดยโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงดังกล่าว นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้น นักดาราศาสตร์เชื่อว่าสภาพอุณหภูมิบนดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะไม่ร้อนและไม่ หนาวเกินไป ซึ่งคล้ายกับบนโลกของเรา จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้นักดาราศาสตร์มีความคิดว่าดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะเป็นแหล่งที่มนุษย์ สามารถสร้างถิ่นฐานอาศัยนอกระบบสุริยะของเราได้ นอกจากนี้ ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดที่ใกล้เคียงกับโลกด้วย

จาก ผลการค้นพบดาวเคราะห์ใหม่นี้ นักดาราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ทำให้เราใกล้จะค้นหาคำตอบของคำถามที่มีการถามมาโดยตลอดว่า ในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ มีแต่มนุษย์เท่านั้นหรือไม่

ไมเคิล เมเยอร์ นักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเจนีวา ซึ่งเป็นหนี่งในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ยุโรปจำนวนสิบเอ็ดคนที่เป็นผู้ค้นพบดาว เคราะห์ดวงใหม่นี้ กล่าวว่าการค้นพบดังกล่าวเป็นสิ่งชัดเจนว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางการค้นพบ สิ่งมีชีวิตในจักรวาล อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำถามที่ต้องค้นหาคำตอบอีกมากมาย ซึ่งยังคงมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้เกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงใหม่นี้

ในขณะที่ อลัน บอส นักดาราศาสตร์แห่ง Carnegie Institution of Washington และเป็นหนึ่งในทีมงานค้นหาดาวเคราะห์จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มาก

ดาว เคราะห์ดวงนี้ได้ถูกค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ยุโรปที่หอดูดาว "European Southern Observatory" ที่เมือง ลา-ซิลลา ประเทศชิลี โดยสิ่งที่พวกเขาได้ค้นพบคือดาวเคราะห์ดวงนี้โคจรรอบดาวแคระแดง Gliese 581 (ดาวแคระแดง Gliese 581 ซึ่งเป็นหนึ่งในร้อยของดาวที่ใกล้โลกที่สุด ห่างจากโลกประมาณ 20.5 ปีแสง ในกลุ่มดาวตาชั่ง Libra ดาวแคระแดง Gliese 581 จะมีสีแดงเรื่อๆ แสดงถึงการมีพลังงานที่ต่ำ แต่จะให้แสงนานกว่าดวงอาทิตย์ของเรา)


ดาว เคราะห์ดวงใหม่นี้มีชื่อว่า 581C มีน้ำหนักประมาณ 5 เท่าของน้ำหนักโลก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าประมาณ 1.5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางโลก และคาดว่ามีแรงโน้มถ่วงประมาณ 1.6 เท่าของแรงโน้มถ่วงโลก แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีสภาพธรณีวิทยาเหมือนกับโลกหรือไม่ หรือมีก้อนน้ำแข็งกับน้ำอยู่บนพื้นผิวหรือไม่

จาก ทฤษฎี 581C ควรมีชั้นบรรยากาศ แต่ว่าชั้นบรรยากาศนี้ประกอบด้วยอะไรยังเป็นสิ่งที่ค้นหาอยู่ และถ้าชั้นบรรยากาศหนามากเกินไปก็อาจจะทำให้พื้นดาวเคราะห์นี้ร้อนเกินไป ด้วย อย่างไรก็ตามทีมนักวิจัยเชื่อว่าอุณหภูมิเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส


อย่าง ที่เราทราบกันว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เนื่องจากอุณหภูมิและความคล้ายที่ใกล้เคียงกับโลกของเรา ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของภารกิจด้านอวกาศใน อนาคต เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่อย่างไรก็ตามนักดาราศาสตร์อีกหลายท่านได้กล่าวเตือนว่ามันเร็วเกินไปที่ จะบอกว่ามีน้ำบนดาวเคราะห์ดวงนี้

คริสต์ แม็คเคย์ ผู้วชาญด้าน Astrobiology ขององค์การอวกาศนาซา แต่ไม่ได้อยู่ในทีมที่ค้นพบดาวเคราะห์ได้กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้หรือไม่ แต่มันหมายถึงการที่ดาวเคราะห์นี้มีศักยภาพเพียงพอที่เราจะอาศัยอยู่ได้ต่าง หาก

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เขาว่ากันว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้ !!

เป็นโจทย์ปัญหาของ อัลเบิร์ท ไอสไตน์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกเรา...
> และว่ากันว่ามนุษย์ทั้งโลก 98% ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
> แหม...แบบนี้มันท้าทายว่าเราจะเป็น 2% ตอบได้หรือเปล่า
> ....มาลองทำดีกว่า
>
>
>
>
>
>
>
> โจทย์ !!
> เรื่องมีอยู่ว่ามีบ้านอยู่ 5 หลัง
> ในแต่ละหลังมีสีต่างกัน
> แต่ละบ้านมีคนอยู่ 1 คน
> ต่างกัน 5 ชนชาติ
> ทุกคนจะดื่มน้ำที่แตกต่างกัน
> สูบบุหรี่ยี่ห้อแตกต่างกัน
> และเลี้ยงสัตว์ต่างชนิดกัน ดังนี้
>
> 1. คนที่เป็นชาวอังกฤษอยู่บ้านสีแดง
> 2. คนที่เป็นชาวสวีเดนเลี้ยงหมา
> 3. คนที่เป็นชาวเดนมาร์กดื่มชา
> 4. บ้านสีเขียวอยู่ทางซ้ายของบ้านสีขาว
> 5. เจ้าของบ้านสีเขียวดื่มกาแฟ
> 6. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Camel เป็นคนเลี้ยงนก
> 7. เจ้าของบ้านสีเหลืองสูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
> 8. คนที่อยู่บ้านหลังกลางดื่มนม
> 9. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่บ้านหลังแรก
> 10. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro อยู่ติดกับคนเลี้ยงแมว
> 11. คนที่เลี้ยงหนูแฮมเตอร์อยู่ติดกับของที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
> 12. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Kent ดื่มเบียร์
> 13. คนที่เป็นชาวเยอรมัน สูบบุหรี่ยี่ห้อ Vogue
> 14. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่ติดกับบ้านสีฟ้า
> 15. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro เป็นเพื่อนกับคนดื่มน้ำส้ม
>
> คำถาม....... ใครเป็นคนเลี้ยงปลา?

แบบว่าเราอยู่ใน98%อ่ะ งงสุดๆ

ใครอยากรู้คำตอบเข้าไปดูในคอมเม้นนะจ๊ะ

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มาทำความรู้จักกับ Memory ชนิดต่างๆ กันดีกว่า

คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับการ์ดหน่วยความจำ(Memory Card) กันบ้างดีกว่า สำหรับการ์ดหน่วยความจำเป็นนับเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องทำความรู้จักกับการ์ดหน่วยความจำกันสักหน่อย การ์ดหน่วยความจำมีอยู่หลายแบบหลายขนาดหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้เรามาทำความรู้จักกับการ์ดหน่วยความจำแต่ละชนิดกันก่อนดีกว่า
1. Memory stick เป็นการ์ดหน่วยความจำที่ที่ผลิตโดยบริษัท Sony ลักษณะคล้ายแท่งหมากฝรั่งขนาด 50.0 x 21.5 x 2.8mm น้ำหนักประมาณ 4 กรัม มีความจุตั้งแต่ 4 MB จนถึง 256 MB สามารถพัฒนาได้ถึง 32 GB มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 2.4 MB/SEC ความเร็วในการเขียนข้อมูล 2.8 MB/SEC
2. Compact Flash หรือ CF Card เป็นการ์ดหน่วยความจำอีกชนิดหนี่งที่เป็นที่นิยม(ใช้ในกล้องดิจิตอล) โดย CF Card พัฒนาโดยบริษัท Sandisk ปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบคือ type I และ type II โดยแบบที่สองมีความเร็วในการทำงานมากกว่าแบบแรก และมีขนาดใหญ่กว่า CF Card มีความเร็วในการทำงานต่ำกว่า การ์ดหน่วยความจำแบบอื่น แต่ปัจจุบันการ์ดชนิดนี้มีการพัฒนากันอย่างมาก ทำให้ความเร็วและความจุเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีขนาถึง 1 GB แล้ว การ์ดหน่วยความจำชนิดนี้มีขนาด 43.0 x 36.0 x 3.3 mm น้ำหนักประมาณ 12 กรัม
3. xD-Picture Card เป็นหน่วยความจำที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง มีขนาดเล็กเท่าแสตมป์ หรือ 25.0 x 20.0 x 1.7 mm น้ำหนักประมาณ 2 กรัม เป็นการ์ดหน่วยความจำที่บริษัท Fuji และ Olympus ร่วมกันพัฒนาขึ้นมา ปัจจุบันมีขนาดตั้งแต่ 64 MB - 256MB แต่สามารถพัฒนาได้ความจุถึง 8 GB มีความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 5 MB/Sec และความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 1.3-3 MB/Sec นับว่ามีความเร็วสูงมาก
4. Secure Digital Card หรือ SD Card เป็นการ์ดยอดนิยมในปัจจุบัน มีความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ประมาณ 1.3 MB/Sec มีความเร็วในการบันทึกอยู่ที่ 1-2 MB/Sec ความจุสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 4 GB มีขนาด 32.0 x 24.0 x 1.4 mm
5. SmartMedia Card เป็นการ์ดหน่วยความจำที่มีแนวโน้มจะเลิกการผลิต เพราะมีปัญหาอยู่หลายประการ เช่น สามารถทำความจุสูงสุดได้เพียง 128 MB แผงวงจรภายนอกเปลือย สกปรกง่าย แต่ก็มีข้อดีอยู่ที่ว่าขนาดเล็กเพียง 45.0 x 37.0 x 0.76 mm น้ำหนักเพียง 2 กรัม มีความเร็วในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 5 MB/Sec และความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 1.3-3 MB/Sec
6. Multimedia Card หรือ MMC Card เป็นการ์ดหน่วยความจำที่มีขนาดและรูปร่างเหมือน SD Card ทุกประการ จะต่างกันตรงที่ว่าในการจัดเก็บข้อมูล MMC Card จะเก็บข้อมูลเลย แต่ SD Card จะมีการเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) และ SD Card จะทำงานได้เร็วกว่า อุปกรณ์ที่ใช้ SD Card ส่วนใหญ่จะใช้ MMC Card ได้ด้วยแต่อุปกรณ์ที่ใช้ได้เฉพาะ MMC Card ไม่สามารถใช้ SD Card ได้ ส่วนใหญ่ MMC Card จะใช้ใน PDA หรือ มือถือ MicroDrive เรียกได้ว่าเป็นฮาร์ดดิกส์ขนาดเล็ก พัฒนาโดยบริษัทไอบีเอ็ม ปัจจุบันมีขนาดตั้งแต่ 170-1 GB มีความเร็วในการทำงานช้า ความร้อนสูง กินแบตเตอรี่สูง ต้องระวังหากทำตกหล่นอาจเสียหายได้ง่ายเพราะเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็ก แต่ก็มีข้อดีอยู่ที่ว่าราคาถูกเมื่อเทียบกับ CF Card มีขนาด 43.0 x 36.0 x 5.5mm

ก็หวังว่าเพื่อนๆจะรู้จักกับ Memory ชนิดต่างๆมากขึ้นนะ จะได้เลือกซื้อเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับอุปกรณ์ต่างๆนะจ๊ะ

การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ก็เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยทั่ว ๆ ไป ถ้าคุณใช้อย่างเดียวไม่ดูแลรักษา อายุของการใช้ก็จะสั้นลง ส่วนคอมพิวเตอร์ก็จะทำให้เครื่องช้า ไม่เร็วเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ หรือเต็มไปด้วยแต่ขยะทั้งฮาร์ดดิสก์ เรามาดูแลรักษากันดีกว่า เพื่อให้เครื่องใช้ได้นาน ๆ หรือทำให้เครื่องของคุณเร็วขึ้น
การใช้งาน Disk Cleanup สำหรับลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจาก ฮาร์ดดิสก์ สำหรับ Windows 9x และ Windows ME
การใช้งาน Scan Disk สำหรับตรวจสอบข้อผิดพลาดของ ฮาร์ดดิสก์ สำหรับ Windows 9x และ Windows ME
การ Defrag ฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ สำหรับ Windows 9x และ Windows ME
การใช้งาน Disk Cleanup สำหรับลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจาก ฮาร์ดดิสก์ สำหรับ Windows XP
การใช้งาน Scan Disk สำหรับตรวจสอบข้อผิดพลาดของ ฮาร์ดดิสก์. สำหรับ Windows XP
การ Defrag ฮาร์ดดิสก์ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ สำหรับ Windows XP

คีย์บอร์ดสำหรับนัก "จิ้มดีด"

สำหรับใครที่เพิ่งหัดใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ครั้งแรก คงจะรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการค้นหาปุ่มของตัวอักษรที่ต้องการกดบนแป้นพิมพ์ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบ"จิ้มดีด" ทีละตัวอักษรมากกว่าการพิมพ์สัมผัส เช้านี้มีแก็ดเจ็ตที่แก้ปัญหานี้ได้หมดสิ้นมาฝากกันครับ มันมีชื่อว่า Hunt-and-Peck Keyboard

ไอเดียในการแก้ปัญหาของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นนี้จะตรงไปตรงมาแบบกำปั้นทุบดินเลยก็ว่าได้ เพราะเพียงแค่แทนที่จะออกแบบให้ชุดตัวอักษรบนแป้นพิมพ์จัดเรียงตามมาตรฐาน QWERTY ก็เปลี่ยนเป็นแป้นพิมพ์ที่เรียงตามตัวอักษร ABCDEF... เข้าไปแทนก็เป็นอันเรียบร้อย โดยผู้ใช้สามารถใช้งานในรูปแบบของคีย์บอร์ดมาตรฐานได้ด้วย เพียงแค่กดปุ่มฟังก์ชันพิเศษบนคีย์บอร์ด คุณก็จะได้ชุดแป้นพิมพ์มาตรฐานในการทำงานทันที ซึ่งชุดตัวอักษรที่เรียงกันแบบ QWERTY จะสกรีนเป็นสีแดงปรากฎอยู่บนแป้นพิมพ์เดียวกัน ผู้ใช้สามารถใช้โหมด "จิ้ม" คีย์บอร์ดได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด เพียงแค่ต่อเชื่อมคีย์บอร์ดทางพอร์ต USB ก็ใช้ได้เลย นอกจากนี้มันยังสามารถทำงานร่วมกับ Windows และ Apple คอมพิวเตอร์ทุกเวอร์ชัน และไม่เพียงแต่จะมีโหมดจิ้มดีดเท่านั้น แต่มันยังมีปุ่ม www สำหรับใช้กดเวลาป้อน URL แล้ว มันยังมีปุ่มตัวย่อต่างๆ ที่ใช้ในอีเมล์ และ MSN ให้มาอีกด้วย สนนราคาของ Hunt-and-Peck Keyboard อยู่ที่ 21.99 เหรียญฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 800 บาทครับ

ฮา ฮา : ภรรยา 5 อาชีพ...ที่ควรละเว้น

ต้องคิดให้ดีถ้ามีภรรยา5อาชีพ ต่อไปนี้...เหอๆ

อาชีพที่ ๑
พวกนักกีฬา...เพราะว่าพวกนี้ วันๆ จ้องแต่จะทำลายสถิติ
อยู่บ้านเฉยๆ ก็สะกิดแล้ว..."หมู่นี้ สถิติตกไปนะพี่ขา
มาทำลายสถิติกันเถอะคะ
" (สถิติอะไรคิดเอาเอง...)

อาชีพที่ ๒
พวกครู...พวกนี้จะชอบสอนเป็นนิสัย สอนเสร็จก็จะถามว่าเข้าใจไหม
ถ้าตอบว่าเข้าใจ ก็จะให้การบ้านไปทำทั้งที่เหนื่
อยจะแย่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหล่อนเป็
นครูอนุบาลด้วยแล้ว หล่อนจะ
ชอบพูดว่า..."เก่งมากกกกค่
าาาาา....เอาาาอีกกกกก"


อาชีพที่ ๓
พวกพยาบาลทั้งหลาย....พวกนี้วิตกจริตครับ รักความสะอาด
ชอบถามว่าล้างแล้วหรือยัง ถ้าบอกว่าล้างแล้ว ก็จะถามต่อว่า
แล้วลวกน้ำร้อนแล้วหรือยัง เช็ดแอลกอร์ฮอลล์แล้วหรือยัง..
.แล้ว
คุณจะไปเช็ดไหมหล่ะครับ

อาชีพที่ ๔
พวกพนักงานโอเปอร์เรเตอร์...เพราะเวลาที่เราต้องการ
หล่
อนจะชอบบอกว่า
"กรุณารอสักครู่ค่ะ"



อาชีพที่ ๕

พนักงานแคชเชียร์...พวกนี้
ชอบติดป้ายว่า ..."กรุณาใช้ช่องถัดไป"....

แบบทดสอบทางจิตวิทยา : สมองคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากัน !!!‏

นำมาจากหนังสือ เจาะจุดตาย ผู้ชาย&ผู้หญิง หรือ Why men don't listen & Women can't read maps ของสามีภรรยา Pease ซึ่งเป็นหนังสือที่อ้างอิงเนื้อหาจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลก

แบบทดสอบนี้จะบอกรูปแบบของสมองของ คุณๆท่านๆ ว่าเป็นแบบผู้หญิง หรือผู้ชายเท่านั้น ไม่มีข้อใดถูก ข้อใดผิด คำตอบที่ได้นี้จะบอกได้ว่าคุณได้รับฮอร์โมนเพศมากน้อยแค่ไหนตอนที่สมองกำลัง เริ่มเจริญช่วงสัปดาห์ที่ 6-8 ในครรภ์มารดา คำตอบของคุณจะสะท้อนถึงความชอบ ค่านิยม อุปนิสัย สไตล์ การปฏิบัติตน และทางเลือกต่างๆ รวมถึงแนวทางในการปรับตัวเข้าหาเพื่อนต่างเพศของคุณด้วย

ขอให้นำกระดาษมาจดคำตอบของคุณ ข้อไหนที่ไม่มีคำตอบที่ถูกใจคุณ หรือไม่ตรงตามที่คุณปฏิบัติ หรือต้องการเว้นว่างไว้ ให้ตอบ .

ตอบข้อที่ใกล้เคียงกับความเป็นคุณที่สุดนะครับ


1. ถ้าต้องดูแผนที่หรือแผนผังบอกถนนหนทาง คุณมักจะ

. ดูไม่เป็น และต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่

. พยายามพลิกแผนที่ให้ตรงกับเส้นทางที่จะไป

. ดูสบายๆ ไม่ยากเย็น


2. คุณกำลังทำอาหารที่ค่อนข้างปรุงยาก โดยเปิดวิทยุฟังเพลงไปด้วย จู่ๆเพื่อนก็โทรศัพท์มา คุณจะ

. เปิดวิทยุไว้และปรุงอาหารต่อ พร้อมๆกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย

. ปิดวิทยุ แล้วคุยโทรศัพท์ พร้อมกับปรุงอาหารไปด้วย

. บอกเพียงว่าจะโทรกลับไปทันทีที่ปรุงอาหารเสร็จ


3. เพื่อนต้องการมาเที่ยวบ้านใหม่ของคุณ และถามถึงหนทาง คุณจะ

. วาดแผนที่บอกเส้นทางที่ชัดเจนให้เพื่อนดู หรือไม่ก็วานคนอื่นอธิบายให้เข้าใจ

. ถามเพื่อนว่ารู้จักสถานที่สำคัญๆในย่านนั้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้อธิบายเพิ่มจากจุดนั้นมายังบ้าน

. อธิบายปากเปล่าเป็นฉากๆ อาทิ ขึ้นรถเมล์สาย 26 ไปลงที่อนุสาวรีย์หลักสี่ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 2 ไฟแดง ฯลฯ


4. ถ้าต้องอธิบายความคิดอ่านบางอย่างของคุณเอง คุณมักจะ

. ใช้ดินสอ กระดาษ และภาษามือช่วยอธิบายด้วย

. อธิบายด้วยวาจา โดยให้ภาษามือด้วย

. อธิบายด้วยปากเปล่าได้อย่างแจ่มแจ้ง และกระชับได้ใจความ


5. เพื่อกลับจากดูภาพยนตร์ คุณมักจะชอบ

. นึกถึงฉากเก่าๆ ที่ชมในภาพยนตร์

. พูดถึงฉากต่างๆ และคำพูดของตัวละคร

. ทวนคำพูดของตัวละครได้ทุกประโยค


6. ขณะที่อยู่ในโรงภาพยนตร์คุณมักจะเลือกที่นั่ง

. ด้านทางขวาของโรง

. ตรงไหนก็ได้ ไม่มีปัญหา

. ด้านทางซ้ายของโรง


7. เครื่องยนต์กลไกบางอย่างของเพื่อนเกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา คุณมักจะ

. แสดงความเป็นอกเห็นใจและชวนคุยให้เขาระบายความรู้สึกออกมา

. แนะนำคนที่ไว้ใจได้สักคนช่วยซ่อมให้

. พยายามช่วยซ่อมด้วยตัวคุณเอง


8. คุณอยู่ในที่แปลกถิ่น จู่ๆก็มีคนมาถามว่าทิศเหนือไปทางไหน คุณจะ

. บอกตามตรงว่าคุณเองก็ไม่รู้

. พยายามนึกแล้วเดาว่าน่าจะเป็นทางไหน

. ชี้บอกทิศเหนือได้ทันที โดยไม่ต้องลังเลใจ


9. คุณกำลังดูทีวี จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คุณจะ

. รับโทรศัพท์โดยเปิดทีวีเอาไว้

. ปิดทีวีก่อน ค่อยรับโทรศัพท์

. ปิดทีวี แล้วบอกคนที่อยู่ในห้องให้เงียบก่อนค่อยรับโทรศัพท์


10. คุณพบที่จอดรถแต่ค่อนข้างแคบ ต้องถอยรถหักเลี้ยวหลายครั้งจึงจะจอดได้ คุณจะ

. ขับเลยไปหาที่จอดอื่น

. พยายามถอยจอดด้วยความอดทน

. ถอยจอดได้อย่างคล่องแคล่ว


11. คุณเพิ่งได้เพลงใหม่ล่าสุดของศิลปินคนโปรด คุณมักจะ

. ร้องบางท่อนของเพลงนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว

. ร้องบางท่อนของเพลงนั้นได้ ถ้าหากเป็นเพลงที่จำง่าย

. จำทำนองเพลงไม่ค่อยได้ แต่จำเนื้อเพลงบางประโยคได้


12. คุณมักจะเก่งเรื่องการคาดเดา หรือการทำนายทายทักโดยใช้

. ความหยั่งรู้

. ใช้ทั้งข้อมูลเท่าที่หาได้ และใช้ความหยั่งรู้

. ใช้ข้อมูล สถิติและข้อเท็จจริงต่างๆ


13. คุณวางกุญแจผิดที่แล้วนึกไม่ออกว่าวางไว้ตรงไหน คุณจะ

. ทำงานอย่างอื่นไปก่อนจนกว่าจะนึกออกเอง

. ทำงานอย่างอื่นไปก่อน แต่ก็พยายามนึกไปด้วยว่าวางไว้ตรงไหน

. ตั้งหน้าตั้งตานึกย้อนไปทีละก้าวจนกว่าจะจำได้ว่าวางไว้ตรงไหน


14. ขณะที่อยู่ในโรงแรม คุณได้ยินเสียงไซเรนดังมาแต่ไกล คุณจะ

. บอกได้ทันทีว่า เสียงไซเรนดังมาจากทางไหน

. ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ก็อาจจะบอกได้ว่าเสียงไซเรนดังมาจากทางไหน

. จับไม่ได้เลยว่าดังมาจากไหน


15. คุณไปงานสังสรรค์งานหนึ่งและได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ 7-8 คน วันรุ่งขึ้นคุณจะ

. นึกหน้าของแต่ละคนออกอย่างง่ายดาย

. จำหน้าได้เพียงไม่กี่คน

.จำชื่อได้ แต่จำหน้าไม่ค่อยได้


16. คุณอยากจะไปเที่ยวเขาใหญ่ แต่คู่ครองคุณอยากไปหัวหิน คุณจะโน้มน้าวให้เขาหรือเธอเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ด้วยวิธีใด

. พูดเสียงหวาน สาธยายว่าคุณชอบเขาใหญ่ตรงไหน ถ้ามีลูกก็บอกว่าลูกๆเองก็สนุกทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวที่นั่น

. บอกว่าคุณจะซาบซึ้งมากถ้าเขาหรือเธอยอมไปเขาใหญ่ และครั้งต่อไปคุณจะยอมไปหัวหินด้วยความเต็มใจ

. ใช้ข้อมูลต่างๆมาอ้างอิง อาทิ เขาใหญ่ใกล้กว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าและมีกิจกรรมให้ลูกๆเล่น มากกว่าหัวหิน


17. เมื่อต้องการเตรียมแผนงานของกิจกรรมในแต่ละวัน คุณจะ

. เขียนลงบนกระดาษเพื่อจะได้รู้ว่าควรทะไรก่อนหลัง

. คิดถึงสิ่งที่คุณต้องทำ

. นึกภาพของคนที่คุณต้องเจอ สถานที่ที่คุณต้องไปและสิ่งที่คุณต้องทำเอาไว้ในใจ


18.เพื่อนมีปัญหาส่วนตัว และนำมาเล่าให้คุณฟัง คุณจะ

. แสดงความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจปัญหาของเขา

. บอกว่าปัญหาของเขาไม่เลวร้ายอย่างที่คิดและอธิบายด้วยว่าเพราะอะไร

. ให้คำแนะนำอย่างมีเหตุมีผลถึงวิธีแก้ไขปัญหา


19.เพื่อน 2 คนซึ่งมีคู่ครองแล้วทั้งคู่กำลังแอบปิ้งกัน คุณจะสังเกตเห็นเร็วแค่ไหน

. เห็นตั้งแต่ทั้งคู่เริ่มมีใจให้กันใหม่ๆ

. เห็นตอนที่ทั้งคู่ชอบกันมาได้สักพักแล้ว

. ไม่รู้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆเลย


20. ชีวิตคืออะไรในความเห็นของคุณ

. คือการมีเพื่อนฝูง และอยู่ร่วมกับคนรอบข้างอย่างปรองดอง

. คือการเป็นมิตรกับผู้อื่นแต่ยังรักษาอิสรภาพส่วนตัวเอาไว้

. คือการได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศเงินทองและความสำเร็จนานัปการ


21. ถ้ามีโอกาสเลือกได้ คุณจะเลือกทำงานที่

. ทำงานร่วมกันเป็นทีมกับคนที่ใช้การได้

. ทำงานร่วมกับผู้อื่น แต่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวเอาไว้

. ทำงานคนเดียว


22.หนังสือที่คุณชอบอ่านคือ

. นิยาย

. นิตยสารและหนังสือพิมพ์

. หนังสือวิชาการและอัตชีวประวัติ


23.ขณะที่ช้อปปิ้งอยู่ในห้าง คุณมักจะ

. ซื้อของตามชอบใจ ถ้าเจออะไรถูกใจก็ซื้อเลย

. ซื้อตามรายการที่เตรียมเอาไว้แล้ว แต่อาจซื้อบางอย่างที่ถูกใจเพิ่มเติม

. อ่านฉลากและเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ


24. คุณจะเข้านอน ตื่นและรับประทานอาหาร

. เมื่อคุณนึกอยากทำเท่านั้น

. ตามเวลาอันสมควร แต่ก็ยืดหยุ่นได้

. ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ทุกอย่าง


25. คุณได้งานใหม่และต้องทำร่วมกับเพื่อนใหม่หลายต่อหลายคน เพื่อนใหม่คนหนึ่งโทรมาหาคุณที่บ้าน คุณจะ

. จำเสียงเขาได้ทันทีอย่างง่ายดาย

. ต้องพูดด้วยสกพักถึงจะจำเขาได้

. นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร


26. อะไรทำให้คุณหงุดหงิดที่สุดขณะถกเถียงกับใครสักคน

. ความเงียบหรือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากคู่กรณี

. ความไม่เข้าใจในประเด็กที่คุณต้องการชี้แจง

. การตั้งคำถามที่ท้าทายและการวิพากษ์วิจารณ์


27. ในห้องเรียน คุณรู้สึกอย่างไรกับการสอบเรียงความและเขียนคำยาก

. เป็นวิชาที่ง่ายมากทั้งสองวิชา

. คุณชอบวิชาหนึ่ง แต่ไม่ชอบอีกวิชาหนึ่ง

. คุณไม่ชอบเลยทั้ง 2 วิชา


28. เมื่อต้องการเต้นรำ หรือเต้นแจ๊สเพื่อออกกำลังกาย คุณมักจะ

. เข้าถึงท่วงทำนองเพลงทันทีที่คุณรู้จังหวะการเต้น

. เต้นได้บ้างในบางท่า แต่บางท่าก็เต้นไม่ถูกจังห

วะ

. เต้นไม่ถูกจังหวะเอาเลย หรือยังเต้นเบรคแดนซ์ได้


29. คุณทำเสียงเลียนแบบเสียงร้องของสัตว์ได้ดีแค่ไหน

. ไม่ค่อยดี

. พอไหว

. ดีมาก


30. หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน คุณมักจะชอบ

. คุยกับเพื่อนและครอบครัวถึงเรื่องราวต่างๆ ที่คุณพบพานในวันนี้

. ฟังคนอื่นคุยถึงเรื่องราวของพวกเขา

. อ่านหนังสือพิมพ์ ดูทีวี และไม่คุยกับใครเลย

. ทำกิจกรรมทางเ_ศกับคู่รักของคุณ

===================================

ดูวิธีคิดคะแนนข้างล่าง







วิธีคิดคะแนน

ขั้นแรกให้นับจำนวน , , , และ ที่คุณเลือกตอบว่ามีอย่างละกี่ตัว และใช้เกณฑ์ต่อไปนี้ในการหาคะแนนรวม


สำหรับผู้ชาย

คำตอบที่เป็น x 15 คะแนน

คำตอบที่เป็น x 5 คะแนน

คำตอบที่เป็น x (-5) คะแนน

คำตอบที่เป็น x 5 คะแนน


สำหรับผู้หญิง

คำตอบที่เป็น x 10 คะแนน

คำตอบที่เป็น x 5 คะแนน

คำตอบที่เป็น x (-5) คะแนน

คำตอบที่เป็น x 5 คะแนน


มากกว่า 300 คะแนน = สมองมีความเป็นผู้หญิงสูง

คุณ ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงในปริมาณสูงมากใน 6-8 สัปดาห์แรก คุณจึงได้ชื่อว่าเป็น อาร์ทตัวแม่ ถ้าหากมีผู้ชายทำคะแนนได้ถึงระดับนี้ ก็มีแนวโน้มว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นเกย์


ระหว่าง 180 - 300 คะแนน = คุณมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า

สมอง ของคุณถูกจัดแต่งให้มีความคิดแบบผู้หญิง ยิ่งได้คะแนนสูงเท่าไหร่ยิ่งมีความคิดเป็นแบบผู้หญิงมากเท่านั้น คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีศิลปะและมีความสามารถทางดนตรี การตัดสินใจของคนกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์หรือสัญชาติญาณมากกว่าเหตุผล และสามารถเข้าใจปัญหาต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลมากมายนัก ที่สำคัญคือ สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยใช้ความคิดคำนึงและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นหลัก


ระหว่าง 150 - 180 คะแนน = ช่วงคะแนนเหลื่อมล้ำ

เป็น ช่วงที่แสดงถึงความคิดอ่านอย่างเป็นกลางระหว่างคนทั้ง 2 เพศ คนที่ได้คะแนนระดับนี้จะไม่แสดงออกมาชัดเจนว่าคิดแบบผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จะมีความยืดหยุ่นในระบบการคิดแก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด คนกลุ่มนี้สามารถเข้าได้ดีกับเพื่อนทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิ


ระหว่าง 0 - 150 คะแนน = คุณมีความเป็นผู้ชายมากกว่า

สมอง ของคุณถูกจัดแต่งให้มีความคิดแบบผู้ชาย ยิ่งใกล้ 0 เท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีความเป็นผู้ชายมากขึ้นเท่านั้น เพราะฮอร์โมนเพศ "เทสทอสเทอโรน" ค่อนข้างสูง คนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่ใช้เหตุใช้ผล ชอบวิเคราะห์ ค่อนข้างเจ้าระเบียบ และมีวินัยเป็นเยี่ยม ยิ่งได้คะแนนต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นคนสุขุม ไม่ใช้อารมณ์ใดๆในการทำงาน ชอบวางแผนโดยใช้ข้อมูลทางสถิติล้วนๆ


ต่ำกว่า 0 คะแนน = สมองมีความเป็นผู้ชายสูง

คุณ ได้รับฮอร์โมนเพศชายในปริมาณสูงมากใน 6-8 สัปดาห์แรก สมองของคุณมีความเป็นชายสูงลิบลิ่ว! ถ้ามีผู้หญิงที่ทำคะแนนได้ในระดับนี้ ก็มีแนวโน้มว่าเธอผู้นั้นจะเป็นเลสเบี้ยน(หรือทอมบอย ในบ้านเรา) แล้วล่ะ